วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ครั้งแรกในโลกดนตรีสำหรับน้องหมา ที่ออสเตรเลีย



ครั้งแรกในโลกดนตรีสำหรับน้องหมา ที่ออสเตรเลีย




สุนัข หรือ เจ้าหมา เป็นสัตว์เลี้ยงที่ใครๆ หลายบ้านเลี้ยงกันเป็นส่วนใหญ่ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ชีวิตเราส่วนใหญ่ จะผูกพันกับเจ้าตูบแสนรู้พวกนี้มากด้วยเช่นกัน ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ลอรี่ แอนเดอร์สัน (Laurie Anderson) นักดนตรีชาวอเมริกันได้จัการแสดงคอนเสิร์ต 'ดนตรีสำหรับน้องหมา' หรือ Music for Dogs






ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาล Vivid Live ที่บริเวณลานหน้าซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์ ออสเตรเลีย เพื่อสุนัขครั้งแรกของโลก โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้จัดขึ้นโดย ลอรี แอนเดอร์สัน วัย 63 กับ โลว รีด สามีนักดนตรีเจ้าของตำนานเพลงร็อก




ลอรี และ โลว รีด มักเล่นดนตรีให้สุนัขของตัวเองฟัง จนกระทั่งแต่งเพลงเพื่อสุนัขขึ้นมา งานนี้แอนเดอร์สันได้เล่นคอนเสิร์ตแค่ประมาณ 20 นาที โดยเน้นเสียงคีย์สูงเป็นหลักและความยาวสูงสุดไม่เกิน 4 นาที เพราะหากนานกว่านี้สุนัขจะเริ่มไม่มีสมาธิ เนื่องจากสุนัขเป็นสัตว์ที่มีการรับรู้ถึงเสียงหรือคลื่นเสียงได้ดีกว่าคน จึงไม่แปลกใจที่เห็นสุนัขมักจะหูตั้งเวลาได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นหูหรือแปลก ปอมไปจากที่เคยได้ยินทุกวันเป็นประจำ

เห็นที่ออสเตรเลีย เค้ามีการเล่นดนตรีให้สุนัขฟังแบบนี้แล้ว ที่บ้านเราก็น่าจะมีงานแบบนี้ให้สุนัขกันบ้างนะเนี่ย แต่ไม่เป็นไร ถึงบ้านเราจะยังไม่มีคอนเสิรต์ให้สำหรับสุนัข เราลองมาเปิดเพลงชิลล์ เบาๆๆ ให้เจ้าสุนัขฟังดู เพราะน้องหมาของเราก็คงจะมีอารมณ์สุนทรีย์ แบบคนบ้างเหมือนกัน

สุนัขเองก็คงไม่ต่างจากเรา เวลาเราฟังเพลงคนเราก็มักจะอารมณ์ดี มีความสุข สุนัขเอง ถ้ามันได้ฟังเพลงเพราะๆมันก็คงจะมีความสุขอารมณ์ดีเช่นกัน ถ้าจะให้ดีกว่านั้น คนเลี้ยยงสุนัขทุกคนควรจะหมั่นดูแลเอาใจใส่ให้เจ้าสุนัขของคุณด้วย เช่น เลือกอาหารที่เป็นประโยชน์ อาบน้ำดูแลรักษาความสะอาด พาออกไปเดินเล่น ออกกำลังกาย รับรองเจ้าสุนัขตัวโปรดของคุณ ต้องเป็นสุนัขแสนรู้ที่ใครหลายคนอิจฉาแน่นอน....










Dog00

http://women.sanook.com

http://www.youtube.com

http://operachic.typepad.com

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สปา ราเม็ง

คลิป มนุษย์ต่างดาว UFO มีจริง บทพิสูจน์จากภาพวาดในประวัติศาสตร์

หมาติดกล้อง แอบดูของดี

หมา ร้องเพลงชาติ

หมาฆ่าเสือ ยากที่จะเชื่อแต่มีอยู่จริง "โดโก อาเจนติโน" เก่งใหญ่ "พิทบูล เทอร์เรีย" เก่งเล็ก

หมาฆ่าเสือ ยากที่จะเชื่อแต่มีอยู่จริง "โดโก อาเจนติโน" เก่งใหญ่ "พิทบูล เทอร์เรีย" เก่งเล็ก

หมา ฆ่าเสือ ยากที่จะเชื่อแต่มีอยู่จริง "โดโก อาเจนติโน" เก่งใหญ่ "พิทบูล เทอร์เรีย" เก่งเล็ก

เสือคือเจ้าป่าใครก็ทราบดี เสือปลา เสือดำ เสือลายเมฆ เสือดาว เสือชีต้าห์ เสือโคร่ง รวมสิงโตด้วย สัตว์ที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายแมวแต่มีสัดส่วนของรูปร่างที่ใหญ่กว่า

เสือ ปลาเป็นเสือขนาดเล็กที่สุด มีน้ำหนักอยู่ที่ 7-11 ก.ก. นอกจากเสือปลาจะมีขนาดเล็กที่สุดแล้ว(ไม่รวมเสือในสกุลฟีลีสชนิดอื่น เช่น แมวดาว แมวลายหินอ่อน แมวป่า หรือ เสือไฟ) เสือปลายังเป็นเสือที่มีความดุร้ายที่สุดด้วย เคยมีนักสำรวจพบเห็นเสือปลาฆ่าเสือเมฆที่มีน้ำหนักมากกว่าตัวมันเองประมาณ 18 ก.ก. เสือปลาคงเป็นเสือชนิดเดียวที่ไม่สามารถเลี้ยงให้เชื่องได้(มีสัญชาตญาณใน ความเป็นสัตว์ป่าสูง)

หาก มีใครบอกเราว่าหมาฆ่าเสือได้ คงจะกลายเป็นเรื่องตลกในวงสนทนานั้น เพราะในความเป็นจริงคงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก หากให้คนทั่วไปนึกถึงภาพสุนัขที่ฆ่าเสือที่พอจะเป็นจริงได้ ก็คงจะนึกถึง"หมาใน"หรือ"ฮายีนา" ชึ่งเป็นหมาป่าชนิดหนึ่งที่อยู่ในแอฟริกา เพราะเมื่อมันรวมกลุ่มอยู่เป็นฝูง สิงโตก็ยังไม่กล้าเข้าไกล้

โดยธรรมชาติของสุนัขไม่ว่าพันธุ์ใดก็ตามเราจะสังเกตุได้ว่า "มันชอบที่จะเอาตัวเกลือกกับของเน่าเหม็น" โดยเฉพาะซากศพของสัตว์ แม้ว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์ต่างประเทศที่มีราคาแพงก็ตาม มักจะมีพฤติกรรมดังกล่าวให้ได้เห็น ที่จริงพฤติกรรมนี้ของสุนัขเป็นสัญชาตญาณของความเป็นสุนัขป่าที่ยังมีหลง เหลืออยู่ การเอาตัวไปเกลียกถูกับซากสัตว์ที่ตายแล้ว เป็นสัญชาตญาณในการพรางตัวจากสัตว์นักล่าโดยเฉพาะเสือนั่นเอง สัญชาตญาณนี้ที่มีอยู่ในตัวสุนัขทุกสายพันธุ์เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่ามันกลัว สัตว์นักล่าที่จะเอาชีวิตของมัน

ใน เมื่อเป็นแบบนั้นจะเป็นไปได้หรือที่จะมีสุนัขที่มีความกล้าพอที่จะเข้าไป ต่อสู้กับเสือ ในข้อนี้คงมีข้อยกเว้นที่เสือโคร่ง เพราะด้วยขนาดความยาวลำตัวถึงปลายหาง 3 เมตร น้ำหนัก 300 ก.ก. คงไม่มีสุนัขพันธุ์ไหนที่จะถูกพัฒนาขึ้นให้ต่อสู้กับมันได้อย่างแน่นอน เพราะแม้แต่สุนัขที่มีขนาดใหญ่พันธุ์ "อิงลิช แมสติฟ" (English Mastiff) ตัวที่ใหญ่ที่สุดยังมีน้ำหนักแค่ 156 ก.ก. มีน้ำหนักตัวแค่เพียงครึ่งเดียวของเสือโคร่ง

ความ หมายที่บอกว่าสุนัขที่สามารถต่อสู้กับเสือได้หมายถึงเสือที่มีขนาดไล่เลี่ย กับสุนัขขนาดใหญ่ สำหรับคนที่สนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องสุนัขพันธุ์ต่างๆจะทราบดีว่ามี สุนัขพันธุ์ที่ถูกมนุษย์พัฒนาสายพันธุ์ขึ้นเพื่อใช้ในการล่าเสือ ได้แก่สุนัขพันธุ์ "ฟิลา บราซิลเลียโร่" ที่ถูกใช้ในการล่าเสือ"ชีต้าห์" แต่เท่าที่ทราบก็ยังอยู่ในเงื่อนไขที่ว่าใช้ "ฟิลา บราซิลเลียโร่" หลายตัวในการล่าเสือ 1 ตัว

ใน คลิป "โดโก อาเจนติโน่" ตัวสีขาว "ลาบราดอร์" ตัวสีดำ

สุนัข ที่ถูกมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อการล่าสัตว์มีอยู่หลายสายพันธุ์ แต่เท่าที่ทราบว่าถูกนำมาใช้ในการล่าสัตว์ที่มีขนาดใหญ่มีเพียง 2 สายพันธุ์(อาจมีพันธุ์อื่นอีกที่ไม่ทราบ)คือ "ฟิลา บราซิลเลียโร่" ใช้ล่า "เสือซีต้าห์" และพันธุ์ "โดโก อาเจนติโน่" ใช้ในการล่าหมูป่า เป็นที่น่าแปลกใจที่ไม่เคยพบคลิปใน"ยูทูป"ที่เป็นภาพเหตุการ "ฟิลา บราซิลเลียโร่" ล่า "เสือซีต้าห์" แต่กลับพบคลิปที่ "โดโก อาเจนติโน่" ต่อสู้กับ "เสือพูม่า" (ภาพในคลิปไม่ชัดอาจเป็นเสือชนิดอื่น)

"โด โก อาเจนติโน่" ถูกพัฒนาสายพันธุ์โดยการใช้สุนัขหลายพันธุ์ผสมกันมี เกรทเดน, บ๊อกเซอร์, สแปนิช แมสติฟ, โอลด์ อิงลิช บูลด็อก, บูล เทอร์เรีย, เกรท พีเรนีส, พอยต์เตอร์, ไอริช วูฟฮาวด์ และ ด็อจ เด บอร์โดซ์ ซึ่งพันธุ์ "บูล เทอร์เรีย" เป็นหนึ่งสายพันธุ์ที่เป็นส่วนประกอบในการพัฒนาสายพันธุ์ ซึ่ง "บูล เทอร์เรีย" เป็นสุนัขที่มีสายพันธุ์ไกล้ชิดกับ "อเมริกัน พิทบูล เทอร์เรีย"

"โดโก อาเจนติโน่" ถูกจัดอยู่ในสุนัขที่มีขนาดใหญ่ ส่วน "อเมริกัน พิทบูล เทอร์เรีย" เป็นสุนัขขนาดกลาง นอกจากข้อแตกต่างเกี่ยวกับเรื่องขนาดแล้ว ความดุดันหรือความก้าวร้าวของ "โดโก อาเจนติโน่" จะมีน้อยกว่า สาเหตุสำคัญที่ผู้เลี้ยง "อเมริกัน พิทบูล เทอร์เรีย" ไม่นิยมตัวใหญ่เพราะยากต่อการควบคุม

โดยความเห็นส่วนตัว สำหรับผู้ที่พัฒนาสายพันธุ์สุนัขพันธุ์ "อเมริกัน พิทบูล เทอร์เรีย" ไม่ควรทำให้มันตัวใหญ่จนเกินความจำเป็น เพราะแม้ว่าพิทบูลจะมีตัวใหญ่จนสามารถล่าเสือขนาดใหญ่ได้ ถามว่าในยุคปัจจุบันเรามีความจำเป็นอะไรที่จะต้องใช้สุนัขในการล่าเสือ จำนวนเสือเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่เป็นอันตรายต่อคน แต่คนกลับเป็นภัยคุกคามสำคัญในการสูญพันธุ์ของเสือหลายชนิด ความพยายามในการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีขนาดใหญ่ จึงเป็นเรื่องที่เกิดผลเสียมากกว่าผลดี

การล่าของสัตว์ ป่าเป็นสัญชาตญาณในการดำรงชีพ แต่การล่าของมนุษย์มักจะเป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการของตนจนเกินความพอดี การที่มนุษย์ทำให้ธรรมชาติเสียสมดุลเป็นการทำร้ายตนเอง เพราะสุดท้ายแล้วความเดือดร้อนที่เกิดจากความไม่พอเหมาะพอดีนั้นย่อมส่งผล ย้อนกลับมาสู่ตัวมนุษย์ในที่สุด

อ้าง อิง

http://th.wikipedia.org /wiki/เสือ

http://th.wikipedia.org /wiki/เสือปลา

http://en.wikipedia.org/wiki/Hyena

http://en.wikipedia.org/wiki/Tiger

http://en.wikipedia.org/wiki/English_Mastiff

http://en.wikipedia.org/wiki/Dogo_Argentino

http://www.oknation.net/blog/19/2010/05/25/entry-1

มุมลับๆของญี่ปุ่น ( เรื่องเล่าเรท R )







คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีเพศ สัมพันธ์ .. เป็นเรื่องปกติของคนเรา

เพียงแต่ว่าการมีเพศสัมพันธ์นั้น มันถึงเวลาที่เหมาะสม ..

เป็นการตกลงใจของคน 2 คน หรือไม่ ..

แต่สำหรับวัฒนธรรมไทย .. เรื่องเหล่านี้ยังคงเป็นเรื่องที่ยังไม่เปิดกว้างในการรับรู้มากนัก

ดังนั้นเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้อยากจะให้ใช้วิจารณญาณในการรับชม

...

คุณผู้ชาย .. นอกจากการ์ตูนและเทคโนโลยี

เราจะรู้จักกับไอดอลสาวชาวญี่ปุ่น จากแผ่นซีดีเล็กๆ หรือจากการดาวน์โหลดหนัง

และจากภาพที่สามารถหาได้ทั่วไปทางอินเตอร์เนต

วันนี้จะพาเพื่อนๆมารู้จักในมุมลับๆของญี่ปุ่นเท่าที่รู้กันดีกว่า

ว่าเขามีอะไรแตกต่างจากอาบอบนวด บน ถนนรัชดา, โรงแรมสยาม, ร้านคาราโอเกะ, อะโกโก้

และอีกสารพัดในเมืองไทยที่เพื่อนๆเคยรู้จัก




เพื่อนๆหลายคนคงจะคิดว่าชาวญี่ปุ่นที่มีหนังเอวี เป็นจำนวนมาก

และถือว่าเป็นประเทศผู้ผลิตหนังติดเรทที่ติดอันดับต้นๆของโลก

จนอาจจะกลายเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างรายได้มหาศาลแบบที่เขาเองก็คงจะไม่ ภูมิใจนัก

กลับปรากฏว่าผลสำรวจของดูเร็กซ์ ปี 2006

ชาวญี่ปุ่นกลับมีสถิติการมีเพศสัมพันธ์เพียงแค่ปีละ 46 ครั้ง

นอกจากนี้ยังมี 34% ที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลยใน 1 ปีที่ผ่านมา

สถิตินี้มันขัดกับภาพที่เรามองเขามามากเลย ..




ในญี่ปุ่นนั้นหากเพื่อนๆเข้าร้านสะดวกซื้อหรือร้านหนังสือ

จะพบกับภาพสุดสยิวที่ไม่สามารถหาดูได้อย่างเปิดเผยในเมืองไทย

ภาพเหล่านี้ถูกสอดแทรกไว้ทั้งในหนังสือการ์ตูนรายปักษ์แบบธรรมดาและแบบติด เรท

หรือจะเป็นหนังสือบันเทิง นิตยสารต่างๆ

ซึ่งภาพอาจจะมีเห็นลูกเกด แต่ก็ยังมีสงวนสาหร่ายไม่ให้เห็น

แต่นิตยสารบางฉบับก็เปิดเผยให้เห็นอย่างโจ่งแจ้ง

ที่ผมเคยไปดูหนังสือเกี่ยวกับการถ่ายภาพ .. เห็นแทบทุกจุดอย่างไม่เซ็นเซอร์

หรือว่ามันจะเป็นงานศิลปะทางภาพถ่ายเลยไม่เซ็นเซอร์ให้เสียอารมณ์ก็ไม่รู้ เหมือนกัน



ตามร้านหนังสือต่างๆจะมีมุมสำหรับหนังสือติดเรทโดยเฉพาะ



สารพัดรูปแบบให้เลือกชม




ไม่เพียงแค่หนังสือเท่านั้น แต่ตามร้านวีดีโอก็จะมีมุมหนังติดเรทเช่นกัน

เพียงแต่หนังพวกนี้จะถูกเซ็นเซอร์บริเวณสาหร่าย และไส้กรอกไม่ให้เห็น

ยกเว้นบางร้านจะเป็นร้านเล็กๆต้องเข้าไปถามว่ามีหนังไม่เซ็นหรือไม่


ซึ่งหนังพวกนี้จะห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ใช้บริการ

แต่ก็เข้าไปก็เห็นนักเรียนม.ปลายเข้าไปยืนดู

แผ่นหนังพวกนี้ยังสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของมือ 2

ก็จะมีมุมสำหรับหนังและหนังสือติดเรทที่ผ่านการใช้งานมาแล้วให้เลือกซื้อ เช่นกัน




ด้านในมีการจัดอันดับหนังยอดฮิต ไม่ต่างจากเวบไซต์ขายหนังติดเรทบ้านเรา



ร้านขายวีดีโอบางร้านอาจจะมีการจัดโปรโมชั่น



โดยให้ดาราเอวีมาที่ร้านและให้คนที่เข้ามาถ่ายรูปคู่ด้วยกัน

หรือซื้อสินค้าแล้วเอามาให้ดาราเอวีเซ็นต์ชื่อ

ช่วงโปรโมชั่นนี้เองก็ไม่ได้เข้าฟรี

จะเสียค่าเข้าชมด้วย แล้วแต่ความดังของน้องๆเขา แต่ก็ตกราวๆ 2,500-4,000 เยน

บางครั้งก็ต้องซื้อสินค้าของเขา 1 แผ่น แทนบัตรผ่าน แล้วถ่ายรูปได้

ซื้อ 2 แผ่นได้ถ่ายรูป๕กับไอดอล

ซื้อ 3 แผ่นได้รับ kiss จากไอดอล

แผ่นหนึ่งราคาราวๆ 2,500 - 3,000 เยน




แจกรายเซ็นต์พร้อมถ่ายรูปคู่อย่างใกล้ชิด

ปล.3 ภาพนี้หามาจากทางอินเตอร์เนต ไม่ได้ไปเอง




นอกจากนี้ .. เกือบจะทุกเมืองใหญ่ๆจะมีแหล่งบันเทิงสำหรับผู้ชายมากมาย

ทั้งโตเกียว โอซาก้า ซัปเปาโร ฯลฯ

ภาพประกอบทางอินเตอร์เนต



บางบาร์ก็แปลกๆ อาจจะเพราะความเครียดของชายวัยทำงาน

ที่ต้องทำงานอย่างหนัก ต้องการผ่อนคลายจากความเครียดเหล่านั้น

จึงมีการนำเสนอวิธีการผ่อนคลายความเครียดของเหล่าบรรดาชายโฉด

จากคลับ บาร์ มากมายหลายกระบวนท่า

ภาพนี้เป็นคลับมาราย มอนโรล

โดยพนักงานแต่งเป็นชุดกระโปรงบาน

คลายภาพที่มาราย มอนโรลโดนลมเป่าจากใต้กระโปรง

ชายหนุ่มที่เข้ามานั่งดริ้งค์ สนใจสาวไหนก็เรียกเข้ามาคุยผ่านโทรศัพท์ที่ติดไว้ให้หน้าตู้

กระจกที่พื้นด้านล่างคงจะทำให้หนุ่มท่ายืนคุยใกล้ๆมองเห็นไปถึงไหนๆ

ภาพประกอบทางอินเตอร์เนต



บางคลับลงทุนขนาดจ้างนางเงือกมาว่ายเวียนอยู่ในกระจกใสในร้าน

ลูกค้าก็นั่งดื่มเครื่องดื่มมองไปอย่างสบายอารมณ์

ภาพประกอบทางอินเตอร์เนต



หรือจะเป็นร้านดื่มเหล้า ที่จะมีสาวมานั่งข้างๆร่วมดริ้งค์ด้วย

บางร้านก็ใส่ชุดจีน บางร้านก็ใส่ชุดยูกาตะ หรือเป็นชุดอื่นๆ

เริ่มแรกน้องจะมานั่งคุยข้างๆกระหนุงหกระหนิงเสียงน่ารัก

เราสามารถให้น้องเขามานั่งคร่อม น้องเขาจะเปิดเสื้อให้เห็นซาลาเปา

สามารถจับได้แต่ไม่สามารถใช้ปากได้ หรืออาจจะใช้ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถ

ราคาช่วงหัวค่ำจะถูกราวๆชั่วโมงละ 4,000 เยน

19.00-21.00 5,000 เยน

21.00 - 6,000 เยน เป็นต้น

โดยบางร้านจะมีสาววนมาให้บริการชั่วโมงละ 3 คน

ภาพประกอบทางอินเตอร์เนต



หรืออาจจะเป็นคลับที่มีพนักงานนวดเซ็กส์ซี่คอยให้บริการนวด

ส่วนจะนาบหรือไม่นาบคงต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

หรือแล้วแต่การตกลง




พูดเรื่องการขายบริการทางเพศของที่นี่ ..

มันสะดวกสะบายกว่าบ้านเรา .. และมีค่อนข้างจะมากพอสมควร

เพราะอาชีพให้บริการทางเพศเป็นอาชีพที่ถูกกฏหมายสำหรับที่นี่

อาจจะไม่โจ่งแจ้งนัก .. แต่บางครั้งตามตู้โทรศัพท์ อาจจะพบเบอร์โทรและรูปสาวๆ

หรือตามเสาไฟฟ้า ก็เห็นป้ายให้ติดอยู่เหมือนกัน



สำหรับที่เมืองใหญ่อย่างโตเกียว

ชินจูกุ .. คงเป็นเมืองใหญ่ที่น่าท่องเที่ยวที่หนึ่สำหรับนักท่องเที่ยว



แต่ในยามค่ำคืนแล้ว .. อีกฝากหนึ่งของสถานีรถไฟชินจูกุ

จะมีย่านที่เรียกว่า .. คาบูกิโช

ย่านนี้จะมีชายญี่ปุ่นใส่สูทคลุมยาวชุดดำยืนรอลูกค้าในร้านที่มีป้ายติดว่า ..

..... ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 เข้า ......

ร้านเหล่านี้มีมากมาย ในร้านจะมีคอมพิวเตอร์หรือไม่ก็อัลบัมรูปที่มีรูปกว่าพันรูปอยู่ในร้าน

มีรูปหญิงสาวในสังกัดที่พร้อมจะให้บริการความสุขสำหรับชายอารมณ์กลัด ..

ชายชุดดำบางคนจะยืนหาลูกค้าที่หัวมุมถนน

คอยเข้าไปถามว่า .. คุณต้องการใช้บริการไหม

หรือหากเข้าไปบางมุมคุณอาจจะเจอชายผิวดำท่าทางค่อนข้างน่ากลัว

เดินเข้ามาถามเห็นฟันขาวโผล่ออกมา

" ... Do you want sex.

I have Japanese European Chinese Girl for you ... "

นอกจากร้านที่มีสาวให้บริการทางเพศแล้ว

ยังมีร้านที่มีสาวมานั่งดริ้งค์ข้างๆ + บริการให้สัมผัสซาลาเปา

รวมถึงร้านที่มีการแสดงพิเศษ .. ที่อาจจะไม่สามารถหาดูได้ง่ายๆนัก




สำหรับที่ชินจูกุแล้ว .. ฝรั่งเรียกที่นี่ว่า sex trade เลยทีเดียว

เพราะจะเป็นแหล่งติดต่อหาสาวเข้าในสังกัด

เพราะย่านนี้เป็นย่านช๊อพปิ้ง และนัดทานอาหารของสาวๆวัยทำงาน

เนื่องจากมีร้านขายของและร้านอาหารดีดีมากมาย

ทำให้เป็นแหล่งที่มีสาวๆวัยทำงานพลุกพล่าน

บางครั้งชายที่คอยหาสาวๆไปทำงานด้านนี้

อาจจะเข้าไปถามสาวๆถึงหน้าสถานีรถไฟ ไม่เพียงที่ชินจูกุเท่านั้น สถานีใหญ่อื่นๆก็อาจจะมี

โชว์นามบัตรอะไรไม่รู้ให้เราดู .. เหมือนจะทำห้น่าเชื่อถือ

บางครั้งบอกว่ามีงานรายได้พิเศษมั่ง บางครั้งก็บอกว่าจะให้ไปเป็นนางแบบบ้าง

หรือบอกว่าสามารถทำให้เป็นคนที่มีชื่อเสียงในเวลาไม่นาน

วัยรุ่นญี่ปุ่นที่อยากรวยและดังทางลัด .. หลงเป็นเหยื่อของคนเหล่านี้นับไม่ถ้วน

สำหรับสาวๆคนไทยที่มาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วมีคนน่าสงสัยเข้ามาคุยหรือชวนไปไหน ให้ระวังด้วย

เพราะพวกนี้จะตื้อมาก บางครั้งหนีแล้วมันยังเดินตามมาก็มี .. น่ากลัว




บริการหนึ่งที่เป็นที่นิยมสำหรับชายในญี่ปุ่น ..

Delivery Health ...

แค่ชื่อก็บอกแล้วครับว่า . มันเคลื่อนที่ได้ ( ให้บริการนอกสถานที่ )




ในเวบไซด์จะมีรูปสาวในสังกัด

บอกทั้งอายุ น้ำหนัก ส่วนสูง ขนาดซาลาเปา

มีตั้งแต่อายุ 18 ขึ้นมา ...




เมื่อคลิ๊กไปที่รูปจะมีรูปย่อย จะบอกถึงรายละเอียดของพนักงานมากขึ้น



...



สามารถให้พนักงานใส่ชุดอะไรมาหาก็ได้ โดยเราเป็นคนเลือก ...
ภาพประกอบทางอินเตอร์เนต



ค่าบริการก็ไม่แพง

ยกตัวอย่างเวลา 12.00 - 22.00 น. 50 นาที 14,000 เยน

ภาพประกอบทางอินเตอร์เนต



เราต้องไปเปิดโรงแรมเพื่อรอพนักงานมาหา
ภาพประกอบทางอินเตอร์เนต



บางโรงแรมอาจจะมีอุปกรณ์เพิ่มความสุขแบบตู้อัตโนมัตให้กด



โทรบอกห้องกับทางพนักงานที่จะมาหายังโรงแรม



การให้บริการเป็นไปตามรูป

เป็นการให้ความสุขด้วยมือ โดยไม่มีการสอดใส่

หากต้องการสอดใส่ก็ต้องเพิ่มเงิน 5,000 - 10,000 เยน

หรืออาจจะขึ้นอยู่กับการพูดจากับพนักงาน

หากลองคิดคร่าวๆ

เสียค่าโรงแรมแบบชั่วคราว 3,500 เยน + ค่าเรียกพนักงานมาให้บริการ 14,000 เยน + ค่าบริการพิเศษ 5,000 เยน

คุณจะใช้บริการทางเพศ 1 ครั้ง คุณต้องเสียค่าใช้จ่าย ราว 22,500 เยน




แต่ก็มีร้านที่ให้บริการราว 10,000 เยน สำหรับการให้บริการทางเพศ

เพียงแต่พนักงานอาจจะอายุมากกว่า 30

หรือมีการจำกัดเวลาเช่น 30 นาที 40 นาที ต่อการให้บริการ 1 รอบ

( ได้ยินมาว่าที่ญี่ปุ่นจะคิดเวลาเป็นเวลา ไม่ได้คิดเป็นจำนวนครั้งที่เสร็จเหมือนบ้านเรา )

ถึงแม้ญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเอดส์น้อยมาก

แต่หากเพื่อนๆจะเที่ยวก็ระวังเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย

เพราะเพื่อนๆอาจจะเป็นหนึ่งในจำนวนน้อยนั้นก็ได้

หรือจะให้ดีเก็บกลับเมืองไทยดีกว่า



http://oilden12.bravehost.com/jr2.htm