ย้อนยุค 50 ปี.... ปฏิทิน " เหล้า "ในเมืองไทย ....
หาก จะพูดถึงปฏิทินนู้ดของไทยแล้วน่าจะมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 ซึ่งเป็นปีแรกที่ผู้ผลิตสุราของไทยชื่อผลิตปฏิทินแบบแขวนซึ่งมีรูปนางแบบ แต่งตัวเซ็กซี่แจกจ่ายเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่แก่บรรดาลูกค้า แต่ภาพที่วาบหวามที่สุดของนางแบบในยุคนั้นเป็นเพียงชุดกางเกงขาสั้น เสื้อเชิ้ตแขนสั้นพับแขน และเอาชายสองข้างมาผูกไว้ที่เอว และนั่งโพสท่ามกลางฉากทิวทัศน์อันสวยงาม
อีก 2 ปีต่อมา คือประมาณปี 2504 นางแบบเพิ่มความเซ็กซี่มากขึ้นโดยพัฒนาจากกางเกงขาสั้นมาเป็นชุดว่ายน้ำแบบ วันพีซรัดรูปรัดทรง แต่ชุดว่ายน้ำสมัยนั้นจัดว่าไม่โป๊เลยก็ว่าได้ เพราะขากางเกงสั้นเท่ากับกางเกงขาสั้น ไม่ได้เว้าสูงเหมือนชุดว่ายน้ำในปัจจุบัน ส่วนเสื้อก็ปิดหน้าอกไว้ค่อนข้างมิดชิด จึงไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้งให้เสือหิวทั้งหลายได้เห็น
หากจะพูดถึงปฏิทินนู้ดของไทยแล้วน่าจะมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่เป็น ที่ทราบกันดีว่าแม่โขงคือเจ้าแห่งปฏิทิน'นู้ด' แต่ใครจะรู้บ้างว่าจริงๆแล้วปฏิทินนู้ดมีจุดกำเนิดมาตั้งแต่ปี 2502 'ผู้จัดการปริทรรศน์' จะพาท่านย้อนรอยไปสัมผัสกับปฏิทินนู้ดฉบับแรกๆของไทย จนมาถึง 'ศิริขวัญ นันทศิริ' ดาราสาวคนแรกที่กล้าเปลือยกายถ่ายปฏิทิน 'ดาริน กรสกุล' ในยุคที่ตำรวจกวาดจับปฏิทินหวาม ตื่นตากับบรรดาเซ็กซ์บอมบ์ในช่วงนู้ดข้างฝาเฟื่องฟู จนถึงยุคที่นางแบบทิ้งแคตวอล์กแห่ถ่ายปฏิทิน และล่าสุดกับปฏิทินนู้ดภายใต้การดูแลของเจ้าแม่คลับเอฟ 'ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม'
อีก 2 ปีต่อมา คือประมาณปี 2504 นางแบบเพิ่มความเซ็กซี่มากขึ้นโดยพัฒนาจากกางเกงขาสั้นมาเป็นชุดว่ายน้ำแบบ วันพีซรัดรูปรัดทรง แต่ชุดว่ายน้ำสมัยนั้นจัดว่าไม่โป๊เลยก็ว่าได้ เพราะขากางเกงสั้นเท่ากับกางเกงขาสั้น ไม่ได้เว้าสูงเหมือนชุดว่ายน้ำในปัจจุบัน ส่วนเสื้อก็ปิดหน้าอกไว้ค่อนข้างมิดชิด จึงไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้งให้เสือหิวทั้งหลายได้เห็น
แต่ปี ที่นับว่าเป็นการเปิดศักราชปฏิทินนู้ดอย่างเต็มรูปแบบน่าจะเป็นปี 2519 ซึ่งประวัติศาสตร์ปฏิทินแนวปลุกใจเสือป่าต้องจารึก เพราะภาพที่ปรากฏบนแผ่นปฏิทินปีนี้เป็นภาพเรือนร่างอันเปลือยเปล่าของนางแบบ สาว 'ศิริขวัญ นันทศิริ' ดาราชื่อดังในสมัยนั้น ซึ่งเจ้าของไอเดียซึ่งเป็นผู้ผลิตปฏิทินชุดนี้ก็คือเหล้าวิสกี้ยี่ห้อไก่แดง และนี่เองอาจกลายเป็นตำนานบทแรกของปฏิทินเหล้าแนว 'นู้ด' หรือเรียกกันสมัยนั้นว่า 'ภาพโป๊' และช่วงนั้นเป็นยุคที่มีดาราดาวยั่วมาถ่ายปฏิทินนู้ดกันหลายคน ไม่ว่าจะเป็น วาสนา พลากร , ดวงชีวัน โกมลเสน , รุ้งลาวัลย์ ศรีปฏิมากูล
'อุ้ง' อัญมณี สีชาด ตากล้องภาพนู้ดมืออาชีพซึ่งคลุกคลีกับการถ่ายภาพนู้ดมากว่า 20 ปี เท้าความถึงความโด่งดังของศิริขวัญว่า
" เท่าที่จำได้ภาพที่ศิริขวัญเป็นแบบในสมัยนั้นสร้างความไม่พอใจให้แก่ตำรวจ ไทยทั่วประเทศ ถึงขั้นยื่นหนังสือประท้วง เนื่องจากเสื้อผ้าบางชุดที่ศิริขวัญใส่ถ่ายแบบเป็นชุดที่เลียนแบบชุดของ ตำรวจ และโพสท่าเซ็กซี่โดยปลดกระดุมเสื้อออก 2-3 เม็ด เผยให้เห็นเสื้อชั้นในและเนินอกอวบอิ่ม เรื่องนี้เป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์อยู่หลายวัน"
* ยุคนางเอกเปลื้องผ้า
ต่อ มาเป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่ยุคที่นางเอกมาถ่ายปฏิทินนู้ด (ช่วงหลังจากปี 2520) ซึ่งปฏิทินที่สร้างความฮือฮาอย่างมากคือปีที่ เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์ นางเอกเรื่อง 'อีโล้นซ่าส์' เป็นนางแบบปฏิทินแม่โขงเมื่อปี 2522 โดยเนาวรัตน์เปลือยทั้งตัวแต่ไม่เห็นหน้าอกหรือของสงวน
"ตอนที่ เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์ ถ่ายปฏิทินนั้นเปลือยหมด แต่เปลือยแบบไม่เห็นอะไร คือเอามือบังหน้าอก เห็นแค่โครงร่างเป็น curve มีส่วนเว้าส่วนโค้ง แต่ที่หวือหวาเพราะเธอโกนหัว เป็นผู้หญิงที่โกนหัวแต่สวย เซ็กซี่ มีหน้าอก มีเอว แล้วหน้าตาก็สวยมากด้วย" อัญมณี สีชาด พูดถึงปฏิทินของนางเอกโล้นซ่าส์ด้วยความชื่นชม
และปฏิเสธไม่ได้ว่าปฏิทินแม่โขงได้สร้างชื่อให้หลายต่อหลายคนโด่งดังในวงการ บันเทิง แม้แต่นางแบบบรรดาโนเนม ถ้าพูดถึง แพรว มาศมารุต หรืออีกชื่อหนึ่งว่า จุติมา ดาวจรัส น้อยคนนักที่จะรู้จัก แต่ถ้าเอ่ยชื่อ 'ติ๊ก แม่โขง' หลายๆคนโดยเฉพาะหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่คงร้องอ๋อ... เพราะเธอคือนางแบบปฏิทินแม่โขงเมื่อปี 2525 ซึ่งโด่งดังมากถึงขนาดที่คำว่า 'แม่โขง' กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของฉายาของเธอ
ขณะที่ในปี 2528 เพ็ญพักตร์ ศิริกุล และ สุพรรณี จิตเที่ยง นางแบบ-ดาวยั่วที่ถ่ายปฏิทินนู้ดให้นิตยสารหนุ่มสาว นิตยสารสำหรับชายหนุ่มโดยเฉพาะ ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีเช่นกัน ด้วยท่าทีที่มั่นใจ หน้าตาสะสวย และหุ่นอันอวบอัด ทำให้ทั้งสองคนกลายเป็นเซ็กส์บอมบ์อันดับต้นๆของเมืองไทยในขณะนั้น
ยุคที่ใกล้เคียงกันคือยุคที่เริ่มเห็นหน้าอกของนางแบบอย่างชัดเจน โดย ผุสรัตน์ ดารา นางเอกภาพยนตร์จักรๆวงศ์ๆ เป็นผู้สร้างตำนานเป็นคนแรก โดยตัดสินใจหันถ่ายปฏิทินนู้ดให้กับสุราแม่โขง เมื่อปี 2528 ด้วยค่าตัว 100,000 บาท เพราะต้องการนำเงินไปรักษาพ่อที่เป็นมะเร็ง แต่เนื่องจากผุสรัตน์เป็นนางเอกที่มีภาพลักษณ์ดี สวยแบบเศร้าๆ และเรียบร้อยตามแบบฉบับกุลสตรีไทย การถ่ายปฏิทินนู้ดเปลือยอกครั้งนี้จึงก่อให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก และน่าเศร้าที่การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้เธอต้องออกจากวงการบันเทิง ผันตัวเองไปเป็นนักร้องคาเฟ่แทน
เซ็กซ์บอมบ์แห่ถ่าย
ในช่วงปี 2530 เป็นต้นมา นับว่าเป็นยุคที่นางแบบดาวยั่วทั้งหลายแห่แหนมาถ่ายปฏิทินนู้ดมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ขวัญภิรมย์ หลิน ที่ถ่ายปฏิทินให้ถุงยางอนามัยคิงเท็คในปี 2533 และในปีเดียวกัน ดาริน กรสกุล ก็เป็นแบบให้ปฏิทินแม่โขง โดยปฏิทินทั้ง 2 ชุดเป็นผลงานของตากล้องนู้ดฝีมือฉกาจ 'อุ้ง' อัญมณี สีชาด
ต่อมาปี 2535 ต้องนับว่าปฏิทินในปีนี้เป็นชุดที่ทำให้บรรดาเสือสิงห์กระทิงแรดน้ำลายสอได้ มากที่สุดชุดหนึ่งเพราะในปีนี้แม่โขงจับนางแบบเซ็กซ์บอมบ์มาไว้ในปฏิทินชุด เดียว เช่น สุกัญญา มิเกล นางแบบลูกครึ่งซึ่งภายหลังผันตัวมาจับไมค์เป็นนักร้องอาชีพ , ทัดทรวง มณีจันทร์ ดาวยั่วหุ่นทรมานใจชาย รวมทั้งนางแบบหุ้นสบึมอีกหลายคน
เช่นเดียวกับปี 2538 ที่เสือป่าต้องครางฮือเมื่อผู้ผลิตรถยนต์พร้อมใจกันดึงเซ็กซ์บอมบ์อันดับ ต้นๆของเมืองไทยมาถ่ายปฏิทินหวิวพร้อมๆกัน โดยรถบรรทุก FUSO เลือกนางแบบทรงโต 'แอน มรกต มณีฉาย' มาโชว์หน้าอกขนาด 38 นิ้ว บนแผ่นปฏิทิน ขณะที่รถจักรยานยนต์ KAWASAKI ให้ 'อุ้ยอ้าย อัครนี แดงใส' นางแบบนัยตาเซ็กซี่ ผิวสีแทน มาใส่ยีนส์สั้นเต่อ ปลดกระดุมโชว์หน้าท้องแบนราบ
* ตำรวจกวาดจับปฎิทิน'ดาริน'
ในช่วงเดียวกันนี้นางแบบปฏิทินที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดอีกคนหนึ่งคือ ดาริน กรสกุล นางเอกหนังแนวอีโรติก เด็กในสังกัดของ ทรนง ศรีเชื้อ ซึ่งมีผลงานถ่ายปฏิทินแม่โขง เมื่อปี 2533 เมื่อนอกจากปฏิทินชุดนี้จะสร้างความฮือฮาให้แก่วงการบันเทิงแล้ว ยังเป็นยุคเดียวที่กระทรวงมหาดไทยออกกฎเหล็กห้ามตีพิมพ์และเผยแพร่ภาพที่มี ลักษณะยั่วยุทางเพศ ทำให้ปฏิทินชุดนี้ถูกกวาดล้างจากทางการ รวมทั้งมีการสอบสวนผู้จัดทำและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
"สำหรับผุสรัตน์ถือว่าเป็นยุคที่เห็นหน้าอกแล้ว ตอนนั้นผุสรัตน์ใส่บิกินีตัวเล็กๆ ส่วนท่อนบนเปลือยหมด ตอนนั้นก็โดนวิพากษ์วิจารณ์เยอะมาก ส่วนปฏิทินชุดของ ดาริน กรสกุล เป็นปฏิทินของปี 2533 ซึ่งพี่เป็นคนถ่ายภาพเอง คือพี่เริ่มถ่ายรูปนู้ดเมื่อปี 2525 ซึ่งเป็นปีที่ถาพนู้ดของไทยเริ่มให้เห็นหน้าอกของนางแบบได้แล้ว จริงๆแล้วรูปของดารินนี่ไม่ได้เห็นโชว์หน้าอกทั้งหมดด้วยซ้ำ แต่ตำรวจกวาดเก็บหมด สมัยนั้นปฏิทินชุดนี้ที่เยาวราชแอบขายกันชุดละ 200 บาท ซึ่งเงิน 200 เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วก็ถือว่าเยอะนะ" อัญมณี สีชาด เล่าอย่างออกรสออกชาติ
แม่โขง'ปิดตำนานนู้ดข้างฝา
แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา ปี 2539 เป็น ปีที่มิตรรักคอสุราต่างต้องน้ำตาตกไปตามๆกัน เพราะเป็นปีที่คณะผู้บริหารของบริษัทสุรามหาราษฎร์เหล้าต้นตำรับนู้ดข้างฝา ออกมาประกาศปิดตัวปฏิทินนู้ดแม่โขง ด้วยเหตุผลที่ว่า " ต้องการสร้างภาพลักษณ์ใหม่" โดยหันมาทำปฏิทินตั้งโต๊ะแนวอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
โดยในปีนั้นมี ' ลูกนัท กฤติยาภรณ์ ศรีรัตนพันธ์' นางแบบสะโพกสวย เป็นแบบปฏิทินนู้ดแม่โขงคนสุดท้าย ประกอบกับในช่วงปี 2540-2541 ประเทศไทยเกิดวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนักส่งผลให้งบประมาณด้านการประชาสัมพันธ์ สินค้านานาชนิดถูกหั่นถูกตัดจนไม่สามารถจ้างนางแบบค่าตัวสูงลิ่วมาสร้างความ สยิวบนแผ่นปฏิทินได้ ทำให้ปฏิทินนู้ดหายไปจากตลาดอยู่หลายปี และถือว่าช่วงเวลาดังกล่าวเป็นยุคซบเซาของปฏิทินนู้ดก็ว่าได้ และแม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาปฏิทินนู้ดจะกลับมาให้เห็นอีกครั้งแต่ก็ไม่หวือหวาฟู่ฟ่าเท่ากับสมัยก่อน
"ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจนี่ปฏิทินนู้ดหายไปถึง 80% จากก่อนหน้านี้พี่จะมีงานถ่ายปฏิทินนู้ดปีละประมาณ 6 ชิ้น มาปี 2541 พี่เหลืองานแค่เจ้าเดียว แต่ปี 2542 นี่ไม่มีเลย" อัญมณี สีชาด เล่าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น
หลังจากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจได้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ในแวด วงน้ำเมา คือ นอกจากเจ้าของสินค้าที่มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าผู้ชายหลายต่อหลายเจ้าจะใช้ ปฏิทินนู้ดเป็นของสมนาคุณแก่ลูกค้าแล้ว ผู้ผลิตและผู้นำเข้าสุราต่างประเทศยี่ห้อใหม่ๆยังใช้ปฏิทินนู้ดเป็นตัวสร้าง กระแสเพื่อโปรโมตสินค้าให้เป็นที่รู้จักในตลาดอีกด้วย โดยเจ้าของสินค้าเหล่านี้ยอมลงทุนจ้างนางแบบชื่อดังด้วยค่าตัวไม่ต่ำกว่า 6 หลัก เพื่อแลกกับการเปลื้องผ้าถ่ายปฏิทินยั่วน้ำลายเสือหิวทั้งหลาย
เริ่ม จากปี 2543 ที่ 'บลู อีเกิ้ล' ดึง 'แชมเปญ เอ็กซ์' นางแบบลูกครึ่งผิวสีแทนมาถ่ายปฏิทินติดปีกขนนกสีเริ่มจากขาวซึ่งเป็น สัญลักษณ์ของพญาอินทรีอันเป็นโลโก้ของสุรายี่ห้อนี้ ทำให้ปฏิทินนู้ดกลับมาคึกคักอีกครั้ง ขณะเดียวกัน'บลู อีเกิ้ล'ก็กลายเป็นที่รู้จักของบรรดานักดื่มอย่างรวดเร็ว และในปีนี้ 2 นางแบบฮอต 'ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม' และ 'เฮเลน ปทุมรัตน์ วรมาลี' ก็ถ่ายปฏิทินชุด 'เกิร์ลเฟรนด์ 2000' ออกมาเขย่าวงการเช่นกัน
จากนั้นในปี 2544 พญาอินทรีทำตลาดซ้ำอีกครั้งโดยให้ 'วิชุดา พินดัม' ดาราละครชื่อดังมาเป็นนางแบบปฏิทิน ด้วยค่าตัวกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับเกินความคาดหมายจนสินค้าผลิตไม่ทันกับความต้องการ ของตลาด และปี 2545 'บุ๋ม...ตรีรัก รักการดี' เป็นนางแบบปฏิทินคนสุดท้ายของสุราค่ายนี้ เนื่องจาก'บลู อีเกิ้ล' มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริหารและกลยุทธ์การตลาดใหม่
แต่ปีเดียวกันนี้ (2545) 'โนเบิล สก็อต' วิสกี้ราคาถูกในกลุ่มเซกันดารี่ ได้เริ่มนำกลยุทธ์แจกปฏิทินหวือหวาเพื่อกระตุ้นตลาดเหล้าที่มีอายุการหมัก บ่ม 3 ปีมาใช้ โดยกล่อม 'มิเชล วอร์กอร์ด' นักร้องและวีเจลูกครึ่งสาวสวยมาเปลื้องผ้าเรียกเสียงฮือฮาจากบรรดาคอทองแดง ด้วยตัวเลขไม่มากมาย แค่ 1.5 ล้านบาท ตามด้วย 'หญิงจุฬาลักษณ์ กฤติยารัตน์' ที่เข้ามาโชว์สัดส่วนบนปฏิทินให้กับเหล้านอก 'คราวน์ 99' ในปี 2546 โดยฟันค่าตัวไปเกือบ 4 ล้าน และผลจากการออกปฏิทินก็ทำให้ผู้ผลิตสุราทั้ง 2 ค่ายมียอดขายทะลุเกินเป้า
ปี 2547 นับว่าเป็นปีที่กระแสปฏิทินนู้ดคึกคักอย่างมาก เพราะนอกจาก 'โนเบิล สก็อต' ที่เคยผิดหวังจากการดึงโอเด็ตมาอวดหวือในปี 2546 เพราะเธอกำลังจะมีงานเพลงกับค่ายแกรมมี่ จึงทุ่มงบในปี 2547 ถึง 9 ล้านบาท เพื่อดึงนางแบบชื่อดัง 'ซินดี้- สิรินยา เบอร์บริดจ์' ที่มีดีกรีเคยสวมมงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2539 มาเป็นนางแบบปฏิทินปี 2004 ในคอนเซ็ปต์สไตล์โรมัน ที่เน้น'อีโรติก อาร์ต' ด้านถุงยางอนามัย 'Durex' ก็ได้ 'เปียโน จงรัก' อดีตสามบอมบ์จูเนียร์ มาเป็นนางแบบปฏิทินที่ทำแจกหนุ่มๆนักรักทั้งหลาย
แต่ที่มีการพูดถึงกันมากที่สุดในปี 2547 เห็นจะเป็นปฏิทินของ 'สีเดลต้า' ที่เปลี่ยนคอนเซ็ปต์จากการทำปฏิทินแนวอนุรักษ์มาทำปฏิทินนู้ด โดยดึง "อุ้ง อัญมณี สีชาด" ตากล้องนู้ดชื่อดังมาลั่นชัตเตอร์อีกครั้ง และงานนี้เป็นกลับมาถ่ายปฏิทินนู้ดอีกครั้งของ 'แอน มรกต มณีฉาย' ซึ่งแม้ว่าเธอจะผ่าตัดทำหน้าอกให้เล็กลงแล้วก็ยังไม่คลายความเซ็กซี่ นอกจากนั้นปฏิทินชุดนี้ยังมี 'กีต้าร์ ชุลีพร อาจปรุ' สาวน้อยเจ้าของตำแหน่งรองสาวเปรียวปี 1998 และ 'ดาวใจ ถนอมเมือง' นางแบบโฆษณาที่เวลานี้โกอินเตอร์เพราะผลงานเข้าตาโมเดลลิ่งทั้งจากอิตาลีและ ฝรั่งเศส
ยุคเจ้าแม่คลับเอฟ
สำหรับปฏิทินปี 2548 และ 2549 ต้องจัดว่าเป็นปีของเจ้าแม่คลับเอฟ 'ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม' เพราะในปี 2547 ลูกเกดได้รับความไว้วางใจจาก 'เบียร์ลีโอ' ให้ดูแลการจัดทำปฏิทินชุด 'ลีโอ บอดี้เพนต์ 2005' โดยนำ 3 นางแบบสาวสุดเซ็กซี่ โบ-เบญจศิริ วัฒนา ที่โด่งดังจากบท 'น้องหนิม' ในโฆษณาก๊อกน้ำยี่ห้อหนึ่ง , ลูกหมี-รัศมี ทองสิริไพศรี และ ลีน่า คริสเตนเซ่น มาเปลื้องผ้าทำบอดี้เพนต์
และล่าสุด 'เบียร์ลีโอ' ได้จัดทำปฏิทินปี 2549 โดยให้ลูกเกดเป็นผู้ดูแลอีกครั้ง และปีนี้ลูกเกดเลือก 3 นางแบบสาวสุดฮอตอย่าง โอเด็ต เฮนเรียต แจ็คโคมิน , แองจี้-อัจฉรา หรือแอนเจล่า แมคคาย อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005 และดาว-ภารตี อำภรรัตน์ นางแบบหน้าใหม่ไฟแรงแห่งค่ายคลับเอฟ มาเป็นนางแบบนุ่งน้อยห่มน้อยในชุดลายเสือ
จากปรากฏการณ์ดังกล่าวคงพอจะยืนยันคำพูดที่ว่า "ปฏิทินนู้ดไม่มีวันตาย" ได้เป็นอย่างดี เพราะเชื่อว่าตราบใดที่ผู้ชายยังหลงใหลส่วนเว้าส่วนโค้ง การทำตลาดโดยใช้ปฏิทินหวามสร้างความน่าสนใจให้สินค้าก็ยังคงอยู่ต่อไป ตราบนานเท่านาน...
หากจะพูดถึงภาพนู้ดทั้งหลายคงละเลยที่จะไถ่ถามถึงมุมมองของผู้ได้รับฉายาว่า 'เกจินู้ด'อย่าง 'นิวัติ กองเพียร' เสียมิได้ นิวัติพูดถึงปรากฏการณ์นู้ดข้างฝาไว้อย่างน่าฟังว่า
"ถ้าจะวิวัฒนาการของปฏิทินนู้ดจากอดีตถึงปัจจุบันก็คงไม่มีอะไรแตกต่างกัน มากนัก คือในประเทศไทยไม่มีใครทำปฏิทินนู้ดเพื่อศิลปะ เพราะต้องยอมรับว่าการผลิตปฏิทินนู้ดนั้นทำเพื่อเป้าหมายทางการตลาด เจ้าของสินค้าแจกปฏิทินเพื่อให้แบรนด์ของตัวเองเป็นที่รู้จัก ขณะที่ผู้รับซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายก็ชอบภาพที่มีลักษณะวับๆแวมๆ โดยไม่ได้สนใจว่าจะมีศิลปะหรือเปล่า สำหรับผู้ชายแล้วยิ่งเปิดมากเท่าไรยิ่งดี"
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่กระแสที่เกิดนั้นเกิดจากสื่อมากกว่า จริงๆสื่อเองก็ชอบดู ก็ไม่เข้าใจว่าแล้วไปถามเรื่องศีลธรรมเขาทำไม ถามเรื่องจริยธรรมทำไม ไปด่าคนที่เป็นนางแบบทำไม คนก็ประณามเขาอีก เสนอข่าวไปเฉยๆได้ไหม ว่าเขาไปถ่ายปฏิทิน แล้วผู้ผลิตปฏิทินเขาก็ทำเพื่อแจกลูกค้าเท่านั้น ไม่ได้ไปเผยแพร่หรือวางขายเลย ดังนั้นจะไปว่าเป็นสื่อลามกอนาจารก็ไม่น่าจะถูกต้อง"
****
สายตานักสะสม
ต้อง ยอมรับว่าปฏิทินนู้ดเป็นสิ่งหนึ่งที่บรรดาชายหนุ่มนิยมสะสมกันมาก แม้ว่าหลายคนจะไม่อยากเปิดเผยเพราะเกรงจะถูกมองในแง่ลบมากกว่าจะมองว่าเป็น เรื่องปกติของผู้ชาย ไม่ได้ตั้งใจทะลึ่งอะไรนะแค่เห็นว่าน่าสนใจดีเลยเอามาให้ดู
ขอบคุณที่ทำให้รู้ที่มาและความกระจ่างของลามก กัยศิลปะ ในการทำวิทยานิพนธ์
ตอบลบ