วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ริ้นดำ แมลงร้าย ที่ออกจากผิวหนังหนุ่มลำปาง

ริ้นดำ แมลงร้าย ที่ออกจากผิวหนังหนุ่มลำปาง



จากข่าวกรณี หนุ่มใหญ่วัย 52 ปี ที่อาศัยอยู่ใน ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ป่วยโรคประหลาด มีตุ่มคันขึ้นตามร่างกายหลายแห่ง และเวลาที่มีอาการคันจะมีหัวของแมลงสีดำชนิดหนึ่งโผล่ออกมา ลักษณะคล้ายยุง ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าเป็นมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว


ตัว อ่อนและตัวเต็มวัย ของ ริ้นดำ

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลของโรคดังกล่าว พบว่า แมลงที่บินออกจากต่างกายของคนนั้นเคยระบาดมากในชนบทของแอฟริกา อเมริกากลาง และอเมริกาใต้

โดยแมลงชนิดนี้มีชื่อว่า "ริ้น ดำ" (Black flies) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าตัวคุ่น เป็นแมลงขนาดเล็ก อ้วน ๆ คอดตรงกลาง อยู่ในกลุ่มเดียวกับพวกแมลงวันและยุง (Diptera) สกุล Simulium มีอยู่ประมาณ 1,203 ชนิด พบมากในป่าซึ่งแมลงชนิดนี้เป็นพาหะสำคัญในการนำโรคมาสู่คนและสัตว์เลี้ยง ต่าง ๆ เช่น เป็ด ไก่ วัว ควาย ฯลฯ

เนื่องจาก ริ้นดำ กินเลือดสัตว์เลือดอุ่นเป็นอาหาร สำหรับโรคเกี่ยวกับแมลงริ้นดำที่พบในคนนั้น เกิดจากการที่ริ้นดำเพศเมียมากัดคน ขณะที่ดูดเลือดมันก็จะปล่อยตัวอ่อนของพยาธิตัวกลมชนิด Onchocerca volvulus เข้าสู่คน โดยตัวอ่อนนั้นจะเคลื่อนไปฟักตัวชั้นใต้ผิวหนังใน ระยะเวลา 1-3 ปี จากนั้นจะเกิดก้อนเนื้อขึ้นใต้ผิวหนัง ในก้อนเนื้อจะมีทั้ง ริ้นดำ เพศผู้และเพศเมีย หลังผสมพันธุ์ตัวเมียจะผลิตตัวอ่อนขนาดเฉลี่ย 330 ไมครอนจำนวนมาก ซึ่งสามารถอยู่ในคนได้ 10-15 ปี และผลิตลูกได้ถึง 500,000-1,000,000 ตัวต่อปีเลยทีเดียว โดยปกติแล้ว ริ้นดำ จะอาศัยอยู่ในเขตภูมิอากาศร้อน ชอบเกาะติดอยู่บนใบไม้หรือก้อนหินใกล้ลำธารน้ำ เพื่อกินอาหารตามน้ำ ซึ่งวงชีวิตของริ้นดำมี 4 ระยะคือ ไข่ ตัวอ่อน ดักแด้ และตัวเต็มวัย ระยะไข่ถึงดักแด้ วางไข่ติดต่อกัน ตลอดปี ตัวเต็มวัยมีขนาดเล็กรูปร่างอ้วนสั้น มีขนาดความยาว 1.2-5.5 มิลลิเมตร สีลำตัวบางชนิดสีดำ บางชนิด มีสีน้ำตาลเข้ม หรือเทา ส้ม และเหลือง

---------------------------------------------

วานนี้ 16 มิ.ย. - นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าขณะนี้ผู้ป่วยชาวลำปางวัย 52 ปี ซึ่งตรวจพบว่ามีตัวแมลงออกมาจากตัวตามบาดแผล มีการเพาะตัวอ่อนและวางไข่อยู่ในร่างกายกลับมาที่โรงพยาบาลศูนย์ลำปางอีก ครั้ง หลังชาวบ้านที่เกิดความหวาดกลัวว่าชายคนนี้จะนำโรคติดต่อดังกล่าวมาสู่หมู่ บ้าน ทางโรงพยาบาลจึงรับตัวไว้ให้อยู่โรงพยาบาล และคอยดูแลรักษา เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป

อย่างไรก็ตามขณะนี้โรงพยาบาลศูนย์ลำปางได้ ส่งแมลงดังกล่าวไปตรวจที่ภาควิชากีฏวิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และส่งไปที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จังหวัดเชียงใหม่ เชื่อว่าน่าจะรู้ผลเกี่ยวกับชนิดของแมลงในวันพรุ่งนี้

สำหรับการตรวจสอบ เบื้องต้นจากคณะแพทย์ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า แมลงชนิดนี้จะส่งผลกระทบต่อร่างกายมากน้อยแค่ไหน แต่ที่ระบุได้ชัดเจนก็คือ แมลงดังกล่าวสามารถเข้าไปเพาะไข่ได้ตามบาดแผลในร่างกาย ซึ่งหากผิวหนังใคร มีบาดแผล แมลงสามารถที่จะเข้าไปอาศัยอยู่ใต้ผิวหนังได้ ก่อนจะฟักออกมาเป็นตัว นายจุรินทร์ ยังระบุด้วยว่า ขณะนี้ได้ประสานงานไปยังกรมการแพทย์ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง ระดับอาจารย์แพทย์ลงพื้นที่จังหวัดลำปาง เพื่อไปตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง และความเป็นไปได้ของประชาชนรายอื่น ที่จะมีโอกาสเกิดขึ้นเช่นเดียวกับชายชาวจังหวัดลำปาง ซึ่งเชื่อว่าขณะนี้แพทย์ใหญที่ลงพื้นที่ในวันนี้จะได้ข้อสรุป และรายงานผลตรวจให้ทราบในเช้าวันพรุ่งนี้

--

ตะลึงหนุ่มลำปางป่วยเป็นโรคประหลาด มีแมลงโผล่ออกจากผิวหนังตาม แขน และง่ามมือรุดไปหาหมอตรวจ ตอนแรกคิดว่าเป็นโรคจิต แต่พอเฝ้าดูอาการ พบว่ามีจริง เริ่มจากอาการคัน มีผื่นแดงผุดขึ้น พอสะกิดออกก็มีแมลงโผล่มาจริง เก็บตัวอย่างส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจเป็นชนิดไหน ไม่เคยพบมาก่อน สอบประวัติเคยอยู่ในถ้ำดอยอินทนนท์ เชียงใหม่ ชี้อาจเป็นไปได้ที่ชอนไชเข้าไปวางไข่ในผิวหนัง จนเกิดตัวอ่อน ลักษณะคล้าย "แตนเบียน"

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. มีผู้ป่วยด้วยโรคประหลาดเข้า รับการรักษาตัวที่ ร.พ.แม่ทะ จ.ลำปาง มีอาการคันตามมือและแขน เมื่อเกาแล้วปรากฏว่า มีแมลงผุดออกมาจากผิวหนัง จึงเดินทางไปตรวจสอบที่ร.พ. ทราบว่าผู้ป่วยชื่อ บุญธรรม สุริยะวงศ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 8 ต.ป่าตัน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง แต่ไม่พบตัวนายบุญธรรม เนื่องจากเดินทางกลับบ้านไปแล้ว

จากการสอบถาม น.พ.สมบูรณ์ ชุ่มวิจารณ์ ผอ.ร.พ.แม่ทะ ถึงอาการของนายบุญธรรม โดย น.พ.สมบูรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายบุญธรรมมาพบแพทย์ที่ร.พ. บอกว่ามีแมลงออกจากร่างกาย จากการตรวจและสังเกตของแพทย์ก็ไม่พบอะไร คิดว่าคนไข้รายนี้มีอาการทางจิต จึงให้ไปพบแพทย์จิตเวช และให้เฝ้าดูอาการก่อน แต่หลังจากที่ตรวจและเฝ้าดูอาการ ปรากฏว่าคนไข้มีอาการอย่างที่บอกจริงๆ คือจะมีอาการคันที่แขน และง่ามมือ จากนั้นมีผื่นแดงผุดขึ้น โดยคนไข้ใช้ปลายมีดคัตเตอร์เขี่ยสะกิด ปรากฏว่ามีแมลงปีกสีเทา ขนาด 2-3 ม.ม. และบางตัวมีสีทองขนาด 1 ม.ม. โผล่ออกมาจากผิวหนัง ทางพยาบาลจึงบันทึกภาพเก็บตัวอย่างแมลงไว้

ผอ.ร.พ.แม่ทะ กล่าวว่า ต่อมาในวันที่ 11 มิ.ย. ส่งตัวคนไข้ไปยังร.พ.ศูนย์ลำปาง ปรากฏว่าในช่วงเย็นคนไข้กลับมาที่ร.พ.แม่ทะอีก โดยบอกว่าทาง ร.พ.ลำปาง ตรวจแล้วบอกว่าไม่เป็นอะไร และให้สบู่ฟอกฆ่าเห็บเหามา เนื่องจากยังมีอาการคันอยู่ จึงกลับมาพบแพทย์ที่ร.พ.แม่ทะ ซึ่งขณะนี้อาการคันดีขึ้น จึงให้กลับไปรักษาที่บ้านแล้ว ตนเองเป็นแพทย์มาหลายปีก็เพิ่งเคยพบเห็นเหตุการณ์แปลกประหลาดครั้งนี้ ไม่ทราบว่าเป็นสัตว์ หรือแมลงอะไร จึงส่งตัวอย่างไปตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน

จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านนาย บุญธรรม แต่ไม่พบตัว พบแต่เพียง นางดี สุริยะวงศ์ อายุ 76 ปี แม่ โดยนางดีบอกว่า ลูกเดินทางไปพบร่างทรงแห่งหนึ่ง พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวของลูกชายว่า เคยทำงานบนดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ พักอยู่ในถ้ำกับภรรยามาเป็นเวลากว่า 20 ปี จนกระทั่งเลิกกับภรรยา และกลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านเมื่อปีพ.ศ.2547 และเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีอาการคันตามแขน ขา และง่ามมือ บอกให้ไปหาหมอ ก็ได้ยามาทา แต่ไม่หาย จึงไปพบหมออีกคนหนึ่งที่รักษาโรคผิว หนังและโรคเรื้อนมาก่อน ให้ยามาทา และสบู่รักษาเห็บเหามาใช้ เมื่อใช้แล้วปรากฏว่ามีผื่นขึ้น ลูกเกาจนถลอก และพบว่ามีหัวแมลงไม่ทราบชนิดสีดำโผล่และหลุดออกมา ด้วยความตกใจจึงบอกให้ไปพบหมอที่ร.พ.แม่ทะ

ด้าน น.พ.ชิโนรส ลี้สวัสดิ์ นายแพทย์เชี่ยว ชาญด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุข จ.ลำปาง กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รับรายงานเข้ามาแล้ว และกำชับให้เป็นผู้ป่วยพิเศษ ที่จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายๆ ด้านเข้ามาศึกษาอาการ และการเกิดโรค โดยแพทย์สันนิษฐานในเบื้องต้นว่า ผิวหนังของ ผู้ป่วยอาจมีความผิดปกติ จนทำให้แมลงชนิดที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นชนิดใด ชอนไชเข้าไปวางไข่ในผิวหนัง จนเกิดตัวอ่อนขึ้น ซึ่งลักษณะตัวอ่อน ของแมลงที่ออกมาตามร่างกายนั้น คล้ายกับแตนเบียนที่อาศัยอยู่ตามป่า

น.พ.ชิโนรส กล่าวว่า ในการรักษานั้น ได้ประสานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจาก สถา บันโรคผิวหนัง และผู้เชี่ยวชาญด้านแมลงมาดูอาการผู้ป่วย เพื่อจะศึกษาอย่างละเอียด รวมถึงจะนำชิ้นเนื้อผิวหนังของ ผู้ป่วยไปตรวจทางห้องปฏิบัติการอีกด้วย สำหรับการป่วยในลักษณะนี้ เกิดขึ้นตามผิวหนังของ ผู้ป่วยเท่านั้น ไม่เป็นอันตรายถึงขั้นทำให้เสียชีวิต และไม่ติดต่อจากคนสู่คน อีกทั้งแมลงไม่ได้เกิดขึ้นทั่วร่าง เป็นเฉพาะจุดเท่านั้น คือ มือ เท้า ข้อพับตามร่างกาย และศีรษะ ก่อนที่จะมีแมลงออกมา ผู้ป่วยจะมีอาการคันบริเวณนั้น ก่อนจะเกิดตุ่มแดง มีน้ำใส ขึ้นมาก่อนจะแตก และมีแมลงโผล่ออกมาจากตุ่ม

"ขอให้ประชาชนอย่าเกิดความแตกตื่น เชื่อว่าจะสามารถรักษาหายได้ แต่สาเหตุที่เกิดโรค ต้องศึกษาอย่างละเอียด นับเป็นอาการที่แปลกมาก ทางการแพทย์ให้ความสนใจ ประกอบกับผู้ป่วยเคยไปทำงานอยู่ที่ป่าเขตดอยอินทนนท์ ก็อาจเป็นไปได้ว่าจะมีแมลงตัวแก่กัดตามผิวหนัง แล้วชอนไชเข้าไปวางไข่ จนเกิดตัวอ่อนบริเวณผิวหนัง" น.พ.ชิโนรส กล่าว

ขณะที่ น.พ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คาดว่าเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ 1.การเข้าป่าอาจจะทำให้ร่างกายมีแผลบริเวณผิวหนัง แล้วมีแมลงหวี่ หรือแมลงอื่นๆ เข้าไปกินเลือด น้ำเหลือง แล้วไข่ลงไปในแผล หากไม่ทำความสะอาดร่างกาย ไข่ที่ฝังตัวอยู่ก็สามารถแตกตัวเป็นตัวอ่อนอยู่ที่แผลได้ หรือ 2.เกิดจากภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำกว่าคนปกติ สามารถเกิดกับผู้เดินป่าบางคนได้โดยบังเอิญ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาภูมิคุ้มกันที่ผิวหนังเท่า นั้น ข้อแนะนำในการเดินป่า คือควรล้างตัวให้ฝุ่นละอองออกจากแผล เพราะอาจมีแมลงบางชนิดที่ไข่ไว้ตามร่างกายได้

"กรณีที่เกิดขึ้น ไม่เคยพบรายงานทางการแพทย์ในประเทศไทย ได้ประสานให้นายแพทย์สาธารณสุข จ.ลำปาง ส่งตัวอย่างหนอนที่ได้จากผู้ป่วยมาตรวจสอบที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์กีฏวิทยา มหาวิทยาลัยเกษตร ศาสตร์ เพื่อหาว่าหนอนเกิดจากแมลงชนิดใด เชื่อว่าเรื่องความสะอาดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเหตุนี้ขึ้น" น.พ.ไพจิตร์ กล่าว

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ป่วยเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในป่าเป็นเวลานาน ทำให้ต้องตรวจสอบให้ละเอียดว่าเกิดจากอะไร เพราะสามารถเป็นได้ทั้งมีแผลแล้วแมลงหวี่ไข่ทิ้งไว้ หรือเกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายก็ได้ การที่แมลงวางไข่ที่บาดแผล ตัวอ่อนสามารถเจริญเติบโตได้ แต่จะไม่สามารถกัดกินเข้าไปในระบบอวัยวะภายในร่างกายได้ ทำให้แมลงต้องออกมาภายนอกร่างกาย จึงทำให้ผู้ป่วยคัน เมื่อสะกิดจึงเห็นเป็นตัวอ่อน หรือแมลงออกมาจากร่างกายตามที่ปรากฏ

ข่าวจาก ข่าวสด

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ13 ตุลาคม 2558 เวลา 23:36

    คุณคัฟรักษาหายไม่ รักษาที่ไหนได้บ้างคัฟ

    ตอบลบ

อารายเหรอ