ส้มตำ ตำส้ม หลวงพระบาง

ส้มตำ ตำส้ม หลวงพระบาง
หมูหินชิมเองพาชิม “ตำส้มแคมโขง” ส้มตำลาวแบบคนท้องถิ่นครับ…หมูหินชิมเอง

หมูหินพาเลียบแคมโขง แวะชิมตำส้มแคมโขง หรือที่เมืองไทยเรียกว่า “ส้มตำริมแม่น้ำโขง” อร่อยรสชาติถูกใจแบบสุดๆ รสชาติจัดจ้านสะใจ ถูกใจคนไทยแบบเราๆท่านๆเลยทีเดียว เพราะที่หลวงพระบางจะชอบทานรสชาติที่ไม่ค่อยเผ็ดนัก จะมีอยู่ไม่กี่ร้านที่เค้าจะทำรสชาติจัดขนาดนี้ ร้ายส้มตำร้านนี้เราจึงตั้งชื่อให้เองเลยว่า “ร้านตำส้มแคมโขง” เนื่องจากว่าหลวงพระบางยังไม่ค่อยเจริญเหมือนประเทศไทยนัก ร้านที่อยู่ตามฟุตบาตรทั่วไปก็ยังไม่มีป้ายชื่อร้าน เราเลยตั้งชื่อให้เองเลยครับ

ภาษาลาววันนี้เสนอคำว่า “แคมโขง” หมายถึง “ริมโขง” และเสนอคำว่า “ตำส้ม” หมายถึง “ส้มตำ” งั้นเราก็ขอใช้สองคำนี้นำเสนอท่านๆเลยละกันครับ เพราะเราจะได้บรรยากาศแบบหลวงพระบางกันไปเลย แต่ต้องเกริ่นก่อนนะครับ ว่าเราจะไปบอกเค้าว่าลาวไม่ได้เพราะหากว่าเราถามว่าเค้าเป็นคนลาว เค้าจะเถียงขึ้นมาทันทีเลยว่าเค้าไม่ใช่ลาว เค้าคือคนหลวงพระบาง เค้าบอกว่าลาวก็คือคนลาวที่อยู่เมืองลาว เค้าคือคนหลวงพระบางครับ

ตำส้มแคมโขงนี้เป็นร้านที่อยู่ต้นซอยถนนเลียบแคมโขงเลย หากขี่จักรยานก็ให้ขี่ขึ้นไปทวนน้ำไปเรื่อยจะเห็นร้าน “ตำส้มแคมโขง” อยู่ซ้ายมือ ร้านนี้เป็นที่นิยมของชาวหลวงพระบางและต่างชาติมาก เป็นร้านที่อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่แคมโขง และมีโต๊ะนั่งประมาณสัก 10 โต๊ะได้ เป็นร้านเล็กๆที่น่านั่งมากเพราะวิวทิวทัศน์แคมโขงที่หลวงพระบางนี่สวยมากๆ โดยเฉพาะตอนเย็นๆพระอาทิตย์จะตกฝั่งตรงข้ามที่เรานั่ง และร้านนี้เองก็มีเบียร์และเหล้าไว้ให้บริการด้วย

การได้จิบเบียร์ดื่มด่ำกับแคมโขงมันช่างมีความสุขเสียจริง เพราะได้นั่งจิบเบียร์ที่ร้านแคมโขงนี้ แล้วดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปเรื่อยๆ ได้บรรยากาศความเงียบสงบของเมืองหลวงพระบางดีที่สุด และร้านนี้เองหมูหิน.คอม ขอแนะนำให้มาทานตอนเย็นๆ เพราะได้เห็นบรรยากาศที่สวยงามของหลวงพระบาง และได้เห็นชาวบ้านออกมาหาปลา วางตาข่ายที่แม่น้ำโขง

แม่น้ำโขงช่างกว้างนัก กว่าจะข้ามเรือไปฝั่งตรงข้ามก็ใช้เวลาหลายนาทีทีเดียว แถมน้ำไหลเชี่ยวด้วย และแม่ค้าร้านนี้เองก็ใจดีแถมยังสาวสวยด้วย แต่ใครที่มาร้านนี้ก็คงคิดว่าร้านนี้เป็นที่นั่งเล่น เนื่องจากว่าครัวของร้านจะอยู่ตรงข้ามโต๊ะนั่ง จะเป็นเพิงเล็กๆหากใครที่ไม่สังเกตคงคิดว่าเป็นร้านธรรมดาๆที่ใครๆคิดว่าไม่อร่อยนัก แต่หมูหินแนะนำ ว่าร้านนี้อร่อยจริงเค้าจะขายเฉพาะส้มตำและก๋วยเตี๋ยวหรือที่เค้าเรียกกันว่า “เฝ๋อ”

ร้านตำส้มแคมโขงนี้พิเศษตรงที่ว่ารสชาติจัดจ้านมากหรืออีกอย่างก็คือ “แซบหลาย” และที่หมูหินติดใจมากก็คือ “ตำซั่ว” ที่อร่อยมากๆ เพราะเราได้หาร้านแบบนี้มา 3 วันแล้ว หายากพอควร เพราะร้านอื่นๆเค้าไม่มีรสชาติจัดๆแบบนี้ และตำซั่วที่หลวงพระบางนื้เค้าจะใส่เส้นก๋วยเตี๋ยว เค้าไม่ได้ใส่ขนมจีนแบบเมืองไทย ส่วนเครื่องเทศของเค้าจะเข็มข้นมาก ทั้งปลาร้า ถั่วคั่ว และอื่นๆอีกมากมาย และอีกอย่างที่เราอยากจะเสนอก็คื “เฝ๋อ” หรือว่าก๋วยเตี๋ยวนั่นเอง ที่พิเศษคือเฝ๋อของหลวงพระบางจะไม่เหมือนก๋วยเตี๋ยวบ้านเราไม่ว่าเส้นก๋วยเตี๋ยวหรือน้ำซุปเองและผักที่ใส่ลงไปก็ไม่เหมือนเลย หากจะให้นึกภาพให้ออกก็คงต้องบอกว่าเหมือนเฝ๋อของเวียตนามนั่นเอง หน้าตาเหมือนไม่พอรสชาติเหมือนกันไม่มีผิด

เพราะเราถามไปถามมาก็ได้ความมาอีกว่า เมืองหลวงพระบางแห่งนี้ได้มีอยู่หลายเชื้อชาติด้วยกัน เมื่อในอดีตที่ยาวนานมานี้การเกิดสงครามได้ก่อให้เกิดการอพยพจากลงครามเวียตนามที่เราคุ้นๆหูกัน ทำให้คนเวียตนามต้องระหกระเหินอพยพไปต่างถิ่น และเมืองหลวงพระบางนี้เองก็เป็นอีกที่นึ่งที่คนเวียตนามเลือกมาอยู่ที่นี่ และนั่นเองก็เป็นการประวัติความที่อาจจะเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่และอาหารการกินของชาวหลวงพระบางด้วย

ตำส้มแคมโขงนี้ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่เราชาวหมูหินไม่ควรพลาดเป็นอย่ายิ่ง เพราะการที่ใครคนหนึ่งได้เยือนเมืองมรดกโลกแห่งนี้ก็คงที่จะไม่อยากพลาดกับการได้ชิมรสชาติของอาหารพื้นบ้านเป็นแน่ หากใครไปร้านตำส้มแคมโขงนี้ไม่ถูก เราแนะนำให้ขี่จักรยานเที่ยวเลียบเลอะแคมโขงก็คงไม่มีปัญหา เพราะขี่เลาะไปเรื่อยๆก็จะเจอเองครับ แต่ต้องสังเกตดีๆหน่อยก็พอ

หมูหินกินเที่ยวที่เมืองหลวงพระบางนี้ก็ได้ข้อมูลดีมาฝากเพื่อนเราชาวหมูหินกัน ติดตามกันต่อไปว่าเราจะพาท่านไปเที่ยวไปชิมที่ไหนอีก และที่แน่ๆหมูหินชิม