วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553

อันตรายจาก"ยาทาเล็บ"

อันตรายจาก"ยาทาเล็บ"






ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่งก็จริง แต่ก็ควรตระหนักถึงอันตรายของเครื่องสำอางด้วยอย่างเช่น "ยา ทาเล็บ" เป็นต้น ฐิตินันท์ ศรีสถิต แห่งคอลัมน์ "โลกสรรพสินค้า" นิตยสาร "สารคดี" ฉบับล่าสุด มีคำเตือนฝากหญิงสาว

* สัญญาณเบื้องต้นที่บ่งบอกความเป็น อันตรายของยาทาเล็บคือกลิ่นเหม็นรุนแรงที่โชยออกมาเมื่อเปิดฝา อันเกิดจากการผสมกันของแอลกอฮอล์ โซลเวนต์หรือสารอินทรีย์ระเหยที่ใช้เป็นตัวทำละลายซึ่งช่วยให้ยาทาเล็บแห้ง เร็ว และเรซิ่นที่ทำให้สีของยาทาเล็บติดทนทาน ไม่ลอกล่อนโดยง่าย

* มีสารพิษ 3 ชนิดปะปนอยู่ ในยาทาเล็บทั่วไป คือ ไดบิวทิล พทาเลต สารประกอบไทลูอิน และฟอร์มาลดีไฮด์

* ไดบิวทิล พทาเลต เป็นปัจจัยเพิ่มอัตราการเป็นหมันในหญิงและชาย ในระยะยาวจะส่งผลต่อไตและตับ

* ไทลูอิน ไม่เพียงรบกวนการเจริญเติบโตและระบบสืบพันธุ์ แต่ยังสร้างความระคายเคืองผิวหนังและส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เหนื่อย สับสน และสูญเสียความทรงจำ หากสูดดมมากๆ จะมีอาการหน้ามืด ตาลาย ปวดศีรษะ

* ฟอร์มาลดีไฮด์ หากสัมผัสกับผิวหนังจะปรากฏเป็นผื่นแพ้และคัน หากสูดดมเข้าไปในระยะสั้นจะสร้างความระคายเคืองในลำคอและไอ ในระยะยาวทำให้เป็นมะเร็งในระบบทางเดินหายใจ

* สีในยา ทาเล็บส่วนใหญ่เป็นสีสังเคราะห์ ส่วนยาทาเล็บที่ผลิตด้วยสีธรรมชาติก็จำเป็นต้องเติมแร่ไมกาเพื่อเพิ่มประกาย แวววาว สิ่งที่คุณอาจไม่รู้ก็คือ การทำเหมืองไมกามีการใช้แรงงานเด็กและผู้หญิง

* นอกจาก ยาทาเล็บแล้ว น้ำยาล้างเล็บก็อันตรายไม่เบา ยิ่งทาเล็บติดทนนานเพียงใด ยิ่งต้องใช้น้ำยาที่ผสมด้วยตัวทำละลายเข้มข้นสูง จึงมีฤทธิ์มากพอจะล้างสีออกจากเล็บได้ง่ายดาย

* น้ำยา ล้างเล็บส่วนใหญ่มีส่วนผสมสารเคมี 2 ชนิด คือ อะซิโตน และเอทิลอะซิเตต ซึ่งต่างก็สร้างความระคายเคืองแก่ดวงตาและระบบทางเดินหายใจ ไม่เพียงเท่านั้นยังทำให้ผิวหนังแห้งและลดทอนความแข็งแรงของเล็บอีกด้วย

ถึง จะน่ากลัว แต่ก็ยังอยากสวยอยู่ดี ใช่ไหมจ๊ะ?

เครดิต teenee.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ