(โพวมึ้งป่ออึงยี่)เป็นวัดในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน
สังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย สืบทอดหลักธรรมคำสอนมาจากนิกายฌาณ
หรือ เซน สาขาหลินฉี (วิปัสสนากรรมฐาน) และเป็นเป็นศูนย์กลางหลักธรรมคำสอน
ของนิกายวินัย และนิกายมนตรายาน ของวัชรยาน ทิเบต
และเป็นศูนย์กลางการปกครองคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย
และศูนย์กลางการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนานิกายมหายาน 大乘教理
และวัชรยานอีกทั้งเป็นแหล่งข้อมูลพุทธศาสนาฝ่ายมหายานของประเทศไทย
พระอุโบสถวัดโพธิ์แมนคุนาราม
วิหารท้าวจตุโลกบาล
สถานที่ตั้ง
ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 323 ถนนสาธุประดิษฐ์ ซอย19 (ซอยวัดโพธิ์แมน)
เขตยานนาวา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10120
เขตยานนาวา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10120
พระอุโบสถวัดโพธิ์แมนคุนาราม
พระอุโบสถวัดโพธิ์แมนคุนาราม
ประวัติ
เริ่มก่อสร้างสถาปนาวัดเมื่อปี พ.ศ. 2502 โดยมีพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร
(โพธิ์แจ้งมหาเถระ) อดีตเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย รูปที่ 6 เป็นผู้นำสร้าง
พร้อมด้วยคณะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พ่อค้า ประชาชนตลอดจนพุทธบริษัทชาวไทยและจีน
ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2503 มีเนื้อที่เนื้อที่ 12 ไร่เศษ
ใช้ทุนทรัพย์ในการก่อสร้างประมาณ 30 ล้านบาท ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา
เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2513 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จพระราชดำเนิน
ประกอบพิธียกยอดฉัตรเจดีย์อุโบสถ และ พระราชทานพระปรมาภิไธยย่อ ภปร
ประดิษฐานหน้าบันอุโบสถ ปีพ.ศ. 2514 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานพระนามพระประธานอุโบสถว่า พระพุทธวัชรโพธิคุณ
และในปีเดียวกันนี้ สมเด็จพระสังฆราช (อุฏฐายีมหาเถระ)
ทรงพระกรุณาพระราชทานเป็นวัดพัฒนาดีเด่นพร้อมประกาศนียบัตรจากกรมการศาสนา
กระทรวงศึกษาธิการแด่ท่านเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย (โพธิ์แจ้งมหาเถระ)
ที่ได้สร้างและพัฒนาวัดจนเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง
สรีระร่างจริงพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (โพธิ์แจ้งมหาเถระ)
พระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (เย็นเต็ก) เจ้าอาวาส
ตรุษจีนที่วัดโพธิ์แมน
ลักษณะสถาปัตยกรรม
วัดโพธิ์แมนสร้างตามหลักฮวงจุ้ย ลักษณะรถม้ากำลังลากราชรถ
ซึ่งประตูทางเข้าวัดมีซุ้มประตู 5 ประตูเปรียบเหมือนม้าห้าตัว
กำลังลากราชรถ คือพระอุโบสถ อันมีพระศรีศากยมุนีพุทธเจ้าเป็นประธาน
ตัวพระอุโบสถเป็นลักษณะผสมผสานระหว่าง พุทธศิลป ไทย จีน
และธิเบต พระอุโบสถเป็นรูปทรงจีน พื้นหินขัดลายจีน สถาปัตยกรรมของวัดโพธิ์แมน
เป็นฝีมือออกแบบโดยเจ้าคุณโพธิ์แจ้งมหาเถระ อดีตเจ้าคณะใหญ่สงฆ์นิกายจีน
สำหรับถาวรวัตถุที่สำคัญๆของวัดมีอุโบสถ 3 ชั้น ยอดเป็นฉัตรเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ภายในประดิษฐาน พระพุทธวัชรโพธิคุณ ปิดทองเหลืองอร่าม พร้อมด้วยหมู่พระพุทธรูป 1,000 องค์
ซึ่งประดิษฐานอยู่บนเพดานทั้ง 3 ชั้นของอุโบสถ ฝาผนัง 2 ข้าง
เป็นจิตรกรรมกระเบื้องโมเสครูปพระอรหันต์ 500 องค์
อีกด้านหนึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการออกบิณฑบาตร
โปรดสัตว์ในกรุงสาวัตถีประเทศอินเดียสมัยพุทธกาล
ฐานและขั้นเป็นหินอ่อนอิตาลี เสาเป็นลวดลายตัวมังกร
สลักปิดทอง หน้าพระอุโบสถ ประดิษฐานพระปรมาภิไธยย่อ ภปร
รอบอุโบสถล้อมด้วยลูกกรงแก้ว มีเสมาหินอ่อนและแกะสลักด้วยรูปท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่
และเครื่องหมายรูปวัชระธิเบต ด้านหน้าอุโบสถเป็นมหาวิหารท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ทิศ
ภายในประดิษฐานพระศรีอารยเมตตรัยโพธิสัตว์ และท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่
ด้านหน้ามหาวิหารจารึกอักขระภาษาจีนธิเบต แกะสลักด้วยไม้สักปิดทอง
ด้านหลังอุโบสถเป็นวิหารบูรพาจารย์
ประดิษฐานสรีระร่างท่านเจ้าคณะใหญ่โพธิ์แจ้ง มหาเถระซึ่งนั่งสมาธิดับขันธ์
นอกจากนี้ ยังมีวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (พระกวนอิมโพธิสัตว์)
ปางสหัสกร ปางสหัสเนตร (พันมือ พันตา) ซึ่งเป็นวัตถุโบราณ
แกะสลักด้วยไม้จันทน์หอมจากเมืองจีน สมัยราชวงศ์ถัง (อายุประมาณ 1,300 ปี)
วิหารปรมจารย์ วิหารบรรพชน หอศึกษาปริยธรรม ประภาศวิทยาคาร ห้องสมุด
หออาคันตุกะ หอวัตถุธรรม สำนักงานคณะกรรมการสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย
พร้อมด้วยหมู่กุฏิสงฆ์ เรียงรายอยู่อย่างเป็นระเบียบ ทางเดินส่วนใหญ่เป็นหินขัด
ด้านนอกมีเจดีย์ทรงญี่ปุ่น 3 ชั้น ศาลาพระพรหม ประตูมังกร 9 ขด
องค์พระปัทมคุรุสมภพวัชรจารย์ธิเบต เจดีย์ 7 ชั้นทรงจีน ศาลาเยาวราช
วัชรเจดีย์ทรงธิเบตในอดีตเป็นสถานที่บรรจุสรีระของท่านเจ้าคุณโพธิ์แจ้งมหาเถระ
ด้านขวาของพระอุโบสถเป็นอาคารสำนักงาน
เจ้าคณะใหญ่จีนนิกายแห่งประเทศไทย ภายในจัดแสดง วัตถุโบราณล้ำค่ามากมาย
เช่น พระพุทธรูป และพระโพธิสัตว์ และหยกแกะสลักเป็นพระโพธิสัตว์ห้าร้อยพระองค์
ตราประจำตำแหน่งพระสังฆนายกนิกายมนตรายาน
คธาธุดงค์ พัดยศงาช้าง เป็นต้น
ถ้ดมาเป็นห้องเก็บพัดยศ อัฐบริขารฝ่ายมหายาน และ
ห้องเก็บพระคัมภีร์ มนตรา ฝ่ายมหายาน ประตูด้านหน้าหอเก็บทาด้วยสีดำ
ลงรักเขียนด้วยทองคำเป็นรูปภาพต่าง ๆ สวยงามมาก
หอพระไตรปิฏกฉบับมหายาน ซึ่งเป็นหอพระไตรปิฏกสำคัญที่สุดของโลก คือ
เป็นสถานที่ประดิษฐานของพระไตรปิฏกของมหายาน หินยาน
และวัชรยาน(ทิเบต)นิกายมนตรยาน ซึ่งสิ่งล้ำค่าที่สุดในนี้คือ
พระไตรปิฏกฉบับจักรพรรดิเหลียงบู้ตี้ ซึ่งในโลกนี้มีแค่ 3 ที่เท่านั้น
ที่มีการเก็บรักษาอยู่จนถึงปัจจุบัน
และสิ่งล้ำค่าอีกอย่างหนึ่งคือพระคัมภีร์ของวัชรยาน(ทิเบต)นิกายมนตรายาน
ในโลกนี้มีที่นี่ที่เดียวที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งท่านเจ้าคุณโพธิ์แจ้งได้อัญเชิญมาจากทิเบต
ตามคำสั่งของท่านอาจารย์นอร่ารินโปเช่ ก่อนที่ทิเบตจะแตก 3 ปี
ที่มา
www.wintesla2003.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
อารายเหรอ