วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

"เซ็กซ์โฟน ถูไถ สูดดม อึ๊บศพ..." ความสุข(ไอ้)โรคจิตกับวิธีแก้เผ็ดทางเพศ


นกรู้ดอทคอม

อือ...อา... ซี๊ด...อุ๊ย...เป็นเสียงกระเซ้า ซึ่งนางแบบสาวเซ็กซี่ ตกเป็นเหยื่อรายล่าสุดที่ขึ้นหน้า 1 นสพ.หลังจากที่โดนคุมคามอย่างหนัก และหนุ่มๆ สาวๆ ผู้ผ่านประสบการณ์โดนโทรศัพท์โรคจิตคุกคามจดจำกันได้ดี...

มองผ่านเสียง "ไอ้โรคจิต" ปริศนา ซี๊ด...ซ๊าด...เป็นอีกหนึ่งภัยที่สร้างความหวาดระแวงภายในจิตใจของผู้เป็นตก เหยื่อมาแล้ว หลายรายเพิ่มดีกรีต้องเผชิญหน้ากับภัยมืดหนัก ขนาด ถูกตามคุกคาม สะกดรอยตาม หรือ ขู่ฆ่า กระทั่งโดนขโมยกางเกงชั้นใน-ชุดชั้นในไปสูดดมอยู่ซ้ำๆ เป็นแรมปี แต่ไม่สามารถปริปากบอกเล่ากับใครได้เนื่องจาก "กลัว" และ "อับอาย" อีกทั้งบางคนยังมองว่าเป็นเรื่อง "เล็กน้อย"

คำถามใหญ่ของบรรดาผู้ที่ตก หรือ เคยตก หรือกำลังจะตกเป็นเหยื่อโรคจิต จะมีวิธีไหน สังเกตคนกลุ่มนี้ได้ แล้วจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหล่าโรคจิตที่แฝงตัวใน สังคมมากมาย แม้กระทั่งในมุมเยียวยาอาการจิต...จิตเหล่านี้ได้

สุดท้ายกับทางแก้ไขว่า มีวิธีไหน อย่างไรบ้างที่ทำให้ "เหยื่อ" กับ "ภัยมืด" อยู่ด้วยกันในสังคมได้อย่างวิน...วิน…!?!



8 ประเภทวิปริต กับ อาชีพดึงดูด (ไอ้) โรคจิตสุดๆ

พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผอ.ศูนย์สุขภาพจิตที่ 13 กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข บอกกับ "ไทยรัฐออนไลน์" ว่า ภาษาแพทย์แบ่งอาการวิปริตได้ 8 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่


1. กลุ่มที่ชอบเซ็กซ์โฟน

2. กลุ่มที่ชอบละเมิดเด็ก

3. กลุ่มที่ชอบถ้ำมองแล้วมีความสุขทางเพศ

4. กลุ่มที่ชอบแสดงอวัยวะเพศของตัวเอง

5. กลุ่มที่ชอบถูไถแล้วมีความสุข

6. กลุ่มที่วิปริตด้วยการเอาเสื้อผ้าเพศตรงข้ามมาใส่แล้วก็มีความสุขทางเพศ

7. กลุ่มที่ชอบดมของใช้ส่วนตัว

8. กลุ่มที่ชอบทรมานตัวเอง และคนอื่นแล้วมีความสุข


"แต่ถามว่ากลุ่มไหนมีมากกว่ากัน ตอบยากเพราะไม่มีการเก็บข้อมูล ซึ่งหากกลุ่มวิปริตนี้ไม่ก่อคดีขึ้นก็จะไม่ถึงมือผู้รักษา แล้วก็จะไม่มีทางรู้ว่าเขาเป็นใคร แต่สิ่งที่คนในสังคมต้องตระหนักก็คือปัจจุบัน นอกจากกลุ่มที่มีอาการวิปริตเหล่านี้แฝงตัวปนอยู่ในสังคมไม่น้อยแล้ว หลายปีที่ผ่านมากลุ่มวิปริตเหล่านี้ กลับมีอัตราในการก่อความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชอบเซ็กซ์โฟน และอาชีพที่เจอภัยนี้มากที่สุด ได้แก่ โอเปอเรเตอร์ ดารา นางแบบ ผู้ประกาศข่าว นักศึกษา พนักงานออฟฟิศ พริตตี้ หมอ และพยาบาล โดยในยุคหนึ่งที่มีหมอประกวดนางงามบ่อยๆ ทั้งหมอ และพยาบาลก็จะได้รับความนิยมจากพวกเซ็กซ์โฟนแบบถล่มทลาย"


ตัวเลขของอาชีพที่โดนคุกคามมากที่สุดตรงกับข้อมูลที่ พยาบาลคอลเซ็นเตอร์ปรึกษาความเครียดจากโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งเปิดเผยกับ ไทยรัฐออนไลน์ว่า คืนหนึ่งๆ ได้รับสายหื่นจากหนุ่มๆ สัปดาห์ละหลายพันครั้ง

"บางสายโทร.มาขอเปลี่ยนจากคำปรึกษามาเป็นการขอมีเพศสัมพันธ์กันดื้อๆ บางรายก็ถามว่าเราใส่ชุดชั้นในสีอะไร พูดว่าอยากดมๆ ซ้ำๆ โดยส่วนใหญ่อายุจะอยู่ในวัย 30 ขึ้นไปแทบทั้งนั้น" พยาบาลสาวยอมรับ




1 ใน 8 อาการวิปริตที่น่ากลัวมากที่สุด

ผอ.ศูนย์สุขภาพจิตที่ 13 กล่าวถึงสาเหตุหลักอันเนื่องมาจากอาการวิปริตเหล่านี้ว่า ถ้าเป็นกลุ่มที่ชอบเซ็กซ์โฟน วิเคราะห์ว่ากลุ่มนี้จะไม่กล้าแสดงออก มีความอายจึงมาปลดปล่อยทางโทรศัพท์ หรืออย่างกลุ่มที่ชอบร่วมเพศกับสัตว์และศพ ส่วนใหญ่ปมปัญหามันคือการมีปัญหากับการร่วมเพศกับคนและไม่สามารถจะถึงจุดสุด ยอดในแบบธรรมดา ประเด็นเรื่องเชาว์ปัญญาก็มีผลมากสำหรับประเภทนี้

"กลุ่มชอบโชว์ของลับปัญหาหลักน่าจะมาจากการขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง ส่วนใหญ่เป็นพวกที่ขาดการยอมรับทางสังคม ส่วนพวกที่ชอบดมของใช้ส่วนตัวของคนอื่น โดยมากปัญหามาจากความผูกพันกับผู้ให้กำเนิดเขาเอง ส่วนปัญหาของกลุ่มที่ชอบถ้ำมอง กลุ่มนี้จะมองเรื่องเพศเป็นเรื่องผิดบาป น่ารังเกียจ หรือตอนเด็กๆ เวลาพูดเรื่องเพศก็จะถูกแม่ตี คนกลุ่มนี้ภายนอกจะดูเป็นคนดีมากๆ แต่ข้างในน่ากลัว"

ส่วนกลุ่มที่ชอบความรุนแรงแล้วจะถึงจะสุดยอดนั้น จิตแพทย์ผู้นี้ระบุว่า กลุ่มนี้จะน่ากลัวที่สุด

เพราะเนื่องจากเป็นอันตรายต่อชีวิตตัวเอง

"อย่างกรณีที่เกิดขึ้นก็คือดาราฮอลลีวูดมาตายในเมืองไทย ซึ่งคาดว่ามาจากการสำเร็จความใคร่นั้น ขณะเดียวกันก็ทำให้ตัวเองขาดอากาศหายใจจนถึงจุดสุดยอด ปัญหาหลักคือส่วนใหญ่สาเหตุจะมาอาจจะเกิดจากการเลี้ยงดูและชีวิตในวัยเด็ก ภายในจิตใต้สำนึกที่อาจจะเคยสร้างความเจ็บปวดหรือทำร้ายคนอื่น บางครั้งอาจจะไปเชื่อมโยงความสุขทางเพศเมื่อวัยเด็กก็ได้"



วิธีสังเกตพฤติกรรมของพวกโรควิปริต พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ยอมรับว่า คนทั่วไปแทบจะไม่สามารถสังเกตได้ เพราะหลายคนภายนอกดูดี แต่ภายในเป็นวิปริตก็มีให้เห็นตามหน้าสื่ออย่างมากมาย

"เราเรียกอาการนี้ว่าพฤติกรรมเสพติดอย่างหนึ่ง เรียกได้ว่าทุกครั้งที่อยู่ในสภาวะแบบนั้นจะมีความสุขมากๆ จึงเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ลำบาก ดังนั้นแนะนำคนไข้และผู้ใกล้ชิดว่า ถ้าคุณรู้ตัวให้เดินเข้าไปหาแพทย์และเข้าสู่ขั้นตอนวิเคราะห์ปม เชื่อมโยงความสัมพันธ์ว่าชอบแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งระหว่างวิเคราะห์ก็จะทำการรักษาควบคู่ไปด้วย แต่หากพบว่าเป็นอาการวิปริตมีอัตราเสี่ยงต่อชีวิต เสี่ยงต่อกฎหมาย ก็ต้องแก้ไขโดยด่วน เช่น ถ้าพบว่าเขาชอบขโมยชั้นในคนอื่นมาดม เราก็ให้เขาดมอยู่ที่บ้านไม่ไปขโมยคนอื่น ส่วนมากการบำบัดจะใช้เวลาหลายปี อย่างไรก็ดี การรักษามันก็แค่ทำให้อาการดีขึ้นเท่านั้น ไม่สามารถหายขาดได้ ซึ่งถ้าองค์ประกอบครบเมื่อไหร่มันก็พร้อมจะกำเริบได้อีก"




วิธีย้อนเกร็ด แก้เผ็ด (ไอ้) โรคจิต

ผอ.ศูนย์สุขภาพจิตที่ 13 ยังได้แนะนำวิธีแก้เผ็ดหากเผชิญหน้ากับพวกโรคจิต เหล่านี้ด้วยว่า ถ้าเป็นพวกโรคจิตแบบชอบโทร.มาของมีเซ็กซ์โฟน วิธีแก้เผ็ดที่ง่ายที่สุดก็คือการวางสาย หรือว่าเอาผู้ชายหรือที่ปากจัดๆ เสียงแปร๋นๆ มาสกรีนความปลอดภัย อย่างเสียงที่แปร๋นๆ จะทำให้พวกเขาจะหมดอารมณ์ ส่วนประเภทถูกรบกวนจากคำพูดคุกคาม หรือว่ามีการบรรยายหรือส่งข้อความสั้น (SMS) ถึงลักษณะพฤติกรรมของเหยื่ออย่างถูกต้องบอกว่าเห็นเหยื่อกำลังอาบน้ำในห้อง น้ำ สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือตั้งสติให้ดีๆ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

"ถ้าเป็นกลุ่มที่ชอบร่วมเพศกับสัตว์ และกับศพแนะนำว่าให้พบแพทย์เพื่อคลี่ปมด่วน ส่วนวิธีแก้เผ็ดกลุ่มที่ชอบโชว์ของลับ ให้หัวเราะเยาะใส่เขาไปเลย ที่สำคัญอย่าไปตกใจเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าไปโดนใจคนโชว์ ส่วนพวกดมกางเกงชั้นใน ส่วนใหญ่ปัญหารากเง้าของเขาอาจจะผูกพันกับผู้ให้กำเนิดของเขาเอง วิธีเผ็ดก็ไม่มีอะไร เราก็จะแนะนำแบบง่ายๆ ก็คือซื้อมาดมเอง จะได้ไม่ต้องคุกคามคนอื่น ส่วนพวกที่ชอบความรุนแรงแล้วถึงจะถึงสุดยอด วิธีแก้เผ็ด อย่าเข้าใกล้ ต้องปรับพฤติกรรมไม่ให้มีเซ็กส์ถึงกับเสียเลือดเสียเนื้อ แต่จะหักดิบเขาไม่ได้ หลังจากนั้นก็เข้าขั้นตอนเพื่อให้แพทย์เริ่มแกะปมต่อไปและกลุ่มที่ชอบถ้ำมอง คือถ้าเราเป็นเหยื่อก็ต้องแต่งตัวให้มิดชิด วิธีแก้ไขความรู้สึกให้เขาได้ยอมรับว่าเรื่องเพศสัมพันธ์เหมือนคนปกติ"



(ไอ้) โรคจิตไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

สุดท้าย พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ย้ำว่า ทั้งหมดทั้งมวลสิ่งที่อยากให้ทุกๆ คนตระหนักก็คือ กลุ่มคนเหล่านี้ไม่น่ากลัว และน่าสงสารมากกว่า ซึ่งจริงๆ เขาก็ต้องการจะมีชีวิตทางเพศที่ปกติ แต่ด้วยว่าความเจ็บป่วยที่มารบกวนชีวิตเขาทำให้เขาไม่สามารถอยู่ได้แบบปกติ แล้วก็ไม่ถูกยอมรับ

หมออยากจะบอกว่ากลุ่มคนพวกนี้ หากใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ จะทำให้เขาเป็นทุกข์และมีความเสี่ยง สิ่งที่ดีที่สุดคือเข้าสู่กระบวนการรักษาและเข้าใจตนเอง จะทำให้มีความสุขและคุณภาพชีวิตดีมากขึ้นแน่นอน...

ที่มา : ไทยรัฐ


คลิปโรคจิต "แอบจับนม" บนรถไฟญี่ปุ่น










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ