“บัวลอยแฟนซี มีไส้”
แปลกใหม่ได้ใจลูกค้า
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
เคยคิดไหมว่าความ ฝันก็เป็นแรงบันดาลใจให้ก่อเกิดเป็นธุรกิจได้ ตามความเชื่อที่มารดามาเข้าฝันแล้วบอกว่านาทีนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำของ กิน เพราะยังไงคนเราก็ต้องกิน แต่โจทย์ที่ยากคือจะทำอะไรขายดี เพื่อให้ขายได้ และเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว ซึ่งหมายถึงต้องธุรกิจนั้นต้องมีความแตกต่างจากตามท้องตลาด หรือเป็นสินค้าที่น้อยคนจะรู้จัก และต้องการลิ้มลอง
ขนมหัวล้าน ขนมที่คนยะลารู้จักกันดี กลับกลายเป็นตัวเลือกแรกที่ นาย “อานนท์ ยะมานนท์” หนุ่มชาวใต้คิดถึงเป็นอันดับต้นๆ เพราะในเบื้องต้นคนเมืองกรุงไม่ค่อยรู้จัก ซึ่งหากนำมาปรับรูปลักษณ์และรสชาติ ให้ถูกปากตามวิธีการรับประทานขนมของคนภาคกลางน่าจะได้รับการตอบรับดี เพราะหากจะทำขนมหัวล้านมาขายให้กับคนกรุงนั้นไม่น่าจะไปรอด
จากวัตถุดิบหลักในการ ทำขนมหัวล้านคือแป้งข้าวเหนียวสีขาวธรรมดา นำมาห่อไส้ที่ทำจากถั่วเขียวเราะเปลือก แล้วนำไปต้ม พร้อมราดด้วยน้ำกะทิสด แต่สำหรับอานนท์ ได้นำมาดัดแปลงเป็นขนม “บัวลอยแฟนซีมีไส้” ด้วยการแต่งแต้มเติม สีสันที่ได้มาจากธรรมชาติล้วนๆ มาผสมกับแป้ง รวม 6 สี ได้แก่ สีส้มจากแครอทพันธุ์ออสเตรเลีย ที่จะมีสีส้มเข้มกว่าแครอททั่วไป สีเหลืองจากฟักทองโครงการหลวง สีเขียวจากใบเตย สีม่วงจากบีทรูท สีขาวนวลจากเผือก และสีดำจากข้าวเหนียวดำ ซึ่งถือว่าในช่วงระยะเวลาการดำเนินธุรกิจนี้มาประมาณ 3 ปี สีสันที่ได้มาจากธรรมชาติ กลายเป็นสิ่งดึงดูดใจลูกค้าให้เหลียวมอง พร้อมกับคำถามว่าขนมอะไร และสิ่งที่ตามมาคือการลองชิม ซึ่งลูกค้าเกือบ 100% ที่ได้ชิม ต้องควักเงินซื้อรับประทานทันที หรือซื้อกลับไปรับประทานที่บ้าน ซึ่งอานนท์ พูดติดตลกว่า “ไม่ซื้อไม่โกรธ แต่น้อยใจถ้าลูกค้าไม่ชิม”
“ธุรกิจ นี้เกิดจากที่แม่ผมที่เสียชีวิตไปแล้วมาเข้าฝันแล้วบอกยังไงคนเราก็ต้องกิน ซึ่งเมื่อผมมาลองคิดดูนั่นก็หมายถึงว่าแม่บอกให้ทำของกินขาย ซึ่งขนมหวานถือเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวของผมมากที่สุด เพราะบรรดาญาติๆ ก็ทำขนมหวานกันหลายคนที่จังหวัดยะลา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผมเห็นกรรมวิธีการทำมาโดยตลอด จึงคิดว่าหากทำขนมหวานขายน่าจะเป็นการเริ่มต้นการทำธุรกิจที่ไม่ยากนัก โดยขนมบัวลอยแฟนซีมีไส้ เป็นขนมที่ดัดแปลงขนมหัวล้านของคนใต้ ซึ่งการนำมาดัดแปลงเป็นบัวลอยแฟนซี ที่ใช้ชื่อร้านว่า 'บัวลอยบ้านยะลา' นั้นถือว่าต้องลองผิดลองถูกกันถึงครึ่งปีเลยทีเดียว กะทิสดที่รับประทานคู่กับบัวลอย ผมลองสูตรกว่าจะได้รสชาติที่กลมกล่อมอย่างในปัจจุบันต้องเสียเงินไปเป็น หมื่นกับการซื้อกะทิมาปรับปรุงรสชาติ”
ซึ่งอานนท์ แนะเทคนิคการรับประทานไข่แบบยางมะตูมกับขนมบัวลอยว่า ต้องรับประทานไข่ขาวให้หมดก่อน อย่าทำให้ไข่แดงแตก และเมื่อเหลือไข่แดงเพียงอย่างเดียวให้รับประทานครั้งเดียวให้หมด จะทำให้การขนมบัวลอยไข่หวานอร่อยยิ่งขึ้น หรือไข่หวานแบบสุกพอดีก็มีให้เลือกรับประทานด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่ทำให้ขนมบัวลอยแฟนซีมีไส้เป็นที่ติดอกติดใจแก่ผู้ ที่ได้ลิ้มลอง โดย สนนราคาขายถ้วยละ 25 บาท หากใส่ไข่อยู่ที่ 35 บาท ปัจจุบัน ร้านบัวลอยแฟนซีมีไส้มี 2 สาขา ย่านบางกะปิ คือ กรมส่งเสริมการส่งออก ถนนรัชดาภิเษก และ ห้างเสรีเซ็นเตอร์ โซนอาหาร นอกจากนี้ทางร้านยังรับออกงานนอกสถานที่ด้วย ในราคาขั้นต่ำ 7,500 บาท/ 200 ถ้วย และไข่หวาน 200 ฟอง ส่วนเครื่องอย่าง แห้ว และเผือก ก็จัดเตรียมไว้ให้ลูกค้าด้วย แต่ไม่มากนัก เหมือนเป็นการแถมให้ลูกค้ามากกว่า
สำหรับจุดเด่นของขนม บัวลอยแฟนซีมีไส้นั้น เรียกว่าองค์ประกอบทุกส่วนมีความสำคัญเทียบเท่ากันหมด ไม่ว่าจะเป็นความนุ่มของแป้งบัวลอยหลากสีเมื่อนำไปต้ม ไส้ถั่วเขียวเราะเปลือกที่ขณะกวนได้มีการผสมหัวกะทิสด น้ำตาลทราย และเกลือลงไปด้วย และหัวกะทิสดที่ใส่เกลือเล็กน้อยให้รสชาติกลมกล่อม รวมถึงไข่ไก่ที่นำมาทำเป็นไข่หวานก็ต้องเป็นไข่ที่สดใหม่ นำมาต้มให้ลูกค้าเลือกไข่แบบยางมะตูม ***สนใจติดต่อ 08-7590-9883***
http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9530000063519
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
อารายเหรอ