วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2553

ทุ่งสังหาร (the killing fields)

ทุ่งสังหาร (the killing fields)










ตำนานสังหารที่โลกไม่เคยลืม
บทบันทึกความเลวร้ายที่ปรากฎในประวัติศาสตร์
ที่มนุษย์กระทำต่อมนุษย์ด้วยกันอย่างป่าเถื่อนทารุณ

โศกนาฏกรรม "กัมพูชา" ช่วงเขมรแดงเรืองอำนาจหลังจากยึดกรุงพนมเปญได้ในปี 2518
ทั่วทั้งแผ่นดินแดงฉานด้วยเลือดประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ตกเป็นเหยื่อความโหดเหี้ยม

ย้อนอดีต (หลายศตวรรษให้หลังมหาอาณาจักรอันเกรียงไกร)
ประวัติศาสตร์กัมพูชายุคใหม่เริ่มต้นเมื่อได้รับเอกราชอย่างสมบูรณ์
ตามข้อตกลงเจนีวาระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสเมื่อพ.ศ.2497
สมเด็จเจ้านโรดมสีหนุปกครองประเทศมาอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งผลกระทบของสงครามเย็นทำให้กัมพูชาในช่วงปี 2508
สภาพเศรษฐกิจและสังคมตกต่ำเสื่อมโทรมถึงขีดสุด
เกิดความวุ่นวายทางการเมืองและการเดินขบวนประท้วงรัฐของนักศึกษาประชาชน

เดือนเมษายน 2510 ชาวบ้านและชาวนาในอำเภอซัมลูด จังหวัดพระตะบอง
ก่อการจลาจล รัฐบาลส่งทหารเข้าปราบปรามอย่างรุนแรง
ทำให้ประชาชนซึ่งถูกรวมเรียกเป็นฝ่ายซ้ายหลบหนีเข้าร่วมกับฝ่ายคอมมิวนิสต์กัมพูชา
ที่ตั้งฐานที่มั่นอยู่ในพื้นที่ป่าเขา

ต่อมาเดือนมีนาคม 2513 นายพลลอน นอล ทำการรัฐประหาร
ก่อนกองกำลังฝ่ายคอมมิวนิสต์กัมพูชา หรือเขมรแดง (Khmer Rouge) มีเวียดกงเป็นพันธมิตร
เข้ายึดอำนาจปกครองกัมพูชาได้เบ็ดเสร็จเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2518

...จากนั้นมากัมพูชาอยู่ภายใต้อำนาจของนายพล พต ผู้นำกลุ่มเขมรแดง
ผู้โค่นล้มรัฐบาลลอน นอล ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา
กัมพูชาในกำมือพล พต ระหว่างปี 2518-2522 ตกอยู่ในความรุนแรงสุดขั้ว
เพื่อปรับปรุงระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมพึ่งตนเอง
ไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากภายนอกประเทศ
และไม่ยอมเป็นพันธมิตรกับชาติใดๆ
โดดเดี่ยวประเทศออกจากอิทธิพลของต่างชาติ
ปิดโรงเรียน โรงพยาบาล โรงงาน ยกเลิกระบบธนาคาร ระบบเงินตรา
ยึดทรัพย์สินจากเอกชนทั้งหมด

๕๕๕๕

...
พอลพตในปี 1979 ผู้นำเขมรแดง



ทหารเขมรแดง

พล พต คลั่งลัทธิซ้ายสุดๆ เขาเชื่อว่าระบบสังคมนิยมจะนำกัมพูชา
สู่ความเจริญรุ่งเรืองเหมือนในอดีตได้ โดยประเทศควรจะอยู่อย่างสันโดษ
ไม่ต้องเพิ่งวิทยาการเทคโนโลยีใดๆ ขอให้มีข้าวกินก็อยู่ได้
เขาจึงกวาดล้างผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ทางความคิด นักศึกษาปัญญาชน
แพทย์ วิศวกร นักปราชญ์ ศิลปิน


เล่ากันว่าคนใส่แว่นสายตาที่ดูเหมือนมีความรู้ เป็นภัยต่อความมั่นคง ปกครองยาก
จะถูกฆ่าอย่างไร้เหตุผล
เขาต้องการให้กัมพูชามีแต่ชนชั้นกรรมาชีพ


นี่ไม่ใช่บทหนังหรือละคร แต่เป็นความจริงที่มนุษย์กระทำต่อมนุษย์ด้วยกันอย่างป่าเถื่อนทารุณ



ภาพจากทุ่งสังหาร

เมื่อเขมรแดงยึดกรุงพนมเปญ
ประชาชนพลเมืองถูกหลอกออกจากเมืองไปยังชนบทกันดาร
พล พตต้องการเปลี่ยนให้ชาวกัมพูชากลับไปเป็นชนดั้งเดิม ใช้แรงงานเพื่อการเกษตร
ทุกคนต้องเป็นชาวนาชาวไร่ อาศัยอยู่ในค่ายแรงงาน
ทำงานวันละ 12 ชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก และไม่มีอาหารเพียงพอ

4 ปีที่พล พตอยู่ในอำนาจผู้คนล้มตายนับล้านชีวิต ทั้งอดอยาก ทั้งถูกทารุณกรรม
ถูกฆ่ายิ่งมหาศาล "ทุ่งสังหาร" อุบัติขึ้นเวลานั้น


ภาพทุ่งสังหารที่เป็นตำนานแห่งการฆ่า
ล้างเผ่าพันธ์มนุษย์ บ้างก็ถูกกลบฝังทั้งเป็น
ณ ทุ่งแห่งนี้นับจำนวนมหาศาล




กระดูก - กระโหลกศีรษะทับถมเป็นกองภูเขาเลากา

นโยบายหนึ่งที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ถูกฆ่าป็นผักปลา
คือเขมรแดงต้องการให้กัมพูชาเป็นประเทศที่มีคนแค่เชื้อสายเดียว
คือเชื้อสายกัมพูชา ชนกลุ่มน้อยอย่างชาวเวียดนาม และชาวจีน
จึงถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ รวมถึงคนเขมรด้วยกันเอง
ประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 1.5-2 ล้านคน
เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เลวร้ายที่สุดของศตวรรษที่ 20








เดือนมกราคม พ.ศ.2522 เขมรฝ่ายที่เวียดนามหนุนหลัง
บุกเข้ายึดกรุงพนมเปญ เขมรแดงแตกพ่ายมาหลบอยู่ตามตะเข็บชายแดนกัมพูชา-ไทย
ขณะที่ระเบิดนับสิบล้านลูกฝังอยู่ทั่วประเทศ


- เจ้านโรดม สีหนุ
ต่อมา พ.ศ.2525 พล พตร่วมกับเจ้าสีหนุจัดตั้งรัฐบาลผสมกัมพูชาธิปไตย
นายเขียว สัมพัน ขึ้นเป็นผู้นำในปี 2528 แต่เชื่อกันว่าพล พตกุมอำนาจที่แท้จริง

ถึง พ.ศ.2534 กลุ่มต่างๆ ในเขมรลงนามสันติภาพให้มีการเลือกตั้งที่กำกับโดยสหประชาชาติ
แต่แล้วเขมรแดงกลับปฏิเสธผลการเลือกตั้งที่จะได้รัฐบาลผสมในปี 2535
แม้ว่าจะเสียกำลังพลไปจำนวนมากแล้วก็ตาม
การต่อสู้แย่งชิงอำนาจเกิดขึ้นภายในกลุ่มเอง

ปี 2536 สหประชาชาติสนับสนุนให้มีการจัดเลือกตั้งใหญ่
เพื่อนำประเทศกลับสู่สภาพปกติ ตอนนั้นเองที่เขมรแดงหมดอำนาจลงอย่างรวดเร็ว


รัฐบาลที่ได้ครองอำนาจในระยะนั้นเป็นรัฐบาลผสม
และหลังจากการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศในปี 2541
ทำให้การเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น นำไปสู่การยอมจำนนของกองกำลังเขมรแดง
พล พตถูกขับก่อนเสียชีวิตวันที่ 15 เมษายน 2541
สมาชิกของเขมรแดงแตกกระจาย บางส่วนยอมจำนนและถูกจับ
บางส่วนโดยเฉพาะระดับแกนนำหนีหัวซุกหัวซุน


"เขมรแดง" หรือ Khmer Rouge เป็นคำประฌามที่เจ้านโรดมสีหนุ ผู้เป็นประมุขรัฐ
ใช้เรียกขบวนการคอมมิวนิสต์ของประเทศช่วง พ.ศ.2503
เพื่อให้แตกต่างจากฝ่ายขวา เขมรสีน้ำเงิน คือเขมรที่นิยมกษัตริย์


ทุกวันนี้หลักฐานความเหี้ยมโหดของเขมรแดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์กลางกรุงพนมเปญ
คือ "พิพิธภัณฑ์ตวล ชเลง" หรือ Genocide Museum
แต่เดิมเป็นโรงเรียนมัธยมซึ่งตั้งชื่อตามบรรพบุรุษของพระมหากษัตริย์กัมพูชา
มีตึกเรียน 4 ชั้น 4 อาคาร
พ.ศ.2519 เขมรแดงเปลี่ยนโรงเรียนแห่งนี้เป็น S-21 ย่อจาก Security Office 21
สถานจองจำและทรมานผู้คนที่เห็นว่าเป็นศัตรูก่อนเอาตัวไปฆ่า


.......ทุ่งสังหาร(the killing fields)....ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
ประชาชนกว่าหนึ่งล้านเจ็ดแสนคนต้องสังเวยชีวิต ณ.ที่แห่งนี้
พร้อมๆกับบันทึกชื่อของ
“พอลพต ฮิตเลอร์แห่งกัมพูชา”............



บั้นปลายของพอลพตถูกจับกุม
และสิ้นใจตายเยี่ยงคนสิ้นไร้ไม้ตอกในกระท่อมเล็กๆที่เป็นที่คุมขัง






********************

ในบางความเห็นของผู้ที่ไปเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ที่เขมร
โดยคุณ เพิ่งไปยือนมา เล่าว่า :


"ถ้าคุณมีโอกาสได้ไปเยือนคุกแห่งนี้ ขอบอกว่า
คุณจะซึมซับได้ถึงความตายว่ามันน่ากลัวขนาดไหน
ทุกอณู ของพื้นที่มีแต่คนตาย
มีภาพคนก่อนตาย และตายไปแล้วมากมาย ดูกันไม่หวาดไม่ไหว
มันน่ากลัวและหดหู่เหลือประมาณว่าทำไมมนุษย์ถึงทำกับมนุษย์กันเองได้ขนาดนี้

ไม่แนะนำให้พาเด็ก และสตร ีมีครรภ์เข้าไปดูครับ สยองเกินไป "





จาก มติชน วันที่ 28 พฤศจิกายน 2549

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ