บริษัท Exousia Luxury จากประเทศอิตาลี ตอกย้ำความหรูให้ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่องามสำหรับเศรษฐี ภายใต้ชื่อ "Exousia Gold" ด้วยการเปิดตัวรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น "Exousia Gold 24K" ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นน้ำดื่มสุดหรูชนิดแรกชนิดเดียวในโลกที่ผสมทองคำ 24 เค (ชนิดรับประทานได้) ที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 999.99%
เมื่อไม่นานมานี้ "บีเอสเอ็นนิวส์" เพิ่งนำเสนอข่าว ดินสอ รถเข็น ไอพอด โทรศัพท์มือถือ ไส้แมกซ์ ฯลฯ ที่ถูกปรับโฉมให้เป็นเวอร์ชั่นทองคำสุดหรู คราวนี้เรามาดู "น้ำดื่มผสมทองคำ 24 เค" กันบ้าง
Exousia Gold Basic
อันที่จริงก่อนหน้าที่จะเปิดตัวน้ำ ดื่มทองคำ บริษัท Exousia Luxury จากประเทศอิตาลี เขาก็มีผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อความงามสำหรับเศรษฐีภายใต้ชื่อ "Exousia Gold Basic" ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเครื่องดื่มเพื่อความงามที่หรูหรา ราคาแพง และเป็นรู้จักกันดีในหมู่เศรษฐีทั่วโลกอยู่แล้ว
และเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้ ผลิตเครื่องดื่มสุดหรูระดับไฮเอนด์ ทางบริษัทฯ จึงได้เปิดตัว น้ำดื่มรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น ภายใต้ชื่อ "Exousia Gold" ที่มาพร้อม "ทองคำ 24 เค" (มีความบริสุทธิ์สูงถึง 999.99%) โดยบรรจุอยู่ในขวดแก้วเวอร์จิ้นกลาสเพื่อคงคุณค่าของน้ำแร่และสารอาหารที่ประโยชน์ต่อร่างกาย
Exousia Gold
และเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ทองคำจึงถูกแยกบรรจุอยู่ในหลอดเล็กๆ ที่หุ้มด้วยหนังงูหลามอย่างดี ส่วนวิธีการดื่มก็ไม่ยาก เพียงแค่เททองคำลงไปในขวดน้ำแร่แล้วเขย่าให้เข้ากัน หลังจากนั้นทองคำจะทำปฏิกิริยากับอนุภาคของน้ำแร่ ฯลฯ (ซึ่งมีส่วนผสมและใช้เทคนิคพิเศษที่ทางบริษัทปิดเป็นความลับ) ก่อให้เกิดสรรพคุณทางด้านการชะลอความแก่ ฟื้นฟูเซลล์ผิว และช่วยต้านทานความเครียด
Exousia Gold
และเพื่อตอกย้ำความเป็นรุ่นลิมิเต็ดอิ ดิชั่น ทางบริษัทฯ จึงได้จัดทำกล่องจากวัสดุชั้นดี ประดับด้วยอัญมณีระยิบระยับ มีหลายสี หลากแบบ ให้เลือกตามความต้องการ (สีกล่องและหลอดบรรจุทองคำจะได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกัน) ทั้งยังมีการรันนัมเบอร์ข้างกล่องว่าน้ำดื่มขวดนั้นๆ ถูกผลิตขึ้นเป็นขวดที่เท่าไหร่
อย่างไรก็ตาม น้ำดื่มทองคำรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นนี้จะไม่มีวางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า ชั้นนำทั่วไป ดังนั้น ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เช่น เรื่องราคา จึงต้องติดต่อไปที่บริษัทโดยตรง และจะต้องสั่งจองล่วงหน้าเท่านั้น
Exousia Gold
* บทความนี้อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ต่อได้ตามสัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์ 3.0 ประเทศไทย โดยจะต้อง แสดงที่มา ไม่ใช้เพื่อการค้า และไม่ดัดแปลง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
อารายเหรอ