"Super Sunscreen" ครีมกันแดดขั้นเทพ

นักวิทยาศาสตร์ออสเตรเลียกำลังค้นคว้าวิจัยเพื่อผลิตซูเปอร์ครีมกัน แดดที่จะช่วยยับยั้งการเกิดมะเร็งผิวหนัง

ออสเตรเลียเป็นประเทศ ที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายว่าเป็นสถานที่สำหรับการทำกิจกรรมกลาง แจ้ง และชายหาดที่ยาวสุดลูกหูลูกตา คนออสเตรเลียหลายต่อหลายรุ่นเกิดและเติบโตอยู่ในบริเวณชายหาด และวนเวียนอยู่กับการทำกิจกรรมกลางแจ้งเช่นการเล่นกระดานโต้คลื่นและอาบแดด ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์ที่เป็นต้นเหตุของการที่สถิติคนเป็นโรคมะเร็งผิวหนังเพิ่ม สูงขึ้น โดยคนออสเตรเลียสองในสามคนจะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งผิวหนังก่อน ที่พวกเขาจะอายุย่างเข้า 70 ปี และออสเตรเลียก็เป็นประเทศที่มีอัตราการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังมากที่สุดในโลก อีกประเทศหนึ่ง ซึ่งสูงกว่าอัตราของสหรัฐฯ และอังกฤษถึง 4 เท่า

ตัวการสำคัญของการเกิดมะเร็งผิวหนังก็คือการได้รับรังสีอัลตราไวโอเล็ต จากดวง อาทิตย์มากเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ในออสเตรเลีย โดยมะเร็งผิวหนังประเภทที่อันตรายที่สุดก็คือ มะเร็งไฝ หรือ เมลาโนมา ซึ่งเกิดจากเซลล์เม็ดสีของผิวหนังที่เรียกว่าเมลาโนไซต์

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Queensland University of Technology กำลังทำการศึกษาทดลองกลุ่มคนหลายๆ กลุ่ม ที่มีลักษณะของผิวหนังแตกต่างกันไป เพื่อที่จะทำความเข้าใจและสามารถแบ่งหมวดหมู่ได้ว่าผิวหนังแต่ละประเภทมี ปฏิกิริยาตอบสนองต่อแสงอาทิตย์แตกต่างกันอย่างไร การทดลองนี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถค้นพบว่าลักษณะภายนอกของแต่ละ บุคคลมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเมลาโนไซต์หลังจากได้รับแสง อาทิตย์หรือไม่ และเพื่อพิจารณาว่าครีมกันแดดที่ใช้จะสามารถช่วยป้องกันเหตุการณ์เหล่านี้ ได้หรือไม่

เป็นที่ทราบกันดีว่า คนที่มีไฝอยู่ตามผิวหนังจำนวนมากจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งไฝมากกว่าคน ทั่วไป และครีมกันแดดที่มีอยู่ตามท้องตลาดในปัจจุบันไม่สามารถช่วยป้องกันการเกิด มะเร็งผิวหนังได้เสมอไป นักวิทยาศาสตร์จึงหวังว่าการวิจัยนี้จะนำไปสู่การประดิษฐ์คิดค้นครีมกันแดด ที่จะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ โดยระบุว่าส่วนผสมของซูเปอร์ครีมกันแดดนี้จะช่วยให้ผิวหนังปลอดภัยจากรังสี ยูวี และช่วยป้องกันไม่ให้ถูกแดดเผาได้

จนกว่านักวิทยาศาสตร์จะคิด ค้นยอดครีมกันแดดได้สำเร็จ พวกเขาก็ได้เตือนมายังคนรักแสงแดดทุกคนว่าเราไม่ควรจะพึ่งพาครีมกันแดดอย่าง เดียว แต่ควรจะป้องกันตัวเองไม่ให้รับแสงยูวีที่เป็นอันตราย และเมื่อจำเป็นต้องอยู่ในที่แจ้งก็ควรสวมหมวกและเสื้อแขนยาวไว้เสมอ

ภาพ : Reuters
Content by VoiceTV