| | | เชื่อได้เลยว่า หลายบ้านคงต้องมีสมาชิกคนใดคนหนึ่งเคยเกิดอาการ “ผีอำ” กันมาบ้างแล้ว ด้วยอาการสากลที่มักพบได้บ่อย นั่นคือ ขยับแขนขาไม่ได้ ลืมตาไม่ได้ พูดไม่ได้ หรือหายใจลึกๆ ไม่ได้ ในขณะที่รู้สึกว่าตนเองตื่นอยู่ ทำให้มีลักษณะเหมือนเป็นอัมพาตทั้งตัว รวมไปถึงบางคนอาจเห็นภาพหลอน หรือได้ยินเสียงหลอน และฝันร้ายร่วมด้วย ทำให้ตกใจกลัว เพราะเคลื่อนไหวหรือต่อสู้ไม่ได้ เพื่อให้ทุกบ้าน เข้าใจลักษณะอาการผีอำที่เกิดขึ้น ทีมงาน Life and Family ได้สอบถามไปยัง “พล.อ.ดร.นพ.โยธิน ชินวลัญญ์” อายุรแพทย์ระบบประสาท ประจำศูนย์สมอง และระบบประสาท รพ.กรุงเทพ ซึ่งได้รับความรู้ที่น่าสนใจว่า อาการผีอำ เกิดขึ้นได้กับคนทั่วไป อาจจะเจออย่างน้อยเดือนละครั้ง สองครั้ง หรือบางครั้งอาการผีอำ มักเกิดขึ้นกับคนที่มีโรคประจำตัวที่จำเป็นต้องกินยาคลายเครียด หรือยานอนหลับ ซึ่งอาจส่งผลต่อสภาวะจิตใจได้ง่าย *** ผีอำ…ภาวะผีกดทับ หรือแค่อาการชนิดหนึ่ง? สำหรับภาวะผีอำนั้น คุณหมอบอกว่า เป็นอาการของจิตแบบหนึ่ง เกิดขึ้นขณะกำลังเคลิ้มหลับ หรือช่วงใกล้ตื่นนอน ในขณะนั้นสภาพจิตใจเริ่มรู้ต้วขึ้นบ้าง แต่ยังไม่รู้เต็มที่ อาจรับรู้ทางหู หรือทางตาได้ แต่ทั้งนี้อาจแปลเสียง หรือภาพไปในทางที่น่ากลัว ซึ่งภาวะผีอำ มักเกิดจากความเหนื่อยล้า โดยเฉพาะหลังจากทำงาน ดูหนังสือ หรือแม้กระทั่งดูโทรทัศน์ ส่งผลให้เมื่อล้มตัวนอนด้วยความล้า จึงเกิดการประสานกันระหว่างสารเคมี กับสภาพชีวเคมีของร่างกาย เกิดอาการทั้งกดทั้งค้าง ทำให้ขยับเขยื้อนตัวเองไม่ได้ ดัง นั้น อาการผีอำ จึงเกิดจากการที่กล้ามเนื้อของร่างกายเข้าสู่ภาวะการหลับ ที่เรียกว่า REM (Rapid Eye Movement) แต่สมองส่วนที่เป็นจิตสำนึกยังตื่นอยู่ อาการผีอำเป็นอาการที่ร่างกายกับจิตสำนึกหลับไม่พร้อมกัน หรือตื่นขึ้นมาไม่พร้อมกัน ส่งผลให้ร่างกายไม่สารมารถขยับตัวเองได้ ทั้งๆ ที่พยายามขยับตัวให้หลุดออกจากภาวะดังกล่าว ซึ่งจะเป็นเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นไปเอง *** ผีอำ สัมพันธ์กับการนอน และสถานการณ์ประจำวัน อาการผีอำ มักจะเกี่ยวข้องกับการนอน และสัมพันธ์กับสถานการณ์ ในชีวิตประจำวัน เช่น สถานการณ์ที่ทำให้เขากังวล ตื่นเต้น พูดได้ว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่คนจะถูกผีอำได้ ไม่ใช่ความผิดปกติทางจิตใจ เป็นเพียงตะกอนความคิดที่เกิดจากชีวิตประจำวัน ซึ่งบางคนหาทางออกไม่ได้ ก็ไปออกในช่วงตอนนอน เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคนคนนั้นเริ่มมีภาวะความเครียด ไม่ถือเป็นโรค ไม่มีอะไรน่ากลัว เพราะมันจะหายได้เอง |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
อารายเหรอ