หนังขาย ยา : ตำนานความบันเทิง
เด็กยุคผมเติบโตมาพร้อม กับหนังขายยาในยุคหนังพากย์
หน่วยบริการขายยาโดยใช้เกวียน เพื่อนำภาพยนตร์ออกไปใช้ฉาย และนำสินค้าออกจำหน่ายในชนบทห่างไกล
มิตร ชัยบัญชา – เพชรา เชาวราษฎร์ ดาราคู่ขวัญในยุคหนังขายยาในอดีต
ชื่อของภาพยนตร์ในอดีตแต่ละเรื่องฟัง แล้วน่าดูยิ่งนัก เช่น จอมประจัญบาน, ร้อยป่า, อ้อมอกดิน, เหนือเกล้า, แมว เหมียว, สายเปล, เพื่อนรัก, ไอ้แก่น, เทพธิดาบ้านไร่, แสนรัก ล้วนผ่านตามาแล้วทั้งนั้น โดยเฉพาะ “แสนรัก” ทำเอา น้ำตาท่วมจอเพราะสงสาร “บุญ ทิ้ง” ตัวละครใน เรื่อง แต่ที่ประทับใจเห็นจะเป็นหนังของ “ดอกดิน” ศิลปิน ตัวดำ ๆ คู่กับอรสา ตัวขาว ๆ ไล่มาตั้งแต่ นก น้อย, มดแดง, กบเต้น, ปูจ๋า ผมจำได้ว่ายุคหลังที่ดูหนังกลางแปลงเห็นจะเป็น “ชุมทางเขาชุมทอง” ของ ส.อาสนจินดา มีมิตร ชัยบัญชา ขี่ม้าต่อสู้กับเหล่าร้ายคู่พิสมัย วิไลศักดิ์ น่าชมยิ่งนัก ส่วนในยุค
ร้อยป่า เรื่องดังในนิตยสาร “บางกอก” สร้างโดยพิษณุภาพยนตร์ มีครูเนรมิต กำกับการแสดง
จ้าว ยุทธจักรหนังขายยาในอดีตมีหลายบริษัทด้วยกัน เช่น บริษัท โอสถสภา (เตกเฮงหยู) จำกัด, บริษัทถ้วยทองโอสถ, บริษัทเยาวราชจำกัด, ห้างยาไทย, กรุงเทพฟาร์มาซี, ห้างขายยาอังกฤษตรางู, บริษัท บีแอลฮั้ว, ห้างขายยาเพ็ญภาค, ห้างขายยาแสงสว่างตราค้างค้าว, ห้างขายยาศรีตระการโอสถ รวมทั้งโอวัลติน และคอลเกตปาล็มโอลีฟ เหล่านี้ล้วนผ่านตานักดูหนังในยุคอดีต
อ้อมอกดิน หนังดังในอดีต นำแสดงโดย มิตร – เพชรา กำกับการแสดงโดยรังสี ทัศนพยัคฆ์
เคยอ่านประวัติความเป็นมาหนังขายยาของบริษัทโอสถสภา (เต็กเฮงหยู่) จำกัด พบว่า ในยุคแรกจะเรียกหน่วยฉายภาพยนตร์เคลื่อนที่นี้ ว่า ”หน่วย ปลูกนิยม” ซึ่งเริ่มก่อตั้งในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ราวปี 2487โดย การนำภาพยนตร์ไปฉายในชนบทถิ่นทุรกันดาร พร้อมกับการจำหน่ายสินค้าของบริษัท ซึ่งจะมีทั้งหน่วยรถยนต์ หน่วยรถไฟ และหน่วยเรือ ในพื้นที่แต่ละท้องถิ่น หากว่าในพื้นที่ในถิ่นทุรกันดารก็จะใช้เกวียนบรรทุกข้าวของเครื่องใช้ เครื่องปั่นไฟ เครื่องฉายหนัง จอ ลำโพงฮอร์น เพื่อ ที่จะให้บริการกับผู้ชมในท้องถิ่นห่างไกลอย่างไม่ย้อท้อ สำหรับ หน่วยรถยนต์จะให้บริการในพื้นที่ที่มีถนนไปถึง หน่วยรถไฟจะเป็นการจำหน่ายสินค้าตามบริเวณสถานีรถไฟ ส่วนหน่วยเรือก็จะวิ่งตามแม่น้ำลำคลองในเขตสมุทรปราการ อยุธยา ปากน้ำโพ สำโรง ปราจีนบุรี รวมทั้งลำคลองสายหลักในเขตกรุงเทพฯ
หน่วยบริการขายยาทางเรือในอดีต
ทีม งาน “หน่วย ปลูกนิยม” ของบริษัทโอสถสภา จำกัด ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น “หน่วยโฆษณาภูมิภาค” ซึ่ง ทีมงานแต่ละคนจะมีความสามารถเป็นพิเศษ ทั้งเป็นนักพากษ์ นักร้องขับกล่อมแฟนภาพยนตร์ในช่วงการโฆษณาขายยา ส่วนการจำหน่ายสินค้าจะเริ่มในระหว่างการหยุดฉายภาพยนตร์ โดยบริษัทจะนำสินค้าออกจำหน่ายในราคาต้นทุนตามโค้วต้าในแต่ละคืน ทั้งนี้เพื่อที่จะให้ประชาชนได้รู้จักสินค้าของบริษัท หากว่ามีคุณภาพก็จะหาซื้อมาใช้ตามร้านจำหน่ายสินค้าในตัวจังหวัด
เมื่อ ฉายภาพยนตร์แล้วเสร็จหน่วยบริการขายยาก็จะพักค้างคืนในหมู่บ้าน จากนั้นในตอนเช้าก็จะนำสินค้าออกจำหน่ายรอบหมู่บ้านอีกครั้งก่อนที่จะ เคลื่อนย้ายไปยังหมู่บ้านถัดไป หากว่าอยู่ใกล้เมืองก็จะพักในโรงแรมในตัวเมือง โดยมีเกณฑ์ในเวลา 1 เดือน จะต้องบริการให้ได้ 20 งาน นอกจากนั้นจะเป็นการฉายในงานมวลชนฉายตามงานวัดหรืองานบุญในแต่ละท้องที่
พนักงาน “หน่วยปลูกนิยม” ของบริษัทโอสภา เต็กเฮงหยู จำกัด ในอดีต
อย่างไรก็ตาม “หนังขายยา” ถือ ว่าเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์สู่กลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง ได้ทั้งความเพลิดเพลินและความสามัคคีในชุมชน หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากภารกิจในท้องทุ่งได้รับชมหนังความบันเทิงได้ซื้อ สินค้าราคาถูก นับเป็นการสร้างชุมชนบันเทิงอย่างแท้จริง
นอกจากการบริการ “หนังขายยา” แล้วในยุคนั้นแล้วยังมี “หนังล้อมผ้า” ของบริการ ภาพยนตร์ต่าง ๆ โดยจะมีอุปกรณ์การฉายเหมือนกับหนังขายยา มาเปิดวิกฉายเก็บเงินในหมู่บ้าน รวมทั้งบริการหน่วยฉายหนังประจำจังหวัด หรือที่เรียกว่า “หน่วย ปจว.” นำภาพยนตร์ในแนวปลุกใจต่อต้าน คอมมิวนิสต์ในชนบท มีภาพยนตร์ขาว – ดำ เรื่องดัง “เหตุเกิดที่บ้านโพนไฮ” มาฉาย ให้ชม รวมทั้งภาพยนตร์ขาว – ดำ ชุด “เพื่อมาตุภูมิ” ของรัชฟิล์ม เสียงในฟิล์มมีอดุลย์ ดุลยรัตน์ เป็นพระเอกนำ ถูกใจชาวบ้านทุ่งนักแล
หนังขายยาเริ่มหมดความนิยมภายหลังรอยต่อของหนังในยุค
หลังหมดยุคของ “หนังขายยา” ใน ยุคต่อมาบริษัทโอสถสภา จำกัด ยังคงมีการจัดกิจกรรมทางด้านความบันเทิง โดยมีการนำทั้งหนัง วิดีโอ และทีวี ไปฉายบริการสำหรับชุมชน รวมทั้งการรณรงค์ด้านสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานของรัฐ เช่น โครงการสุขาวดี โครงการมหกรรมภาพยนตร์ เพื่อนำรายได้ไปใช้จ่ายในสาธารณกุศล ซึ่งเริ่มต้นในปี 2539 เป็นต้นมา
บรรยากาศการฉายหนังขายยาในอดีต
ภาย หลังความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้ประชาชนในแต่ละหมู่บ้านหันมาชมโทรทัศน์ ซึ่งเป็นความบันเทิงราคาถูกในครอบครัว รวมทั้งการเข้ามาของระบบวิด๊โอ และระบบวีซีดี ทำให้หมดยุคของ “หนังขายยา” และ “หนังกลางแปลง” ทำ ให้บริษัท และห้างขายยาต่าง ๆ เลิกการประชาสัมพันธ์สินค้าทางบริการหน่วยขายยา หันมาประชาสัมพันธ์ทางสื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว
หลายท่านยังคงถวิลหาบรรยากาศ “หนังขายยา” ในอดีต แม้วันวานมิหวนคืน แต่ผมขอรำลึกความทรงจำผ่านบล็อก oknation.net นี้แหละ ชาวบล็อกได้อ่านแล้วจะรำลึกความหลังมาเล่าสู่กันฟังก็ขอเชิญนะครับ
ข้อมูล/ภาพเพิ่มเติมจาก
ธนิต ดวงกรมนา. ใต้เงากิเลน จากพ่อค้าหนังเร่ขายยา สู่การเป็นนักบริหารกรุงเทพฯ : 2544.
ศิริวิ ทองนาก. เปิดตำนานการตลาดรุ่นคุณปู่กับวิวัฒนาการหนังขายยา. มติชนรายวัน ; 30 กรกฎาคม 2540.
เครดิต http://www.oknation.net/blog/print.php?id=225910 โดย เจนอักษราพิจารณ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
อารายเหรอ