วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2553

Batman Story (ภาคหนังสือการ์ตูน)

Batman Story (ภาคหนังสือการ์ตูน)



แบ ทแมน จัดเป็นตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงใกล้เคียงกับ ซูเปอร์แมน ฮีโร่ตลอดกาล อย่างหนึ่งที่แบทแมนแตกต่างจากซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไปก็คือ เขาไม่ได้เป็นยอดมนุษย์ผู้วิเศษ ไม่ได้พลังพิเศษเหนือคนทั่วไป เขาเป็นปุถุชนคนธรรมดาที่มีความสามารถในเชิงการต่อสู้ แต่เขาก็มีสิ่งพิเศษที่เหนือกว่าซูเปอร์ฮีโร่คนอื่น ก็คือการเป็นอภิมหาเศรษฐี

เพียง ปีแรกที่ DC Comics เปิดตัวซูเปอร์ฮีโร่อย่าง ซูเปอร์แมน ก็ประสบความสำเร็จแบบถล่มทลาย พวกเขาไม่รอช้า รีบเปิดตัวซูเปอร์ฮีโร่คนใหม่ออกมาทันทีในปี ๑๙๓๙ จากไอเดียของ บ๊อบ เคน (Bob Kane) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังชุด หน้ากากซอร์โร (The Mask of Zorro) หนังเงียบสยองขวัญปี ๑๙๓๐ ชื่อ The Bat Whispers และภาพวาดรูปคนที่ติดเครื่องร่อนมีปีกคล้ายค้างคาวของ เลโอนาร์โด ดาวินชี ทั้งหมดนี้ เคน เอามาผสมผสานกันจนกลายเป็น แบทแมน แต่พระเอกของเราคนนี้ค่อนข้างจะมีปัญหาทางจิต หลังหน้ากากแบทแมนคือ บรู ซ เวย์น เศรษฐีหนุ่มที่พบกับฝันร้ายในวัยเด็ก เมื่อเขาเห็นพ่อและแม่ถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา บรูซในวัยสิบกว่าขวบจดจำฝังใจจนกลายเป็นปมทางจิตที่แกะไม่ออก เขาจึงอุทิศตนเองเพื่อออกปราบปรามเหล่าร้าย จนน่าสงสัยว่าเขาทำเพื่อผดุงความยุติธรรมหรือเพื่อบำบัดความต้องการส่วนตัว กันแน่

แบ ทแมนเผยโฉมครั้งแรกในหนังสือการ์ตูน Detective Comics เดือนพฤษภาคม ปี ๑๙๓๙ เป็นที่ถูกใจผู้อ่านมากมาย อีกสิบฉบับถัดมาเขาก็มีผู้ช่วยเป็นเด็กหนุ่มที่ชื่อ Robin the Boy Wonder หรือก็คือตัวแทนของผู้อ่านรุ่นเยาว์ที่ถ่ายทอดความคิดและทัศนคติของผู้อ่าน ใส่ลงไปในหนังสือ นั่นยิ่งทำให้ยอดขายบวกเพิ่มไปอีกถึงสองเท่าตัวในเวลาไม่นาน และในอีกหนึ่งปีต่อมา แบทแมนก็แยกออกมาเป็นหนังสือการ์ตูนเดี่ยวๆ ในชื่อ Batman และเริ่มมีตัวละครเด่นๆ ที่คลาสสิกปรากฏตัวออกมา อย่าง Joker หรือ Catwoman

สิ่ง ที่ทำให้ผู้อ่านชื่นชอบและติดตามส่วนหนึ่งน่าจะมาจากความเป็นคนธรรมดาๆ ไม่เหมือนมนุษย์เหล็กไหลอย่าง ซูเปอร์แมน ที่ผู้อ่านแทบจะไม่ต้องลุ้นอะไรมากนัก เพราะพ่อหนุ่มไซส์เอสรายนั้นมีพลังมหาศาล กระสุนก็ไม่ระคายผิว แถมยังบินได้อีก แต่กับแบทแมน ถ้าโดนยิงเข้าจังๆ ก็อาจม่องเท่งได้ ดังนั้นการปฏิบัติภารกิจแต่ละครั้งของแบทแมนจึงต้องอาศัยไหวพริบ สติปัญญา การแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ศิลปะการต่อสู้ และเครื่องไม่เครื่องมือไฮเทคที่งัดออกมาเล่นให้ผู้อ่านได้ตื่นเต้นเป็น ระยะๆ นั่นจึงหมายความว่าผู้อ่านใกล้ชิดกับแบทแมนได้มากกว่า จับต้องได้ไม่ใช่ลอยอยู่เหนือคนทั่วไปอย่างซูเปอร์แมน

เสน่ห์ อย่างหนึ่งของแบทแมนคือความลึกลับและความหม่นเศร้าของตัวละคร จากปมของการเห็นพ่อแม่ต้องตายต่อหน้าต่อตา คอยกัดกินใจ บรูซ เวย์น อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นั่นพอจะทำให้ผู้อ่านเห็นใจและคอยเอาใจช่วย แต่ในทางตรงข้าม ปมนี้ก็ส่งผลกระทบต่อตัวแบทแมนเอง เมื่อผู้อ่านเริ่มรู้สึกว่าแบทแมนเป็นเด็กไม่รู้จักโต เป็นลูกแหง่ที่ขาดความอบอุ่น มันคงน่ารำคาญมากกว่าน่าเห็นใจที่ต้องมาดูหนุ่มใหญ่คนหนึ่งคร่ำครวญรำพึง รำพันถึงพ่อแม่ที่จากไปนานกว่า ๓๐ ปีไม่ยอมเลิกซะที

ยาม กลางวัน บรูซ เวย์น คือนักธุรกิจมาดสำอาง เจ้าของอาณาจักรเวย์นเอ็นเทอร์ไพรซ์ที่มั่งคั่ง เขาเป็นชายหนุ่มรูปหล่อ รวยเสน่ห์ ดูเหมือจะเป็นเพลย์บอยที่ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน แต่ตกกลางคืน บรูซก็เปลี่ยนโฉมหน้าเป็นอีกหนึ่งบุคลิก ภายใต้หน้ากากยางสีดำ ดูลึกลับ ออกปราบปรามเหล่าร้าย นี่ก็คือการปลดปล่อยด้านมืดภายในตัวเองของเขาที่ในยามปรกติ บรูซ เวย์น ไม่สามารถทำได้ ทั้งบรูซและแบทแมนต่างเกื้อกูลกันและกัน ต่างฝ่ายต่างทำในสิ่งที่อีกฝ่ายยากที่จะทำได้ เหมือนกับ ดร.แจ๊คกิล กับ มร.ไฮด์

ในยุค แรกๆ แบทแมนยังคงความเป็นการ์ตูนอย่างครบถ้วน ทั้งรูปแบบ เนื้อหา ฉากแอ๊คชั่น อารมณ์ขัน จนผ่านไป ๓๐ ปี ยุคหลังสงคราม ผู้อ่านเริ่มเบื่อหน่ายกับมุขเดิมๆ ยอดขายแบทแมนตกฮวบฮาบ ปี ๑๙๖๔ DC Comics พยายามดันแบทแมนให้กลับมาอีกครั้ง โดยทำการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์เสียใหม่ ตั้งแต่ดีไซน์เสื้อผ้าและอุปกรณ์ต่างๆ ที่สำคัญคือการตัดตัวละครบางตัว อย่างเช่น พ่อบ้านอัลเฟรด (ซึ่งสุดท้ายแฟนๆ ก็เรียกร้องให้เอาเขากลับมา) และเนื้อหาที่ไม่เข้าท่าออกไป รวมทั้งเสริมเรื่องราวแนวสืบสวนเข้ามาให้มากขึ้น

ความ นิยมแบทแมนกลับมากระเตื้องขึ้นอีกนิดหน่อย แต่ก็ซาลงไปอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าแบทแมน เชยไปเสียแล้วกับโลกยุคใหม่ ที่มนุษย์ขึ้นไปเหยียบโลกพระจันทร์ได้แล้ว

ในปี ๑๙๗๐ ที่สุดแล้วแบทแมนก็กลับคืนสู่จุดเริ่มต้น ย้อนกลับไปสู่เรื่องราวแรกเริ่มที่เศรษฐีหนุ่มออกตระเวนปราบอาชญากรยามวิกาล ไม่ต้องจินตนาการอะไรให้ยุ่งยาก แบทแมนกลับสู่ความลึกลับและมืดหม่นอีกครั้ง แต่คราวนี้ใช้ทีมงานใหม่ นำโดย จู เลียส ชวาร์ซ และ เดนนิส โอนีล แบทแมนมาพร้อมกับลายเส้นใหม่ๆ รูปแบบการนำเสนอที่เร้าใจมากขึ้น จากจุดนี้เองที่เป็นเสมือนการเปิดประตูสู่ยุคโมเดิร์นของแบทแมน

บุคคล สำคัญที่ทำให้แบทแมนกลับมาโดดเด่นเป็นสง่าอีกครั้งคือ แฟรงก์ มิลเลอร์ อดีตนักเขียนของ Marvel Comics ที่มีสไตล์โดดเด่น ดิบ เถื่อน และโครงเรื่องที่จริงจัง อึดอัดมากกว่าเดิม มิลเลอร์เข้ามาเปลี่ยนโฉมแบทแมนใหม่ โดยใช้ชื่อใหม่แสนเก๋ว่า The Dark Knight เขาเติมความ มืดหม่นให้แบทแมนมากขึ้นไปอีกเพราะรู้ดีว่านี่คือเสน่ห์ของอัศวินแห่ง รัตติกาลคนนี้

มิ ลเลอร์ ยังเข้ามาแต่งเติมเรื่องราวให้น่าสนใจและมีความจริงจังมากขึ้น เช่น ดิ๊ก เกรย์สัน เลิกเป็นโรบิน แล้วออกฉายเดี่ยวในชื่อ Nightwing แทน การเสียชีวิตของโรบินคนที่สองในปี ๑๙๘๘ ใน A Death in the Family วายร้ายตัวใหม่อย่าง เบน ที่ทำเอาแบทแมนเกือบตาย แต่ที่ฮือฮามากที่สุดคือ Batman : The Dark Knight Return ในปี ๑๙๘๖ ที่มิลเลอร์เล่าถึง บรูซ เวย์น ในวัย ๕๐ ที่กลายเป็นไอ้ขี้เหล้า แต่กลับต้องมาสวมชุดแบทแมนอีกครั้งด้วยความจำเป็น! จนทำให้ The Dark Knight Return กลายเป็นหนังสือขึ้นหิ้งที่นักอ่านต่างอยากได้ไว้ครอบครองกันทั้งนั้น


บ็อบ เคน ผู้ให้กำเนิดแบทแมน


แฟรงก์ มิลเลอร์ ผู้สร้างแนวทางใหม่ให้กับแบทแมน


ภาพแรกเป็นปกการ์ตูนยุคแรกๆ ฉบับปี ๑๙๔๐
สองภาพถัดมาเป็นฉบับที่พบกับตัวร้าย ริดเลอร์ และ โจ๊กเกอร์


ภาพแรกเป็นฉบับ Batman Family ปี ๑๙๗๘ มากันพร้อมทั้งแบทแมน โรบิน และแบทเกิร์ล
ภาพกลางคือ Dark Knight Return ที่โด่งดังจากฝีมือของ แฟรงก์ มิลเลอร์

สุดท้ายคือปกฉบับ Death in the Family การตายของโรบิน


Batman Legends ปี ๒๐๐๔ ฝีมือของ แฟรงก์ มิลเลอร์


วายร้ายตัวเอ้ของแบทแมน โจ๊กเกอร์, ทูเฟซ, ริดเลอร์, มิสเตอร์ฟรีซ และ พอยซั่นไอวี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ