วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ระวัง !! ผลการศึกษาทางการแพทย์ชี้ CT scans เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง

ระวัง !! ผลการศึกษาทางการแพทย์ชี้ CT scans เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง




(ขอบ คุณภาพจากอินเตอร์เนต)
... ระวัง !! ผลการศึกษาทางการแพทย์ชี้ CT scans เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง ...

ผลการศึกษาทางการ แพทย์สองชิ้นที่มีการตีพิมพ์เร็วๆนี้ แสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง อันเนื่องจาการใช้ CT scan ซึ่งมีใช้อย่างแพร่หลายในวงการแพทย์ปัจจุบัน น่าจะมีมากกว่า ที่วงการแพทย์เคยเชื่อกัน ผลการศึกษา นี้ สนับสนุนข้อห่วงกังวลต่อการใช้ CT scans มากเกินจำเป็น รวมถึงการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์อื่นๆซึ่งต้องใช้รังสี (radiation)
การทำCT scan (computerized tomography scan) สามารถตรวจหาร่องรอยการบาดเจ็บ หรือ ชิ้นเนื้องอกได้ การใช้อุปกรณ์การ แพทย์นี้ เพิ่มขึ้นถึงสามเท่าตัวในสหรัฐฯ เป็นประมาณ 70 ล้านครั้งในปี 2007 (ดูกราฟประกอบ) แม้จะเป็นที่รับรู้กันทั่วไป ว่ารังสีจะเพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็ง แต่ความเสี่ยงของการใช้ CT scan (ซึ่งต้องใช้รังสี) ยังไม่เป็นที่รู้กันอย่างชัดเจน



ผลการศึกษาชิ้นแรก ซึ่งตรวจสอบผู้ป่วยที่เป็นผู้ใหญ่จำนวน 4,000 คนใน สี่โรงพยาบาล คาดการณ์ว่า การได้รับรังสี ในขนาดที่ต้องใช้เพื่อทำสแกนหัวใจหนึ่งครั้ง ในวัยประมาณ 40 ปี ทำให้มีความเสี่ยง ของการเป็นมะเร็ง1ใน 270 (ในกรณีผู้หญิง) และ 1ใน 600 (ในกรณีผู้ชาย) ความเสี่ยงสำหรับการสแกนศรีษะจะลดลง คือทำให้เกิดความเสี่ยงของมะเร็ง ที่ 1ใน 8,100 (กรณีผู้หญิง) และ1 11,080 (ในกรณีผู้ชาย) ปริมาณรังสีที่ผู้รับการตรวจได้รับ ก็มีความแตกต่างกันได้มาก แม้เป็นการสแกนในตำแหน่งเดียวกัน ในโรงพยาบาลเดียวกัน ความแตกต่างดังกล่าว น่าจะมาจาก การยังไม่มีมาตรฐานในการตั้งค่า และ วิธีการใช้งานอุปกรณ์ซึ่งอาจแตกต่างกัน

ผลการศึกษาชุดที่สอง วิเคราะห์ข้อมูลจากฐานข้อมูลต่างๆ และประมาณว่า จะมีกรณีการเกิดมะเร็ง 29,000 รายในอนาคต ซึ่งเชื่อมโยงกับการทำ CT scan ในปี 2007 ทั้งนี้ มะเร็งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในบริเวณช่องท้อง และเชิงกราน ความเสี่ยงของการเป็นมะเร็ง จะมีสูงขึ้นในคนไข้ที่อ่อนวัยกว่า เป็นต้นว่า เด็กผู้หญิงซึ่งรับการสแกนช่องท้องขณะอายุ 3ขวบ จะมีความเสี่ยง 1 ใน 500 ที่จะเกิดมะเร็งอันเนื่องจากรังสีของการสแกน ความเสี่ยงนี้ ลดลงเหลือ 1 ใน1,000 เมื่ออายุที่ 30ปี และ เป็น 1 ใน3,333 เมื่ออายุ 70 ปี

“อย่างไรก็ตาม การทำ CT scans ยังอำนวยประโยชน์มหาศาลทางการแพทย์ ดังนั้น ในแต่ละกรณี หากการสแกนมีเหตุผลที่เหมาะสม ประโยชน์ที่ได้ ยังมีมากกว่าความเสี่ยง” ดร. เอมี เบอริงตัน นักวิจัย แห่งสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ผู้มีส่วนร่วม ในการวิจัยทั้งสองชิ้นให้ความเห็น

อ้างอิงจาก บทความ CT Scans Linked to Cancer ของ The Wall Street Journal

http://online.wsj.com/article/SB126082398582691047.html

จับภาพภูเขาไฟระเบิด ในท้องทะเลลึก ภาพและคลิป

จับภาพภูเขาไฟระเบิด ในท้องทะเลลึก ภาพและคลิป



(ขอบคุณภาพจากอินเตอร์ เนต)

.... ครั้งแรก!!! .. จับภาพภูเขาไฟระเบิด ในท้องทะเลลึก ภาพและคลิป ตื่นตา ...

วันนี้ อ่านพบข่าว การถ่ายภาพ และ วิดิโอ ของภูเขาไฟในทะเล ลึก ที่กำลังระเบิด และ ปะทุลาวาร้อนแดงออกจากปล่อง
ผมจึงขอนำ ภาพ และ วิดิโอ จากเวบของ มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐฯ (National Science Foundation) มานำเสนอ เพื่อจะได้ร่วมกัน ตื่นตา ตื่นใจ กับภาพที่หาดูได้ยากนี้



แมกมา คือหินที่ร้อนแดง ภายในโพรงภูเขาไฟ
ลาวา คือ หินร้อนแดง ที่หลอมเป็นของเหลว และพ่นออกมาจากปล่อง

๐๐๐๐๐๐๐๐๐

นักสำรวจทางทะเลได้ใช้ อุปกรณ์ควบคุมจากที่ไกล( remotely operated vehicle (ROV)) ชื่อยานเจสัน (Jason) เพื่อค้นหา และ บันทึก วิดิโอ และ ภาพนิ่งของภูเขาไฟในทะเลลึก ซึ่งกำลังปะทุลาวาร้อนจัดออก มาจากปล่อง และไหลลงสู่พื้นทะเล
ยานเจสัน ถ่ายวิดีโอ และภาพนิ่ง ของภูเขาไฟเวสต์มาตา (West Mata Volcano) ซึ่ง อยู่ที่ระดับประมาณ1,200 เมตรใต้ทะเล บริเวณประเทศซาโมอา ในมหาสมุทรปาซิฟิคตอนใต้



แรงระเบิดของภูเขาไฟ เวสต์มาตา พ่นเอาเถ้าถ่าน และ ก้อนหิน รวมทั้งลาวาที่ร้อนแดงด้านล่าง (ภาพจาก: NSF/NOAA )



กุ้งมารวมตัวกัน บริเวณปากปล่องภูเขาไฟ โดยสามารถทนทานต่อความร้อน(บริเวณนั้น) และ น้ำที่มีสภาพกรดได้ (ภาพจาก: NSF/NOAA)



แมกมาร้อนแดงถูกพ่นออกมา จากภายในภูเขาไฟ ขึ้นมาสู่ท้องทะเล ก่อนที่จะไหลลงสู่พื้นทะเลต่อไป
(ภาพจาก: NSF/NOAA)




ภาพแมกมาที่ร้อนจนมีสี ส้มบริเวณปล่องภูเขาไฟ ขนาดที่เห็นยาวประมาณสนามฟุตบอลล์
(ภาพจาก: NSF/NOAA)




ลาวาที่พ่นออกจากปล่อง ภูเขาไฟ มีความร้อนกว่า 1,200 เซลเซียส (ภาพจาก: NSF/NOAA )




เคล็ด มงคลเสริมโชค ในปีขาล 2553 การทำบุญไหว้พระบูชาเทพตามปีเกิด 12 นักษัตร

เคล็ด มงคลเสริมโชค ในปีขาล 2553 การทำบุญไหว้พระบูชาเทพตามปีเกิด 12 นักษัตร




.....



ปีชวด

เดือน อุปสรรค มีนาคม มิถุนายน กันยายน ธันวาคม

ไหว้หลวงปู่ทวด ตั่วเหล่าเอี๊ย (เจ้าพ่อเสือ) ซี่ไต่เทียงอ้วง พระกฤษณะ

ทุกองค์ไหว้วันพุธ ด้วยดอกบัว 4 หรือ 17 ดอก ส้ม 4 หรือ 17 ลูก น้ำ 1 แก้ว (เจ้าพ่อเสือไหว้ด้วยหมู 3 ชั้น ไข่ดิบ ส้ม 17 ลูก ซาลาเปา ลูกท้อ 1 ชุด ขนมกุ้ยช่าย ใบโพธิ์ สีแดง 2 อัน)

ไหว้พระพุทธชินราช หลวงพ่อซำปอกง ปึงเถ่ากง เจ้าพ่อมังกรเขียว ท่านท้าวมหาพรหม ทุกองค์ไหว้วันพฤหัสบดี ด้วยดอกบัว 5 ดอก ฟักทอง ฟักเขียว ดอกแคขาว 19 ดอก ใส่กระทง ตับบาตรด้วยแกงเขียวหวานปลากราย ส้ม พวงมาลัยมะลิ ปล่อยปลาหมอ 17 ตัว วันพุธ ควรทำบุญด้วย น้ำด้วย ค่าน้ำ พรมเช็ดเท้า ปล่อยนก 15 ตัว วันจันทร์

อธิษฐานจิต ขอให้การเงินคล่องตัว มีโชคลาภไหลมาเทมาได้รับความรักความมีเสน่ห์เมตตามหานิยม อุทิศส่วนกุศลให้ เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ เจ้าโรคเจ้าภัยที่กำลังตามติดม

ปีฉลู

เดือนอุปสรรค มกราคม เมษายน กรกฎาคม ตุลาคม

ไหว้หลวงปู่เทพโลกอุดรด้วย ดอกบัวขาว 6 ดอก น้ำ 1 แก้ว วันพฤหัสบดีไหว้พระศิวะ เจ้าพ่อกวนอู เจ้าพ่อพระเพลิงด้วยกุหลาบแดง 6 ดอก มะพร้าวมีเปีย 1 ลูก

ทุกองค์ไหว้วันอาทิตย์ ควรทำบุญด้วย หลอดไฟ ค่าไฟ ปล่อยปลายไหล 6 ตัว ไหว้พระพุทธชินราช หลวงพ่อซำปอกง ปึงเถ่ากง เจ้าพ่อมังกรเขียว ท่านท้าวมหาพรหม ทุกองค์ไหว้วันพฤหัสบดี ด้วยดอกบัว 5 ดอก ฟักทอง ฟักเขียว ดอกแคขาว 19 ดอกใส่กระทง ตักบาตรด้วยแกงเขียวหวานไก่ สลิ่ม วันอังคาร

อธิษฐานจิต ขอให้หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง พบทางออกที่ดี สำเร็จสมหวัง สมปรารถนา อุทิศส่วนกุศลให้ เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ เจ้าโรคเจ้าภัยที่กำลังตามติดมา

ปีขาล

เดือนอุปสรรค กุมภาพันธ์ พฤษภาคม สิงหาคม พฤศจิกายน

ไหว้ไท้ส่วยเอี๊ย ฝากดวงชะตา สะเดาะเคราะห์ (ตามฤกษ์) ไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ความมั่งคั่งร่ำรวย (ตามฤกษ์) ไหว้พระพุทธชินราช พระใหญ่ (หลวงพ่อซำปอกง) ปึงเถ่ากง เจ้าพ่อมังกรเขียว (แชเล้งเอี้ย) ท่านท้าวมหาพรหม

ทุกองค์ไหว้วันพฤหัสบดี ด้วยดอกบัว 5 ดอก ฟักทอง ฟักเขียว ดอกแคขาว 19 ดอกใส่กระทง ตักบาตรด้วยอาหารประเภทกุ้ง ฟักทอง ตำลึง ดอกบัวแดง 19 ดอก ควรทำบุญถวายผ้าไตร สบง จีวร สร้างประตู หน้าต่าง ปล่อยปลาไหล 19 ตัว

อธิษฐานจิต ขอให้มีหลักทรัพย์มั่นคง พบความสำเร็จในหน้าที่การงานและทุกสิ่งที่ปรารถนา อุทิศส่วนกุศลให้ เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ เจ้าโรคเจ้าภัยที่กำลังตามติดมา

ปีเถาะ

เดือน อุปสรรค มีนาคม มิถุนายน กันยายน ธันวาคม

ไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ความมั่งคั่งร่ำรวย (ตามฤกษ์) ไหว้ไท้เอี้ยงแซกุง และไหว้ขอพร องค์ซำกวง (เทพ 3 ตา) วัดทิพย์วารี ถ.ตรีเพชร กรุงเทพฯ ไหว้เจ้าแม่ทับทิม พระแม่อุมาเทวี วันศุกร์ ด้วยพวงมาลัยสวยๆ 1 พวง กระทง ตักบาตรด้วยอาหารประเภทของยำ พวงมาลัยมะลิ ปล่อยปลาไหล 21 ตัว วันศุกร์ ควรทำบุญด้วย น้ำดื่ม แท็งก์น้ำ ข้าวสาร ปิ่นโต ช่วยเหลือหญิงสูงอายุ

อธิษฐานจิต ขอทางเดินชีวิตแห่งอนาคต จงก้าวพ้นวิบากกรรมและภัยทะเลแห่งความทุกข์ อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ เจ้าโรคเจ้าภัยที่กำลังตามติดมา

ปีมะโรง

เดือนอุปสรรค มกราคม เมษายน กรกฎาคม ตุลาคม

ไหว้ขอพร เทพเทียงเต็ก ไหว้ฟ้าดิน หรือไหว้ที่เสาทีกง ได้ทุกศาล ไหว้พระพุทธรูป ปางไสยาสน์ ไต่เสี่ยฮุดโจ้ว (เจ้าพ่อเห้งเจีย) พระพิฆเนศ

ทุกองค์ไหว้วันอังคาร ด้วยกุหลาบ สีชมพู 8 ดอก ทับทิม 3 ผล ยอดทับทิม 8 ยอด ไหว้พระพุทธชินราช หลวงพ่อซำปอกง) ปึงเถ่ากง เจ้าพ่อมังกรเขียว (แชเล้งเอี้ย) ท่านท้าวทุกองค์ไหว้วันพฤหัสบดี ด้วยดอกบัว 5 ดอก ฟักทอง ฟักเขียว ดอกแคขาว 19 ดอก ใส่กระทง ตักบาตรด้วยอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน กุหลาบสีชมพู 8 ดอก ควรทำบุญด้วย มีดโกน กรรไกรตัดเล็บ บริจาคเลือด ปล่อยปลาไหล 8 ตัว วันอังคาร

อธิษฐานจิต ขอให้มีไหวพริบดีชนะคู่แข่ง พ้นจากอุปสรรคทั้งปวง ครอบครัวอยู่ดีมีสุข อุทิศส่วนกุศลให้ เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ เจ้าโรคเจ้าภัยที่กำลังตามติดมา

ปีมะเส็ง

เดือน อุปสรรค กุมภาพันธ์ พฤษภาคม สิงหาคม พฤศจิกายน

ไหว้ไท้ส่วยเอี๊ย ฝากดวงชะตา สะเดาะเคราะห์ (ตามฤกษ์) ไหว้เทพ เจ้าไฉ่ซิ้งเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ความมั่งคั่งร่ำรวย (ตามฤกษ์ ไหว้พระพุทธชินราชหลวงพ่อ ซำปอกง) ปึงเถ่ากง เจ้าพ่อมังกรเขียว (แชเล้งเอี้ย) ท่านท้าวมหาพรหม ทุกองค์ไหว้วันพฤหัสบดี ด้วยดอกบัว 5 ดอก ฟักทอง ฟักเขียว ดอกแคขาว 19 ดอกใส่กระทง ไหว้พระพุทธรูป ปางไสยาสน์ ไต่เสี่ย ฮุดโจ้ว (เจ้าพ่อเห้งเจีย) พระพิฆเนศ

ทุกองค์ไหว้วันอังคาร ด้วยกุหลาบ สีชมพู 8 ดอก ทับทิม 3 ผล ยอดทับทิม 8 ยอด ตักบาตรด้วย อาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน กุหลาบ สีชมพู 8 ดอก ควรทำบุญด้วย มีโกน กรรไกรตัดเล็บ บริจาคเลือด ปล่อยปลาไหล 8 ตัว วันอังคาร

อธิษฐานจิต จิตขอให้การติดต่อการเจรจาราบรื่น ประสบความสำเร็จ สิ่งที่คิดถูกต้องสมบูรณ์ไม่ผิดพลาด อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ เจ้าโรค เจ้าภัยที่กำลังตามติดมา

ปีมะเมีย

เดือน อุปสรรค มีนาคม มิถุนายน กันยายน ธันวาคม

ไหว้ขอพร "องค์เจี้ยงแซ" ไหว้ "เทพเจ้ากวนอู" ที่ ศาลเจ้ากวนตี่ เยาวราชหรือที่ไหนก็ได้ที่มีไหว้ มหาเพทศิวะ ท่านเจ้าพ่อเพลิง (เชิงสะพานกรุงเทพ) ท่านเจ้าพ่อหลักเมือง

ทุกองค์ไหว้วันอาทิตย์ ด้วยมะพร้าวมีเปีย 1 ผล กุหลาบแดง 6 ดอก ตักบาตรด้วยอาหารประเภทกะทิ กุหลาบแดง 6 ดอก ควรทำบุญด้วยหลอดไฟฟ้า บริจาคค่าไฟ ปล่อยปลาไหล 6 ตัว วันอาทิตย์

อธิษฐานจิต ขอให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองทำมาหากินคล่องตัว ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง ชนะอุปสรรคทั้งปวง อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณเจ้าโรคเจ้าภัยที่กำลังตามติดมา

ปีมะแม

เดือน อุปสรรค มกราคม เมษายน กรกฎาคม ตุลาคม

ไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิ่งเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ความมั่งคั่งร่ำรวย ไหว้องค์พระสังกัจจายน์ หลวงปู่ทวด ตั่วเหล่าเอี้ย (เจ้าพ่อเสือ) ส้ม 4ลูก พวงมาลัยมะลิ น้ำ ไหว้ซี่ไต่เทียนอ้วงเปิดทางชีวิตให้เจริญรุ่งเรือง ไหว้พระแม่กวนอิม พระแม่ลักษมีขอพรให้การเงินคล่องตัว ตักบาตรด้วยลาบหมู ดอกบัวขาว 5 ดอก ปล่อยปลาหมอ 17 ตัว วันพุธควรทำบุญแจกหนังสือธรรมะแท็งก์น้ำ สร้างทางเดิน สะพาน

อธิษฐานจิต ขอให้ผู้ใหญ่เมตตา ก้าวพ้นอุปสรรค สุขภาพแข็งแรง ตั้งเทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี๊ยไว้ที่โต๊ะทำงานอุทิศส่วนกุศลให้ เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ เจ้าโรคเจ้าภัยที่กำลังตามติดมา

ปีวอก

เดือนอุปสรรค กุมภาพันธ์ พฤษภาคม สิงหาคม พฤศจิกายน

ไหว้ไท้ส่วยเอี๊ย ฝากดวงชะตา สะเดาะเคราะห์ ไหว้เทพเจ้าฮั้วท้อเซียงซือ (หมอเทวดา) ปัดเป่าโรคภัย ผลไท้ 5 อย่าง พวงมาลัยดาวเรือง 2 พวง ไหว้เทพเจ้ากวนอูท่านมหาเทพศิวะ ขจัดอุปสรรคทั้งปวง กุหลาบแดง 6 ดอก มะพร้าว 1 ลูก ไหว้ท่านเจ้าพ่อเห้งเจีย พระพิฆเนศ ขับไล่เคราะห์กรรม กุหลาบชมพู 8 ดอก ยอดทับทิม 8 ยอด ไหว้พระธาตุพนม พระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) ตักบาตรด้วยขนมจีนแกงไก่ ไข่พะโล้ ปล่อยนก 15 ตัว ปลาไหล 8 ตัว ไถ่ชีวิตโคกระบือ ทำบุญโลงศพ รักษาศีล 5 งดเนื้อสัตว์ สวดมนต์ พกฮู้ไท้ส่วยประจำปี ติดตัวไว้เสมอ ตั้งปี่เซี่ย เรียกทรัพย์ไว้ที่โต๊ะทำงาน

อธิษฐานจิต ขอให้ก้าวพ้นวิบากกรรมและภัยทะเลแห่งความทุกข์ ชนะอุปสรรคทั้งปวง อุทิศส่วนกุศลให้ เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ เจ้าโรคเจ้าภัยที่กำลังตามติดมา

ปีระกา

เดือนอุปสรรค มีนาคม มิถุนายน กันยายน ธันวาคม

ไหว้ขอพร "เทพเหล่งเต็ก" ไหว้ "องค์แป๊ะกง" ได้ทุกศาลเจ้าที่มีแป๊ะกง ไหว้พระแก้วมรกต พระแม่กวนอิม พระแม่ ลักณมี

ทุกองค์ไหว้วันจันทร์ ด้วยพวงมาลัยดาวเรือง 2 พวง น้ำอ้อย 2 ไหว้หลวงปู่ทวดตั่วเหล่าเอี๊ย (เจ้าพ่อเสือ) พระกฤษณะ ทุกองค์ไหว้วันพุธ ด้วยดอกบัว 4 หรือ 17 ดอก ส้ม 4 หรือ 17 ลูก น้ำ 1 แก้ว (เจ้าพ่อเสือไหว้ด้วยหมู 3 ชั้น ไข่ดิบ ส้ม 17 ลูก ซาลาเปา ลูกท้อ 1 ชุด ขนมกุ้ยช่าย ใบโพธิ์ สีแดง 2 อัน) ตักบาตรด้วยอาหารประเภทไก่ ดอกไม้เหลือง 15 ดอก ควรทำบุญด้วย น้ำดื่ม ค่าน้ำ พรมเช็ดเท้า ปล่อยนก 15 ตัว วันจันทร์

อธิษฐานจิต ขอให้มีหลักทรัพย์มั่นคง พบความสำเร็จในหน้าที่การงานและทุกสิ่งที่ปรารถนา อุทิศส่วนกุศลให้ เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ เจ้าโรคเจ้าภัยที่กำลังตามติดมา

ปีจอ

เดือน อุปสรรค มกราคม เมษายน กรกฎาคม ตุลาคม

ไหว้เทพเจ้าไฮ่ซิ้งเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ความมั่งคั่งร่ำรวย (ตามฤกษ์) ไหว้หลวงปู่ทวด ตั่วเหล่าเอี๊ย (เจ้าพ่อเสือ) พระกฤษณะ

ทุกองค์ไหววันพุธ ด้วยดอกบัว 4 หรือ 17 ดอก ส้ม 4 หรือ 17 ลูก น้ำ 1 แก้ว (เจ้าพ่อเสือไหว้ด้วยหมู 3 ชั้น ไข่ดิบ 6 ฟอง ส้ม 17 ลูก ซาลาเปา ลูกท้อ 1 ชุด ขนมกุ้ยช่าย ใบโพธิ์ สีแดง 2 อัน) ตักบาตรด้วย อาหารประเภทกุ้ง ฟักทองตำลึง ดอกบัวแดง 19 ดอก ควรทำบุญถวายผ้าไตร สร้างประตูหน้าต่าง ปล่อยปลาไหล 19 ตัว

อธิษฐานจิต ขอให้ทุกอย่างอย่าล่าช้า ภาระที่ติดค้างหมดไป พบแต่ความสำเร็จ อุทิศส่วนกุศลให้ เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ เจ้าโรคเจ้าภัยที่กำลังตามติดมา

ปีกุน

เดือนอุปสรรค กุมภาพันธ์ พฤษภาคม สิงหาคม พฤศจิกายน

ไหว้ไท้ส่วยเอี๊ย ฝากดวงชะตา สะเดาะเคราะห์ (ตามฤกษ์) ไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ความมั่งคั่งร่ำรวย (ตามฤกษ์) ไหว้พระพุทธชินราช หลวงพ่อซำปอกง ปึงเถ่ากง เจ้าพ่อมังกรเขียว (แชเล้งเอี้ย) ท่านท้าวมหาพรหม

ทุกองค์ไหว้วันพฤหัสบดี ด้วยดอกบัว 5 ดอก ฟักทอง ฟักเขียว ดอกแคขาว 19 ดอกใส่กระทง ตักบาตรด้วยอาหารประเภทกุ้ง ฟักทอง ตำลึง ดอกบัวแดง 19 ดอก ควรทำบุญ ถวายผ้าไตร สบง จีวร สร้างประตู หน้าต่างปล่อยปลาไหล 19 ตัว

อธิษฐานจิต ขอให้มีหลักทรัพย์มั่นคง พบความสำเร็จในหน้าที่การงานและทุกสิ่งที่ปรารถนา อุทิศส่วนกุศลให้ เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณเจ้าโรคเจ้าภัยที่กำลังตามติดมา







ขอขอบคุณข้อมูลจาก

วันมาฆบูชา ไปกราบ ส า ม ส ห า ย ธ ร ร ม แห่งสวนโมกข์ ...


วันมาฆบูชา ไปกราบ ส า ม ส ห า ย ธ ร ร ม แห่งสวนโมกข์ ...


สามสหายธรรมในที่นี้ คือ

พระธรรมโกศาจารย์ -พุทธทาส ปราชญ์โลก (พี่ใหญ่)
พระราชญาณกวี -บุญชวน เขมาภิรโต กวีเอก (น้องกลาง)
พระพรหมมังคลาจารย์ -ปัญญานันท แม่ทัพโลก (น้องเล็ก)


ทั้งสามท่าน มาจำพรรษาร่วมกัน ณ สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ในปี 2479
นั่นจึงเป็นที่มาของคำ ว่า "สามสหายธรรม" ซึ่งต่างนับถือเป็นพี่น้องกัน
โดยท่านพุทธทาสภิกขุ เป็นพี่ใหญ่ พระราชญาณกวี เป็นพี่รอง และพระพรหมมังคลาจารย์ เป็นน้องเล็ก
ต่างยึดปณิธานแห่งชีวิต ตรงกัน แล้วแยกกันปฏิบัติศาสนกิจ พร้อมกับเผยแผ่พระธรรมของพระพุทธองค์ จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
สามสหายธรรมต่างอุทิศกายใจ ฝากผลงานการประกาศธรรมและค้ำจุนพระพุทธศาสนาอย่างเข้มแข็งไว้ให้ลูกหลานได้ กล่าวขวัญด้วยความชื่นชม



ข้อเขียนของท่านพุทธทาส ใต้รูป “สามสหายธรรม” มีความดังนี้

" ข้อตกลงอันไม่ตาย ของสามสหายธรรม "

ข้อตกลงที่กระทำไว้ระหว่างเราสามคน เมื่อจำพรรษาที่สวนโมกข์พุมเรียงนั้น
ยังอยู่ในความทรงจำไม่รู้ลืมเลือน คือ



เจตนาที่จำรักษาเกียรติ ของประเทศไทยเมืองพุทธต้องไม่น้อยกว่าประเทศใด ในการมีพระพุทธศาสนา
แม้ว่าความรู้สึกอันนี้ จะเป็นชาตินิยมเจือกิเลสอยู่บ้าง แต่ก็เหมาะสำหรับจะต่อสู้กับกิเลสของมหาชนที่เฉยเมยต่อความเป็นปึกแผ่น และรุ่งเรืองของพระศาสนาเอง
ร่างกายแตกสลายไป
แต่คุณค่าของชีวิต ยังเหลืออยู่อย่างไม่ต้องสลายตามไปด้วย คือ “อยู่คู่ศาสนา” และอยู่ในจิตใจของผู้ได้รับผลประโยชน์ จากกิจกรรมที่ได้ทำไว้ในการเผยแผ่ธรรมะ ที่ใช้ดับทุกข์ได้จริง และใช้เป็นตัวอย่างได้ด้วย
สุขภาพอนามัยไม่เท่ากัน มันต้องแยกกันอยู่ แยกกันไปเช่นนี้เอง แต่สิ่งที่ไม่อาจแยกกันตลอดกาลนั้น คือ
ผลงานที่ทำไว้เพื่อพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย นั้นเอง



บรรดาท่านที่ถือว่าเราทั้งสามเป็นที่เคารพรัก ใคร่ทุกคนจงได้รับรู้ และสนับสนุนงานที่ค้างอยู่ให้ก้าวหน้าต่อไป เสมือนหนึ่งว่าไม่มีใครได้จากไปนั่นแหละคือ ศิษยานุศิษย์มิตรสหายที่แท้จริง มิได้เป็นสักแต่ปากว่า
เราเห็นว่า ไม่ต้องอ้างคุณศักดิ์สิทธิ์ใด มาดลบันดาลให้วิญญาณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ไปสู่สันติสุคติภพ เพราะงานที่ทำไว้แล้วนั้นศักดิ์สิทธิ์พอที่จะจัดการกับตัวมันเอง และ น้องชายของเราไม่ต้องการภพชนิดไหนอีกต่อไปด้วย

พุทธทาส อินทปญโญ
๙ มีนาคม ๒๕๓๒



สิ่งสอนใจ ที่ผู้เขียนเรียนรู้ จากข้อเขียนของท่านพุทธทาส และ พฤติปฏิบัติ ของสามสหายธรรม
ก็คือความสำคัญของปณิธาน ในการดำเนินชีวิต

ในสังคมปัจจุบัน ผู้คนไม่น้อยดำรงค์ตน และ ดำเนินชีวิต อย่างล่องลอย ตามยถากรรม มากกว่า จะมีปณิธานที่ตั้งมั่น แน่วแน่
การดำเนินชีวิตดังกล่าว นี้ ย่อมปราศจากแก่นสำหรับยึดเหนี่ยวจิตใจ และมักถูกอิทธิพลของสังคม และสิ่งยั่วเย้าภายนอก ชักนำให้ไขว้เขว
ผู้คนจำนวนไม่น้อย จึงถูกเผาให้ร้อนระอุ ด้วยไฟกิเลศ และ ตัณห
และ มีชีวิตที่ไม่มีเป้าหมาย ปราศจากคุณค่า

การดำเนินชีวิตเช่นว่านี้ ย่อมยาก ที่จะมีความสุข และ เกิดความสงบของจิตใจ

แบบอย่างของสามสหายธรรม ซึ่งกำหนดเป็นปณิธานภายหลังบวชเรียน ที่จะเผยแผ่คำสอนแห่งพุทธศาสนา เพื่อความสุขสงบ ของชาวไทย โดยทั้งสามท่าน ได้ดำรงค์ตน และ ดำเนินชีวิต ตามปณิธานนั้น
กระทั่งสิ้นอายุขัย

หากพวกเรา ที่เป็นฆราวาส จะยึดถือเป็นแบบอย่าง สำหรับกำหนดปณิธาน ของแต่ละท่าน
เพื่อดำเนินชีวิต ให้มีเป้าหมาย และ เกิดคุณค่า แก่ผู้คนรอบข้าง และ สังคมโดยส่วนรวม
เมื่อวาระแห่งชีวิตมาถึง เราอาจจะรำลึกได้อย่างภูมิใจว่า
“...งานที่ทำไว้แล้วนั้นศักดิ์สิทธิ์พอที่จะ จัดการกับตัวมันเอง ...” โดย “.. ไม่ต้องอ้างคุณศักดิ์สิทธิ์ใด มาดลบันดาลให้วิญญาณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ไปสู่สันติสุคติภพ...”

สวัสดีและ ขอให้มีความเย็นฉ่ำ และ เปี่ยมสุข จากรสพระธรรมคำสั่งสอน

ภาพบาดเจ็บระหว่างแข่งฟุตบอลล์ .. ใจไม่แข็งพออย่าดู


ภาพบาดเจ็บระหว่างแข่งฟุตบอลล์





นักฟุตบอลล์ฝรั่งเศส Cisse ได้รับบาดเจ็บขาขวาแตกจากการพุ่งสะกัดของผู้เล่นของทีมประเทศจีน
ในการแข่งขัน เมื่อปี 2006




ในขณะเป็นผู้เล่นของอา ร์เซนอล Eduardo ได้รับบาดเจ็บ กระดูกน่องซ้ายหัก
ในการแข่งขันกับเบอร์มิงแฮมซิตี้ เมื่อปี 2008




Totti ได้รับบาดเจ็บจากกระดูกน่องซ้ายหัก ในการแข่งขัน อิตาเลียนแชมเปี้ยนชิพ ในปี2006



กองกลางของเยอรมันEwald Lienen ได้รับบาดเจ็บสาหัสในปี 1981 จากการพุ่งสไลด์ของทีมคู่แข่ง
ขาของเขาฉีกเปิดออกเป็น ทางยาว จนเห็นกระดูกขาวภายใน




Díaz de Cerio บาดเจ็บสาหัส จากการพุ่งชนกับประตูฝ่ายตรงข้าม ในการแข่งขันปี 2008 กระทั่ง กระดูกขาและ กระดูกน่องขวาของเขาหัก



Luciano Almeida ได้รับบาดเจ็บจากการแข่งขันในปี 2007

บาดแผลสงคราม เด็กพิการแต่กำเนิด!! นับแสนคน ปฏิบัติการใบไม้ร่วงในเวียตนาม กับหางเลขในไทย ...

บาดแผลสงคราม เด็กพิการแต่กำเนิด!! นับแสนคน

ปฏิบัติการใบไม้ร่วงในเวียตนาม กับหางเลขในไทย ...




(ขอบคุณภาพจากอินเตอร์ เนต)

.... เด็กพิการแต่กำเนิด!! นับแสนคน บาดแผลสงคราม ปฏิบัติการใบไม้ร่วงในเวียตนาม กับหางเลขในไทย ...

มีรายงานข่าวชิ้นหนึ่งของลอสแอนเจลิสไทมส์ ประจำวันที่ 3 มค.นี้ ซึ่งกล่าวถึงพิษ ภัยจากสงครามเมื่อสี่สิบปีเศษที่ผ่านมา ซึ่งยังคงตามคุกคามชีวิตของ พลเมืองชาวเวียตนาม กับทั้ง เป็นประเด็นภยันตรายมหาศาลด้านสิ่งแวดล้อม รายงานจากเมืองดานัง อดีตฐานทัพขนาดใหญ่ของสหรัฐฯในเวียตนาม กล่าวถึงบริษัทด้านสิ่งแวดล้อมของคานาดาซึ่งทำการเก็บตัวอย่างดิน รอบๆฐานทัพอากาศดานัง เพื่อตรวจดูสารตกค้าง ซึ่งเป็นผลเนื่องจากปฏิบัติการใบไม้ร่วง ในช่วงสงครามเวียตนาม



๐๐๐๐๐๐๐๐๐

เอเย่นต์ออเร้นจ์ (Agent Orange) หรือสารสีส้ม เป็นชื่อเรียกปฏิบัติการใบไม้ร่วง ซึ่งกองทัพสหรัฐฯทำการโปรยยากำจัดวัชพืช และ สารทำให้ใบไม้ร่วง ในระหว่างสงครามเวียตนามเมื่อกว่าสี่สิบปีที่ผ่านมา
ตามรายงานของรัฐบาล เวียตนาม คาดการว่า ประชาชนเวียตนามประมาณ 4.8 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากเอเยนต์ออเร้นจ์ตัวนี้ ทำ ให้มีผู้เสียชีวิต และพิการกว่า 400,000 คน กับทั้งมีเด็ก ซึ่งเกิดมาพิการแต่กำเนิดอีก 500,000 คน
เอเยนต์ออเร้นจ์ มีใช้อย่างกว้างขวาง ในระหว่างปี 1961 ถึง 1971ในปฏิบัติการใบไม้ร่วงของสหรัฐฯสารสีส้มดังกล่าว มีไดออกซินปนอยู่ สารตัวนี้มีผลร้ายต่อสุขภาพของผู้ที่สัมผัส
ในช่วงดังกล่าว มีการโปรยสารอันตรายนี้ปริมาตรถึง 77,000,000 ลิตรในเวียตนาม โดยมีเป้าหมายลดความหนาแน่นของใบไม้ในป่าทึบ เพื่อป้องกันไม่ให้กองกำลังเวียตกงใช้ในการหลบซ่อน และ ทำลายพืชอาหารที่มีให้หมดสิ้น
ในปี 1963 สหรัฐฯ เริ่มกังวลถึงผลกระทบด้านลบของการโปรยสารดังกล่าว จึงเริ่มการศึกษาถึงผลกระทบทางสุขภาพของเอเยนต์ออเร้นจ์ และในปี 1967 ก็เป็นที่ชัดเจนว่า สารเคมีสามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้ แม้ผลการศึกษาออกมาเช่นนั้น กองทัพสหรัฐฯ ยังคงใช้เอเยนต์ออเร้นจ์ต่อไปหลังจากนั้น

๐๐๐๐๐๐๐๐๐



ผลการตรวจวิเคราะห์ของ บริษัทคานาดาพบว่า ระดับของไดออกซินอันเป็นสารก่อมะเร็งมีค่าสูงกว่าระดับปลอดภัยตามกำหนดโดย หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (EPA) อย่างมาก
ทางบริษัทจึงทำการวัดค่า สารพิษดังกล่าว ในห่วงโซ่อาหาร ตั้งแต่ในดิน ตะกอนโคลนในสระน้ำ ไขมันของเป็ด และปลา จนถึง เลือด และ น้ำนมจากเต้า ในพื้นที่บริเวณที่มีการปนเปื้อน
ผลจากการวิเคราะห์พบว่า ในน้ำนมจากเต้าของหญิงคนหนึ่ง มีไดออกซินสูงถึงหกเท่าของค่าที่ถือว่าปลอดภัย หญิงผู้นี้ มีลูกอายุสองขวบซึ่งพิการแต่กำเนิดจากโรคผิดปรกติของกระดูกสันหลัง (spina bifida)



ในรายงาน ยังกล่าวถึง กรณีของชายเวียตนาม เหงียนวันดุง ซึ่งรับจ้างล้างท่อน้ำเสียที่สนามบินดานังแห่งนี้ ตั้งแต่ปี 1996 ดุงไม่รู้มาก่อนว่า กองทัพสหรัฐฯ ได้เก็บสารกำจัดวัชชพืชนับแสนแกลลอนที่นี่ ในระหว่างสงคราม เขาไม่รู้ว่า สารดังกล่าวได้รั่วซึมลงไปในพื้นดิน และ มีความเข้มข้นสูงจนมีอันตรายอย่างมาก
ดุงย้ายมาอยู่ที่นี่ กับภรรยา และลูกสาวคนโตซึ่งเป็นทารกที่แข็งแรง โดยอาศัยอยู่ที่บ้านพักติดกับสนามบิน 13 ปีหลังจากนั้น ดุงและ ภรรยา ซึ่งต่างทำงานที่สนามบินแห่งนี้ มีลูกสองคนที่ต่างมีโรคร้ายแรง อันรวมถึง โรคเกี่ยวกับกระดูก ซึ่งทั้งคู่สงสัยว่าน่าจะเป็นผลจากสารตกค้างที่สนามบิน
ลูกสาวคนที่สองเสียชีวิต เมื่ออายุ 7 ขวบ และ ลูกชายวัยสิบเดือน ซึ่งเป็นโรคลักษณะเดียวกัน ต้องรับการถ่ายเลือด อันแสนเจ็บปวดทุกเดือนเพื่อจะยืดชีวิตออกไป



ความ เห็นบลอกเกอร์
ปฏิบัติการใบไม้ร่วง นับเป็น “อาชญากรรม” ของสงครามที่มีต่อพลเรือน และ กระทั่งเด็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่หลังจากนั้น นับแสนๆคน
คำถาม ที่ยังคงคาใจ ผู้คนอยู่จนปัจจุบัน ก็คือ ทำไมทั้งที่รู้ว่า เอเย่นต์ออเร้นจ์ มีสารปนเปื้อนไดออกซิน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง แต่การโปรยสารดังกล่าว ก็ยังคงดำเนินต่อไป จนสงครามยุติ
หันมามองดูในเมืองไทย เมื่อประมาณสิบปีที่ผ่านมา เคยมีกรณี ขุดพบ “เอเย่นต์ออเร้นจ์” ที่สนามบินบ่อฝ้าย ในหัวหิน
ยกบางตอน ของข้อเขียนใน http://www.greenworld.or.th/library/environment-popular/126 โดยคุณ เกื้อเมธา ฤกษ์พรพิพัฒน์

“...ท่ามกลางความเคลือบแคลงของสังคม บวกกับแรงกดดันขององค์กรพัฒนาเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศ ตลอดจนสื่อมวลชนที่ขุดคุ้ยอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดโฆษกสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้ออกมายอมรับกับสำนักข่าว เอพีว่า กองทัพสหรัฐฯ เคยเข้ามาปฏิบัติ การทดลองในประเทศไทยที่บริเวณค่ายทหารธนรัชต์ อำเภอปราณบุรี ในช่วงปี 2507 – 2508 ภายใต้ชื่อ โครงการปฏิบัติการทดลองใบไม้ร่วงในประเทศไทย (Thailand Defoliation Program) นอกจากนี้ ในเอกสารที่สถานทูตสหรัฐฯ ส่งให้ประเทศไทยในเวลาต่อมา ยังระบุด้วยว่า นอกจากเอเย่นต์ ออเร้นจ์แล้ว ยังมีการทดลองสารเคมีตัวอื่นๆ ด้วย เพื่อเปรียบเทียบกับสารสีส้ม เช่น สารสีม่วง สารสีชมพู เป็นต้น อย่างไรก็ดี ยังคงปฏิเสธว่าสารเคมีที่ขุดพบใช่เอเย่นต์ ออเร้นจ์..”

“...ภาคต่อของสงคราม เวียดนามเรื่องนี้ ปิดฉากลงด้วยการฝังกลบ กากสารพิษในบริเวณของสนามบินบ่อฝ้าย โดยเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษชี้แจงว่า จะมีการเก็บตัวอย่างดินบริเวณใกล้เคียงมาตรวจสอบปีละ 2 ครั้ง เป็นเวลาติดต่อกัน 10 ปี แล้วถ้าหากมีการรั่วซึม ก็จะแก้ปัญหาด้วยการรื้อขึ้นมาฝังกลบใหม่...”
พิษภัยของสงคราม ยังคงตามหลอกหลอนพวกเรา มาถึงวันนี้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พึงสนใจตรวจสอบ เพื่อไทยจะไม่ต้องโดน “หางเลข” จากสารที่มีพิษอันตรายนี้

อ้าง อิงจาก
http://www.latimes.com/news/nation-and-world/la-fg-agent-orange3-2010jan03,0,6144418.story
http://en.wikipedia.org/wiki/Agent_Orange
http://www.greenworld.or.th/library/environment-popular/126 ("เอเย่นต์ ออเร้นจ์" ที่บ่อฝ้าย มรดกพิษจากสหรัฐฯ)

พวกลักลอบขนสัตว์หายาก ซุกงู .จรเข้ .ในร่มผ้า ลงทุนขนาดนี้

พวกลักลอบขนสัตว์หายาก ซุกงู .จรเข้ .ในร่มผ้า ลงทุนขนาดนี้






(ขอบคุณภาพจากอินเตอร์ เนต)


... เหลือเชื่อ!! ภาพซุกงู .. ซุกจรเข้ .. ซุกแมงมุม .. ซุกจิ้งเหลน ในร่มผ้า
ลักลอบขนสัตว์หายาก ถูกจับคาด่าน ...



ผู้เขียน ไปอ่านพบ กรณีประหลาด ของความพยายามลักลอบนำสัตว์หายากออกนอกประเทศ
หรือ เข้าประเทศ แล้วแต่กรณี

เป้าหมายสำคัญ ก็เพื่อ "เงิน" โดยผู้รับบาป คือสัตว์
และ สิ่งที่จะเป็นผลพลอยได้ตามมา คือ ปัญหาการเสียสมดุลย์ของระบบนิเวศน์วิทยา
หาก สัตว์เหล่านั้น หลุดเข้าไปในระบบนิเวศน์วิทยาของ ประเทศใหม่
หลายครั้ง มันจะไป "ทำลาย" สัตว์ตระกูลใกล้กัน ที่อ่อนแอกว่า ขณะเดียวกัน ก็ขยายพันธุ์ตนเองขนานใหญ่
ลองมาอ่านดู ความแปลกพิศดารเหล่านี้ดู



ชายอัฟริกาใต้วัย 28 ปี ซึ่งเดินทางมาจากกรุงเทพฯถูกจับที่ด่านคนเข้าเมือง
สนามบินนานาชาติ โอ อาร์ แทมโบ ในอัฟริกาใต้

เจ้าหน้าที่ถึงกับตะลึง เมื่อพบสิ่งของ ที่เขาซุกซ่อนมา ซึ่งมีสัตว์เลื้อยคลาน
ได้แก่ จรเข้ งู และ เต่า แมงมุม แมงป่อง และ กบ ทั้งหมด 70 ชีวิต

สัตว์หายากที่ลักลอบนำ เข้ามานี้ มีการซื้อขายด้วยราคาสูง ในตลาดที่กระหายสัตว์หายาก
หรือ ที่กำลังจะสูญพันธุ์





ด่านศุลกากรนอร์เวย์จับ ชายคนหนึ่ง ที่พยายามซุกซ่อนลักลอบนำสัตว์เลื้อยคลาน 24 ตัว
เข้ามาในประเทศ โดยแปะเทปกาวติดกับตัวเขา

งูขนาดใหญ่ 24 ตัว ถูกม้วนไว้ในถุงเท้าแล้วแปะติดกับลำตัว ขณะที่ ตุ๊กแกอีกสิบตัวใส่ในกล่องเล็ก
แล้วแปะติดกับขาของเขา

สัตว์ทั้งหมด มีมูลค่า ประมาณ 10,000 เหรียญ สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 300,000 บาท
ชายคนนี้ เดินทางมาด้วยเรือเฟอรีจากเดนมาร์คและ ผ่านด่านมาได้โดยไม่มีใครสังเกตุ
จนกระทั่ง มีการตรวจพบ แมงมุมพิษตัวใหญ่ในกระเป๋าของเขา
ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกลับมาตรวจดูตัวเขาอีกครั้ง




เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร กรุงเมลเบิร์น ออสเตรเลีย รู้สึกผิดสัง เกตุกับท่าเดินของหญิงคนหนึ่ง
ซึ่งเดินทางมาจากสิงคโปร์

เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจ ดูสิ่งของ ระหว่างตรวจมีเสียงประหลาดดังมาจากบริเวณเอวของเธอ
ภายหลัง เจ้าหน้าที่จึงพบว่า ใต้กระโปรงนั้นมีถุงพลาสติค 15 ใบ บรรจุปลา 51 ตัว
แยกซุกซ่อนอยู่ในผ้าซับในที่ออกแบบเย็บไว้เพื่อการนี้




นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน ถูกจับตัวขณะจะเดินทางออกจากนิวซีแลนด์ โดยมีตุ๊กแก 23 ตัว
จิ้งเหลน 20 ตัวซุกอยู่ในชุดชั้นในของเขา

ชายเยอรมัน อายุ 58 ปี ถูกตรวจพบ ที่สนามบินไครส์เชิร์ช นิวซีแลนด์ ในขณะเช็คอินเตรียมจะขึ้นเครื่อง
ชายคนนี้ ยอมรับว่าเขาต้องการนำสัตว์เหล่านี้ ไป ขายในตลาดมืดในยุโรป ซึ่งให้ราคาสูง ตุ๊กแก23 ตัวนี้ มีมูลค่าประมาณ 35,000 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับจิ้งเหลนนั้น ยังเป็นสินค้าใหม่ จึงยังไม่สามารถประเมินราคาได้ชัดเจน



ชายเวียตนาม ถูกจับ เมื่อพยายามลักลอบนำ นก 14 ตัวเข้ามาในสหรัฐฯ โดยซุกซ่อนอยู่ภายในกางเกง
เจ้าหน้าที่ด่านศุลการกร สังเกตุเห็นมูลสัตว์ติดอยู่ที่ถุงเท้า และ ขนนกโผล่มาจากชายกางเกงของเขาชายเวียตนาม ซุกซ่อนนกเหล่านี้ โดยนำเข้าจากเวียตนาม
นกที่ลักลอบเข้ามานี้ มีราคาขายตัวละไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นบาทในสหรัฐฯ




ชายสวิสถูกจับ เมื่อพยายามลักลอบนำแมงมุมจำนวน 164 ตัวเข้าเยอรมัน
เจ้าหน้าที่พบแมงมุม ซึ่งบางตัวอาจจะใหญ่ขนาดเท่าฝ่ามือ ทั้งหมดเก็บอยู่ในถุงพลาสติค และ ผนึกไว้ในกล่อง ในรถของชายคนนี้ ขณะที่เขากำลังขับผ่านด่านชายแดนเข้าประเทศเยอรมัน
ในรถดังกล่าว มีถังใส่แมลงสาบ 45 ใบ เพื่อเป็นอาหารสำหรับแมงมุมเหล่านี้



ชายอายุ 24 พยายามลักลอบนำสัตว์เลื้อยคลานออกจากออสเตรเลีย เขาถูกจับได้ขณะกำลังเช็คอิน
เพื่อบินต่อไปกรุงเทพฯ

เขาซุกซ่อนงู 44 ตัว รวมทั้งจิ้งจก และ ตุ๊กแก จำนวนหนึ่งในกระเป๋าเดินทาง
เมื่อผ่านการตรวจเอกซ์เร ย์ เจ้าหน้าที่จึงเห็น สิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในได้ชัดเจน

ข้อมูลจาก www.oddee.com

หลุมดำขนาดยักษ์ในสหรัฐฯ ลึกกว่าตึกสามสิบชั้น ปากหลุมกว้างกว่าสามสนามฟุตบอล


หลุมดำขนาดยักษ์ในสหรัฐฯ ลึกกว่าตึกสามสิบชั้น

ปากหลุมกว้างกว่าสามสนามฟุตบอล



(ขอบคุณภาพ จากอินเตอร์เนต)

.... WOW!! ตามไปดู.. หลุมดำขนาดยักษ์ในสหรัฐฯ ลึกกว่าตึกสามสิบชั้น ปากหลุมกว้างกว่าสามสนามฟุตบอลล์ ... ใครขุด ?? ขุดทำไม ??....



ผมไปอ่านพบ ข้อเขียนเกี่ยวกับ ประวัติการทดลองระเบิด นิวเคลียร์ใต้ดินในสหรัฐฯ และ ผลกระทบที่เกิดขึ้น อันเป็นที่มาของหลุม ดำขนาดยักษ์
ภาพที่แสดง มองจากด้านบน (ภาพถ่ายดาวเทียม?) เราจะเห็นปล่องของหลุมขนาดใหญ่ (มาก) ซึ่งอยู่ในบริเวณทดลอง(ระเบิดนิวเคลียร์)ในเนวาดา สหรัฐฯ
ตอนล่างของปากหลุม จะเห็นเงาสีดำ ที่ทาบลงไปจากปากปล่องลงไปถึงก้นหลุม
เราพอประมาณได้ ถึงขนาดที่ใหญ่โตของปากหลุม เมื่อเปรียบ เทียบกับ แท่นเยี่ยมชมที่สร้างไว้บริเวณปากหลุม (ล้อมรอบด้วยวงสีแดง)

ในวันที่ 6 กรกฎาคม ปี 1962 มีการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ ซึ่งเรียกกันว่า Sedan Test
โดยทำการ ฝังระเบิดไว้ที่ความลึก ประมาณ 200 เมตร
แรงระเบิด ขุดเอาทรายน้ำหนัก 11 ล้านตันลอยกระจายขึ้นมา
และเกิดหลุม ซึ่งมีความลึกประมาณ 100 เมตร บริเวณปากหลุมมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 390 เมตร
กัมมันตภาพรังสี ที่กระจายออกไปในชั้นบรรยากาศจากการทดลอง ส่ง ผลอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพของประชากรอเมริกา ที่อาศัยอยู่รอบๆ







ปากหลุมขนาดมหึมา เทียบกับ แท่นเยี่ยมชม ซึ่งล้อมกรอบด้วยวงกลมสีแดงทางตอนล่าง





ทุกปี จะมีนักท่องเที่ยว มาเยี่ยมชมบริเวณนี้ นับหมื่นคน



ทะเลทรายเนวาดา เป็นบริเวณที่มีการทดลองระเบิดนิวเคลียร์สำคัญของกองทัพสหรัฐฯในรูป จึงพอสังเกตุเห็น “รูพรุน” ที่เกิดจากแรงระเบิด




ภาพการทดลองระเบิด นิวเคลียร์ในเนวาดา เมื่อปี 1951 นับเป็นการทดลองครั้งแรก บนแผ่นดินสหรัฐฯ
ทหารที่เห็นในภาพ อยู่ห่างจากจุดระเบิด ประมาณ 10 กิโลเมตร และ ต่างได้รับผลกระทบ จากกัมมันตภาพรังสีที่กระจายออกมา

ข้อมูลอ้างอิงจาก
http://www.mothertrip.com/largest-man-made-crater/
http://en.wikipedia.org/wiki/Nevada_Test_Site

ผมขอนำคลิป ที่ถ่ายทำ การทดลอง Project Sedan ครั้งนี้ ซึ่งมีการบันทึกเก็บไว้
เพื่อพวกเรา จะได้เห็น และ เข้าใจถึงความน่าสะพึงกลัว ของอาวุธทำลายโลกนี้ได้