วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อั้งยี่ ... สมาคมลับของจีน


อั้งยี่ ... สมาคมลับของจีน

อั้งยี่” นั้น คนทั่วๆ ไปพอจะเดากันได้ว่าเป็นคำมาจากภาษาจีน ซึ่งในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานของเราอธิบายว่า “สมาคมลับของคนจีน ชื่อความผิดอาญาฐานเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความ มุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย เรียกว่า ความผิดฐานอั้งยี่”

อาจารย์ ดร.ปรีชา สุวรรณทัต ท่านยังกล่าวต่อไปอีกว่า คำอธิบายของพจนานุกรมนี้ตรงกับประมวลกฎหมายอาญาที่ได้บัญญัติความผิดฐานเป็น อั้งยี่ไว้ในลักษณะความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชนมาตรา ๒๐๙ ซึ่งความผิดฐานนี้ได้บัญญัติไว้นานแล้ว ตั้งแต่ ร.ศ.๑๑๖ อันเป็นมูลฐานมาก่อน” ( “ใครเป็นอั้งยี่ซ่องโจร?” -ปรีชา ทัศน์-ปรีชา สุวรรณทัต-แนวหน้า ๑๘ มีนาคม ๒๕๔๕)




เหตุที่ “อั้งยี่” มาจากภาษาจีนนั้น ประวัติศาสตร์ไทยบอกไว้ว่า เกิดแต่สมาคมลับของคนจีนที่มาอาศัยในประเทศไทยตั้งและรวมตัวกันเพื่อช่วย เหลือเกื้อกูลกันประสาผู้พลัดบ้านเมืองมาจากประเทศจีน ครั้นต่อมากระทำการอันละเลยขอบเขตอันชอบด้วยกฎหมายของบ้านเมือง กลายเป็นการพยาบาท แก้แค้นกัน บังคับกันโดยพลการ ทางการจึงต้องออกพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการกระทำในลักษณะอั้งยี่ เมื่อ ร.ศ.๑๑๖ (พ.ศ.๒๓๒๕+๑๑๖ = ๒๔๔๑) และใช้บังคับแก่คนที่ทำผิดในลักษณะนั้น แม้จะเรียกเป็นภาษาจีนอยู่แต่คงใช้บังคับชนชาติอื่นรวมทั้งชาติไทยด้วย มิใช่บังคับเฉพาะชาวจีนเท่านั้น



อั้งยี่

เป็นคำในภาษาจีน หมายถึง สมาคมที่คนจีนตั้งขึ้น เพื่อช่วยเหลือกันและกัน โดยมีวิธีดำเนินการ ทั้งที่ชอบ และ มิชอบด้วยกฎหมาย เช่น เรียกค่าคุ้มครอง จากสมาชิก หรือ ผู้อื่น บางครั้ง เมื่อผลประโยชน์ขัดกัน ก็มีการต่อสู้ ฆ่าฟันกัน ทำให้ประชาชน พลอยเดือดร้อนไปด้วย ประเทศไทยได้มี กฎหมายปราบปรามอั้งยี่ ร.ศ. 116 คำว่าอั้งยี่ จึงใช้ในภาษาไทย มานานแล้ว เป็นคำที่รู้จักกันดี

คณะบุคคล ดังกล่าวนี้ อาจมีชื่อเรียก แตกต่างกันไป ในแต่ละประเทศ เช่น กลุ่มมาเฟียในประเทศอิตาลี หรือ แก๊งยากูซ่าในประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น

ความผิดฐานอั้งยี่และซ่องโจร นั้นบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 โดยบัญญัติว่าผู้ใดเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีการดำเนินการและมี ความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปีและปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท ส่วนความผิดฐานซ่องโจร ซึ่งบัญญัติไว้ในมาตรา 210 มีองค์ประกอบความผิดดังนี้ คือ

1. มีการสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป

2. การสมคบกันนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อกระทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งในประมวลกฎหมายอาญาภาค 2 และ

3. ความผิดนั้นมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป

ความผิดฐานเป็นอั้งยี่และซ่องโจรนั้นมีความมุ่งหมายเพื่อควบคุมและป้องกัน มิให้มีการตั้งกลุ่มหรือรวมตัวกัน ของคณะบุคคลที่มีวัตถุประสงค์ในการกระทำผิดอาญาต่อชีวิตทรัพย์สินและความสุข ของสังคม เช่น กลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกัน อาละวาด ปล้น ชิงทรัพย์ผู้อื่น กลุ่มก่อการร้ายรวมตัวกันทำร้ายฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ มิจฉาชีพรวมตัวกันเพื่อวางแผนลักทรัพย์หรือขโมยรถยนต์ เป็นต้น


ที่มา panyathai


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ