สกอร์เปี้ยน วงดนตรีร็อกชื่อดังของเยอรมนี
ตัดสินใจสลายวง หลังอยู่ในวงการมากว่า 40 ปี
ตัดสินใจสลายวง หลังอยู่ในวงการมากว่า 40 ปี
|
สกอร์เปี้ยน วงดนตรีร็อกชื่อดังของเยอรมนี ตัดสินใจสลายวง หลังอยู่ในวงการมากว่า 40 ปี
สกอร์เปี้ยนส์ วงดนตรีร็อกชื่อดังของเยอรมนี ได้รูดม่านปิดฉากการบรรเลงเพลงให้ผู้คนทั่วโลกได้ฟังมานานกว่า 40 ปีแล้ววันนี้(24 ม.ค.) ทั้งนี้ วงดังกล่าว ซึ่งเป็นที่รู้จักของผู้คนเมื่อต้นทศวรรษที่ 1990 ด้วยผลงานวินด์ ออฟ เชนจ์
เว็บไซต์ของสกอร์เปี้ยน ระบุว่า สมาชิกในวงเห็นพ้องกันว่า พวกเขาได้มาถึงสุดปลายถนนดนตรีแล้ว จึงตัดสินใจสลายวงด้วยผลงานอัลบั้มสุดท้ายคือ สตริง อิน เดอะ เทล ที่จะออกสู่ตลาดในเดือน มี.ค. และจะเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตในเยอรมนีช่วงเดือน พ.ค. และทั่วโลกในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า
ที่มา นสพ.เดลินิวส์
ประวัติวง SROPION
Scorpions วงเฮฟวี่เมธัลจากเยอรมนีวงนี้อาจจะพ้นช่วงรุ่งโรจน์มานานมากแล้วในโลกดนตรี และก็อาจจะไม่ได้ขึ้นชั้นวงดนตรีร็อคระดับคลาสสิคถ้ามีการจัดอันดับกันใน ประเทศอื่น แต่อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยเองพวกเขาเป็นเหมือนราชันย์ คนยุคหนึ่งนั้นหันมาฟังร็อคและเฮฟวี่เมธัลจากการฟังเพลง อย่าง Holiday, Wind of Change และ Still Lovin" You และเป็นวงดนตรีต่างประเทศที่ส่งอิทธิพลให้กับดนตรีร็อคในเมืองไทยยุคหนึ่ง เป็นอย่างมาก แม้แต่ในปัจจุบันพวกเขาก็ยังเป็นที่โหยหาอยู่ ไม่เชื่อลองไปดูแผงซีดีเพลงต่างประเทศแล้วจะพบว่าอย่างน้อยจะต้องมีอัลบั้ม รวมฮิตของพวกเขาวางอยู่บนแผงอย่างน้อยหนึ่งชุดแน่นอน และเมื่อไม่นานพวกเขายังออกอัลบั้ม อคูสติคที่ขายเฉพาะบางประเทศในประเทศไทยอีกต่างหาก
ที่สำคัญอย่าง หนึ่งที่หลายคนน่าจะจำได้วงนี้เป็นจุดเริ่มต้นให้กับมือกีตาร์ นอกรีตอย่าง Michael Schenker ได้เกิด เพราะว่า Scorpions เป็นวงที่ก่อตั้งขึ้นโดย Rudolf Schenker มือกีตาร์ริธึ่มซึ่งเป็นพี่ชายของ Michael อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี ค.ศ.1987 ที่ออกอัลบั้มชุดแรกจนถึงปัจจุบัน Scorpions เปลี่ยนสมาชิกไปแล้วหลายคนมากมาย แต่ที่ยังอยู่คู่กับวงนอกจาก Rudolf ก็คือ Klaus Meine นักร้องนำผู้ที่เสียงกลายเป็นโลโก้ของวงไปแล้ว สมาชิกปัจจุบันที่เหลือได้แก่ Matthias Jabs (ลีดกีตาร์), James Kottak (กลอง), Pawel Maciwoda (เบส)
หลายคนอาจจะคิดว่าพวกเขาแค่ขายงาน เก่าๆ ไปก็น่าจะสบายไปทั้งชาติแล้ว พวกเขาก็ยังขยันออกอัลบั้มในความถี่ระดับ 2-3 ปีครั้ง จากอัลบั้มสุดท้ายคือ Unbreakable ออกเมื่อปี ค.ศ.2004 ก่อนหน้านั้นก็ออก Eye II Eye ในปี ค.ศ. 1999 (ช่องว่างระหว่างนั้นก็ออกอัลบั้มพิเศษอย่าง Acoustica และ Moment of Glory) เข็นอัลบั้ม Humanity Hour I ที่พวกเขายังโชว์ความเป็นเฮฟวี่เมธัลฝีมือดี มีเพลงบัลลาร์ดแบบสโลว์ร็อคที่มีเมโลดี้สวยงามจนคุณจะขนลุกชันทีเดียว
Humanity Hour I เป็นคอนเซ็ปท์อัลบั้มที่ยอดเยี่ยมชุดหนึ่งของวง ภาคดนตรีนั้นเรียกว่าพวกเขาบ่มเพาะตัวเองจนได้ที่ความลงตัวในดนตรีสูงเอา มากๆ ซึ่งถ้าคิดว่าพวกเขาทำแต่เพลงเพราะอย่างเดียว ต้องลองฟังลูกริฟในอัลบั้มนี้ที่มีการประสานเอาโน้ตบางตัวเข้าไป ซึ่งช่วยสร้างให้เกิดเมโลดี้สวยๆ ในขณะเดียวกันก็ได้น้ำหนักแบบเดียวกับที่ดนตรีร็อคควรจะมี ซึ่งไม่เก๋าจริงๆ ทำอะไรแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ เรื่องของฮาโมนี่ หรือความเข้ากันของเสียงในอัลบั้มนี้ นั้นสุดยอดไปเลยทีเดียวและบางแห่งซับซ้อนพอดู ซึ่งวงร็อคเด็กๆ สมัยนี้ไม่มีใครทำงานอะไรแบบนี้ออกมาอีกแล้ว
แทร็คแรก Hour I นั้นถล่มเราโครมครามด้วยเสียงกลองชุดเบ้อเริ่มพร้อมกับ เสียงของ Meine ซึ่งยังแข่งกับเสียงตูมตามจากทั้งกีตาร์และกลองได้ไหว แถมยังโหนเสียงสูงได้เหมือนตอนหนุ่มๆ ซะด้วย แต่รับประกันว่าแทร็คแรกมันแค่น้ำจิ้มก่อนที่พวกเขาจะลงมือชกจริงๆ ในเพลง The Game of Life ร็อคจังหวะเนิบๆ แต่เมโลดี้สวยและมีลูกริฟสไตล์เฮฟวี่ฝั่งยุโรปแท้ๆ ที่หนักหน่วง ในขณะเดียวก็สวยงามไปพร้อมๆ กัน ในแนวนี้ก็มีเพลงอย่าง 321 และ You"re Lovin" Me to Death ที่นำมาด้วยลูกริฟที่น่าสนใจซึ่งประสานเมโลดี้ลงไปด้วย
พอมาที่เพลงช้าอย่าง We Were Born To Fly สโลว์ร็อคเพราะมาก ด้วยการประสานเสียงทั้งกีตาร์และเสียงร้อง ก่อนจะยิงหมัดเด็ดใส่คนฟังตอนท่อนฮุก เป็นเพลงช้าที่เป็นลายเซ็นของพวกเขาจริงๆ เอาไปเปิดที่ไหนคนน่าจะจำได้ทันทีว่าเป็นพวกเขา เช่นเดียวกับ The Future Never Dies เสียงของ Meine กับเปียโนเฉยๆ จะน็อคคุณหงายหลังเอาง่ายๆ
นอก จากนี้ยังมีแทร็คเพราะมากๆ อย่าง Your Last Song เพลงจังหวะเนิ่บๆ และมี Love Is War ซึ่งเหมือนเป็นเพลงชุดเดียวกันซึ่งเล่าในท่วงทำนองไม่ต่างกันนัก ยังมี Love Will Keep Us Alive ที่เชื่อเหมือนเพลงของ The Eagle แต่คนละเพลงกันกับ We Will Rise Agian เพลงช้าที่ฟังได้เรื่อยๆ
The Cross เป็นเพลงเอกของอัลบั้มนี้ด้วย ที่เปิดตัวมาด้วยริฟกีตาร์คู่แถมดำเนินเพลงไปด้วยที่กีตาร์ตัวหนึ่งเล่นเมโล ดี้ประสานเข้ากับริธึ่ม นอกจากนี้ในท่อนแยกช่วงปลายๆ เพลงยังมี Billy Corgan นักร้องนำวง Smashing Pumkins ซึ่งกำลังจะออกอัลบั้มใหม่มาช่วยร้องให้อีกต่างหาก
ก่อนจะออกไปสู่โซโลเอาโทรลยาวออกไปจบเพลง
ส่วน Humanity ไตเติ้ลแทร็คของอัลบั้ม ที่ยังย้ำเองลักษณ์ของเฮฟวี่ฝั่งยุโปด้วยลูกริฟพุ่งๆ กับกลองโครมคราม ในขณะเดียวกันก็ผสมกับเมโลดี้สวยๆ กับเสียงร้องของ Meine ได้พอดิบพอดี
หลาย คนอาจจะระแวดระวังเพราะกลัวว่าจะไม่ดีอย่างหวังเลยเลิกคบกับวงแก่ๆ ที่มาออกอัลบั้มใหม่ แต่ไม่ใช่กับ Scorpions แน่นอน เพราะนี่เป็นสตูดิโออัลบั้มที่ดีที่สุดชุดหนึ่งของพวกเขาและได้รับเสียงตอบ รับที่ดีจากนักวิจารณ์ทั่วโลกเสียด้วย
"และนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้อีกว่าโลกนี้ไม่เพียงมีแก่กะโหลกกะลา แต่แก่ฝีมือที่ได้เรื่องมันมีอยู่จริงๆ"
ที่สำคัญอย่าง หนึ่งที่หลายคนน่าจะจำได้วงนี้เป็นจุดเริ่มต้นให้กับมือกีตาร์ นอกรีตอย่าง Michael Schenker ได้เกิด เพราะว่า Scorpions เป็นวงที่ก่อตั้งขึ้นโดย Rudolf Schenker มือกีตาร์ริธึ่มซึ่งเป็นพี่ชายของ Michael อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี ค.ศ.1987 ที่ออกอัลบั้มชุดแรกจนถึงปัจจุบัน Scorpions เปลี่ยนสมาชิกไปแล้วหลายคนมากมาย แต่ที่ยังอยู่คู่กับวงนอกจาก Rudolf ก็คือ Klaus Meine นักร้องนำผู้ที่เสียงกลายเป็นโลโก้ของวงไปแล้ว สมาชิกปัจจุบันที่เหลือได้แก่ Matthias Jabs (ลีดกีตาร์), James Kottak (กลอง), Pawel Maciwoda (เบส)
หลายคนอาจจะคิดว่าพวกเขาแค่ขายงาน เก่าๆ ไปก็น่าจะสบายไปทั้งชาติแล้ว พวกเขาก็ยังขยันออกอัลบั้มในความถี่ระดับ 2-3 ปีครั้ง จากอัลบั้มสุดท้ายคือ Unbreakable ออกเมื่อปี ค.ศ.2004 ก่อนหน้านั้นก็ออก Eye II Eye ในปี ค.ศ. 1999 (ช่องว่างระหว่างนั้นก็ออกอัลบั้มพิเศษอย่าง Acoustica และ Moment of Glory) เข็นอัลบั้ม Humanity Hour I ที่พวกเขายังโชว์ความเป็นเฮฟวี่เมธัลฝีมือดี มีเพลงบัลลาร์ดแบบสโลว์ร็อคที่มีเมโลดี้สวยงามจนคุณจะขนลุกชันทีเดียว
Humanity Hour I เป็นคอนเซ็ปท์อัลบั้มที่ยอดเยี่ยมชุดหนึ่งของวง ภาคดนตรีนั้นเรียกว่าพวกเขาบ่มเพาะตัวเองจนได้ที่ความลงตัวในดนตรีสูงเอา มากๆ ซึ่งถ้าคิดว่าพวกเขาทำแต่เพลงเพราะอย่างเดียว ต้องลองฟังลูกริฟในอัลบั้มนี้ที่มีการประสานเอาโน้ตบางตัวเข้าไป ซึ่งช่วยสร้างให้เกิดเมโลดี้สวยๆ ในขณะเดียวกันก็ได้น้ำหนักแบบเดียวกับที่ดนตรีร็อคควรจะมี ซึ่งไม่เก๋าจริงๆ ทำอะไรแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ เรื่องของฮาโมนี่ หรือความเข้ากันของเสียงในอัลบั้มนี้ นั้นสุดยอดไปเลยทีเดียวและบางแห่งซับซ้อนพอดู ซึ่งวงร็อคเด็กๆ สมัยนี้ไม่มีใครทำงานอะไรแบบนี้ออกมาอีกแล้ว
แทร็คแรก Hour I นั้นถล่มเราโครมครามด้วยเสียงกลองชุดเบ้อเริ่มพร้อมกับ เสียงของ Meine ซึ่งยังแข่งกับเสียงตูมตามจากทั้งกีตาร์และกลองได้ไหว แถมยังโหนเสียงสูงได้เหมือนตอนหนุ่มๆ ซะด้วย แต่รับประกันว่าแทร็คแรกมันแค่น้ำจิ้มก่อนที่พวกเขาจะลงมือชกจริงๆ ในเพลง The Game of Life ร็อคจังหวะเนิบๆ แต่เมโลดี้สวยและมีลูกริฟสไตล์เฮฟวี่ฝั่งยุโรปแท้ๆ ที่หนักหน่วง ในขณะเดียวก็สวยงามไปพร้อมๆ กัน ในแนวนี้ก็มีเพลงอย่าง 321 และ You"re Lovin" Me to Death ที่นำมาด้วยลูกริฟที่น่าสนใจซึ่งประสานเมโลดี้ลงไปด้วย
พอมาที่เพลงช้าอย่าง We Were Born To Fly สโลว์ร็อคเพราะมาก ด้วยการประสานเสียงทั้งกีตาร์และเสียงร้อง ก่อนจะยิงหมัดเด็ดใส่คนฟังตอนท่อนฮุก เป็นเพลงช้าที่เป็นลายเซ็นของพวกเขาจริงๆ เอาไปเปิดที่ไหนคนน่าจะจำได้ทันทีว่าเป็นพวกเขา เช่นเดียวกับ The Future Never Dies เสียงของ Meine กับเปียโนเฉยๆ จะน็อคคุณหงายหลังเอาง่ายๆ
นอก จากนี้ยังมีแทร็คเพราะมากๆ อย่าง Your Last Song เพลงจังหวะเนิ่บๆ และมี Love Is War ซึ่งเหมือนเป็นเพลงชุดเดียวกันซึ่งเล่าในท่วงทำนองไม่ต่างกันนัก ยังมี Love Will Keep Us Alive ที่เชื่อเหมือนเพลงของ The Eagle แต่คนละเพลงกันกับ We Will Rise Agian เพลงช้าที่ฟังได้เรื่อยๆ
The Cross เป็นเพลงเอกของอัลบั้มนี้ด้วย ที่เปิดตัวมาด้วยริฟกีตาร์คู่แถมดำเนินเพลงไปด้วยที่กีตาร์ตัวหนึ่งเล่นเมโล ดี้ประสานเข้ากับริธึ่ม นอกจากนี้ในท่อนแยกช่วงปลายๆ เพลงยังมี Billy Corgan นักร้องนำวง Smashing Pumkins ซึ่งกำลังจะออกอัลบั้มใหม่มาช่วยร้องให้อีกต่างหาก
ก่อนจะออกไปสู่โซโลเอาโทรลยาวออกไปจบเพลง
ส่วน Humanity ไตเติ้ลแทร็คของอัลบั้ม ที่ยังย้ำเองลักษณ์ของเฮฟวี่ฝั่งยุโปด้วยลูกริฟพุ่งๆ กับกลองโครมคราม ในขณะเดียวกันก็ผสมกับเมโลดี้สวยๆ กับเสียงร้องของ Meine ได้พอดิบพอดี
หลาย คนอาจจะระแวดระวังเพราะกลัวว่าจะไม่ดีอย่างหวังเลยเลิกคบกับวงแก่ๆ ที่มาออกอัลบั้มใหม่ แต่ไม่ใช่กับ Scorpions แน่นอน เพราะนี่เป็นสตูดิโออัลบั้มที่ดีที่สุดชุดหนึ่งของพวกเขาและได้รับเสียงตอบ รับที่ดีจากนักวิจารณ์ทั่วโลกเสียด้วย
เชิญคลิ๊กรับฟังเพลงของ สกอร์เปี้ยนส์ ในอดีตกัน
Scorpions - Always somewhere
">
Scorpions - Still Loving You
">
อีกเพลงที่ชอบ scorpions - you and i
">
liel and scorpions send me an angel
">
Scorpions - Wind of Change (ภาคเล่นกับวงออร์เคสตร้า)
">
ใครไม่รู้จักเพลงนี้บ้าง Scorpions - holiday
">
Scorpions - When the smoke is going down
">
Scorpions - Still Loving You
">
อีกเพลงที่ชอบ scorpions - you and i
">
liel and scorpions send me an angel
">
Scorpions - Wind of Change (ภาคเล่นกับวงออร์เคสตร้า)
">
ใครไม่รู้จักเพลงนี้บ้าง Scorpions - holiday
">
Scorpions - When the smoke is going down
">
ภาพวงสกอร์เปี้ยน พร้อมลายเซ็นต์จริงครบทุกคน ของพี่แจ้ ดนุพล 5000 บาท
ตอบลบสกอร์เปี้ยน วงดนตรีร็อกชื่อดังของเยอรมนี ตัดสินใจสลายวง หลังอยู่ในวงการมากว่า 40 ปี
สกอร์เปี้ยนส์ วงดนตรีร็อกชื่อดังของเยอรมนี ได้ปิดฉากการบรรเลงเพลงเพื่อให้ผู้คนทั่วโลกได้ฟังมานานกว่า 40 ปีแล้ว สกอร์เปี้ยนส์เป็นที่รู้จักของผู้คนเมื่อต้นทศวรรษที่ 1990 ด้วยผลงานวินด์ ออฟ เชนจ์
เว็บไซต์ของสกอร์เปี้ยน ระบุว่า สมาชิกในวงเห็นพ้องกันว่า พวกเขาได้มาถึงสุดปลายถนนดนตรีแล้ว จึงตัดสินใจสลายวงด้วยผลงานอัลบั้มสุดท้ายคือ สตริง อิน เดอะ เทล
และที่เรามีให้สะสมอาจจะเป็นชุดเดียวในประเทศไทยที่สุดแสนจะคลาสสิค
ภาพวงสกอร์เปี้ยนอัดกรอบวิทยาศาสตร์สมัยแรกๆ พร้อมลายเซ็นต์ครบทุกคน เป็นของพี่แจ้ ดนุพล และเป็นภาพที่บริษัทกิ๊ปสันมอบให้พี่แจ้มี 4 ภาพ รับรองว่าเป็นชุดเดียวในเมืองไทย
ขอบอกว่าคลาสสิคมาก เพราะบริษัท กิ๊บสัน ทำให้พี่แจ้โดยเฉพาะสมัยวงสกอร์เปี่ยนมาเมืองไทยใหม่ๆ กล้าท้าเลยว่าไม่มีใครมีแน่ๆ
ทุกภาพขนาดประมาณ 40 cm x 30 cm
1 ชุดมี 4 ภาพ ขาย 5000 บาท สนใจติดต่อ
แป๊ะ...สุรพันธ์ 081-1999-081
http://paerider.blogspot.com