ตร.เตือนภัย 10 แก๊งอาชญากรรม อาละวาดรับปีใหม่
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.อุดม สุวรรณเวชทิพย์ รอง ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.เมธี รักษ์พันธุ์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 457/190 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพ ฯ ของนายสว่าง จู่พิชญ์ อายุ 82 ปี และนางสุณี จู่พิชญ์ อายุ 78 ปี คู่สามี-ภรรยา
ซึ่งถูกคนร้ายลักทรัพย์เงินสดกว่า 1,000,000 บาท จากลิ้นชักในห้องนอน ซึ่งคนร้ายใช้วิธีการหลอกเหยื่อว่าเป็นช่างไฟฟ้าที่บุตรชายให้มาตรวจสอบระบบ ไฟฟ้าในบ้าน แล้วออกอุบายให้เจ้าของบ้านไปคอยปิดเปิดสวิทซ์ไฟ จากนั้น รื้อค้นเอาทรัพย์สินในบ้านไป ต่อมาจับกุมคนร้ายได้ขยายผลพบว่าก่อคดีลักษณะนี้หลายครั้ง
“จาการตรวจสอบฐานข้อมูลแผนประทุษกรรมคนร้าย ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่านอกจากคนร้ายจะอาศัยช่วงเวลาที่ไม่มีคนอยู่บ้าน หรือมีเพียงเด็ก หรือคนชราอยู่เพียงลำพังแล้ว ในช่วงเทศกาลวันหยุดโดยเฉพาะเทศกาลวันขึ้นปีใหม่
คนร้ายแก๊งต่างๆ ก็มักจะอาศัยช่วงโอกาสนี้ ออกอุบายหลอกลวงเหยื่อ เพื่อประทุษร้ายต่อทรัพย์ด้วยวิธีการต่างกัน โดยมีอยู่ 10 รูปแบบ ซึ่งประชาชนมักจะตกเป็นเหยื่อบ่อยครั้ง” โฆษกตร.กล่าว โฆษกตร.เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวประกอบด้วย
1.แก๊งส่งของขวัญปีใหม่ – คนร้ายจะออกสำรวจตามบ้านที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ มีเพียงคนรับใช้ที่เป็นเด็ก ผู้หญิง หรือผู้สูงอายุ อยู่ในบ้านโดยคนร้ายจะแอบอ้างว่ามีคนให้นำของขวัญมาส่งให้
ที่บ้าน ไม่ ว่าจะเป็นกระเช้า ดอกไม้ ของกิน และบางครั้งก็ใช้กล่องกระดาษขนาดใหญ่ ห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญสวยงาม คล้ายมีน้ำหนักมาก ต้องขอให้คนในบ้านช่วยเปิดประตูให้ เพื่อจะได้ยกเข้าไปในบ้าน เมื่อคนในบ้านเผลอ คนร้ายก็จะทำการรื้อค้นของมีค่าแล้วหลบหนีไป หรือบางกรณีคนร้ายจะทำการปล้นทรัพย์ หรือชิงทรัพย์ ด้วย
2.แก๊งสารพัดช่าง - คนร้ายจะแอบอ้างกับผู้ดูแลบ้านที่เป็นคนรับใช้ เด็ก ผู้หญิง หรือผู้สูงอายุว่า เจ้าของบ้านให้มาซ่อมแอร์ ท่อประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ หรือโทรทัศน์ โดยใช้คำพูดที่ทำให้คนในบ้านเชื่อถือและยอมให้เข้ามาในบ้าน จากนั้นคนร้ายจะทำทีไปซ่อมสิ่งต่างๆ ตามที่ได้แอบอ้าง และหลอกให้คนในบ้านไปดูแผงควบคุมไฟฟ้า หรือวาล์วเปิด-ปิดน้ำ จากนั้นคนร้ายจะทำการรื้อค้นของมีค่าแล้วหลบหนีไป หรือบางกรณีก็จะทำการปล้นทรัพย์ หรือชิงทรัพย์เช่นเดียวกัน
3.แก๊งขายสินค้าราคาถูก - คนร้ายจะขับรถตระเวนขายสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งของใช้ประจำวัน และเครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ไปตามหมู่บ้าน โดยโฆษณาชวนเชื่อว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงมาบริการจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพจากโรงงาน ที่มีการเลหลังล้างสต็อก ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สินค้าที่นำ มาจำหน่ายนั้น เป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ หรือหมดอายุ หากเป็นสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า เมื่อนำไปใช้แล้ว ก็อาจจะเกิดอันตราย หรือทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรจนเกิดเพลิงไหม้ได้
4.แก๊งจัดงานเลี้ยง – คนร้ายมีพฤติกรรมการกระทำความผิด 2 รูปแบบ คือ
1) คนร้ายแอบอ้างกับเจ้าของร้านค้าว่าจะจัดงานเลี้ยงโดยติดต่อให้ส่งของต่างๆ ไปไว้ตามสถานที่จัดงาน พร้อมกับอ้างว่าจะนำเงินไปจ่ายให้ภายหลัง หรือให้เงินมัดจำไว้ส่วนหนึ่ง เมื่อทางร้านค้าส่งของไปยังที่นัดหมายแล้ว คนร้ายจะแอบขนของหลบหนีไป และ
2) คนร้ายแอบอ้างกับผู้ที่ต้องการจะจัดงานเลี้ยงว่ารู้จักกับเจ้าของร้านขาย อาหารและสามารถสั่งได้ในราคาถูก ทำให้ผู้ที่จะจัดงานเลี้ยง หลงเชื่อยอมจ่ายเงินค่า อาหารบางส่วนให้กับคนร้าย แต่เมื่อถึงวันจัดเลี้ยง ปรากฏว่าไม่มีการส่งอาหารมาให้แต่อย่างใด
5.แก๊งเรี่ยไรทำบุญ - คนร้ายจะออกตระเวนเดินเรี่ยไร บางกลุ่มปลอมตัวเป็นพระภิกษุสามเณร ออกรับบริจาคเงิน หรือสิ่งของ เพื่อนำไปทำบุญตามวัดต่าง ๆ ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ หรือแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ ฯ ออกเรี่ยไรตามบ้าน ตลาด หรือชุมชน ให้ร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ หรือทหารและตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ บางทีก็มีการนำรูปภาพ หรือรูปปั้น ซึ่งอ้างว่าผ่านการปลุกเสกแล้วมาให้เช่าด้วย
6.แก๊งชุบหรือล้างทองรูปพรรณ – คนร้ายจะขับรถไปตามหมู่บ้านหรือสถานที่สาธารณต่าง ๆ เพื่อรับชุบหรือล้างทองรูปพรรณ ให้สะอาดและดูใหม่ เพื่อจะได้นำไปใช้เป็นเครื่องประดับในช่วงปีใหม่ โดยคนร้ายจะอาศัยช่วงที่เจ้าของทองเผลอเอาทองปลอมที่เตรียมไว้ขึ้นมาเปลี่ยน โดยเจ้าของทองไม่ได้สังเกตหรือเอะใจ กว่าจะรู้ตัวคนร้ายก็หลบหนีไปไกลแล้ว
7.แก๊งล้วงและกรีดกระเป๋า – คนร้ายกระทำกันเป็นขบวนการ โดยเฉพาะในสถานีขนส่ง หรือบริเวณย่านการค้าที่มีผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยหัวหน้าทีมจะเป็นคนคอยเล็งดูเหยื่อว่าคนไหนที่ดูทีท่าว่าน่าจะมีเงิน ก็จะส่งสัญญาณให้เพื่อนร่วมทีมเดินเข้าประกบเหยื่อ โดยหัวหน้าทีมจะเดินเข้าหาเหยื่อแล้วใช้กระดาษที่เตรียมมายกขึ้นบัง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งจะทำการกรีดกระเป๋าหรือล้วงเข้าไปหยิบทรัพย์สินใน กระเป๋า โดยที่เหยื่อไม่รู้ตัว
8.แก๊งมอมยา – คนร้ายจะผสมยานอนหลับลงในน้ำดื่ม กาแฟกระป๋อง หรืออาหาร จากนั้นจะทำทีเข้าไปตีสนิทชิดเชื้อกับผู้โดยสารที่อยู่ระหว่างรอรถ หรือผู้โดยสารที่อยู่บนรถ โดยใช้จิตวิทยาในการพูดคุย และตีสนิทด้วยภาษาท้องถิ่น เสมือนเป็นคนบ้านเดียวกัน หลังจากนั้นแสดงความมีน้ำใจ โดยชักชวนให้ดื่มน้ำ หรือกาแฟที่เตรียมไว้ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและดื่มเข้าไป ก็จะสะลึมสะลือหรือนอนหลับไป จากนั้นคนร้ายจะทำการหยิบทรัพย์สินที่มีค่า แล้วหลบหนีหรือลงจากรถในสถานีถัดไป
9.แก๊งชวนเล่นการพนัน – คนร้ายจะชักชวนกลุ่มผู้โดยสารระหว่างรอรถ หรือในระหว่างร่วมเดินทางไปกับผู้โดยสารบนรถไฟ หรือรถโดยสาร หรือในระหว่างที่หยุดพักระหว่างทาง โดยเป็นกลุ่มผู้โดยสารที่ได้ตีสนิทไว้แล้ว ให้มาร่วมเล่นการพนัน ในรูปแบบต่างๆ เช่น กำถั่ว ตลับยาหม่อง หรือ ไพ่สามใบ โดยมีหน้าม้าทำทีว่าทายถูกอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและทายบ้าง กลับเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก
10.แก๊งใช้ธนบัตรปลอม และบัตรเครดิตปลอม – คนร้ายนำธนบัตรปลอมในราคาต่าง ๆ มาจับจ่ายใช้สอยตามตลาด แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่มีประชาชนมาจับจ่ายใช้สอย และเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้ผู้ขายสินค้า หรือให้บริการไม่มีเวลา หรือไม่ทันสังเกตว่าเป็นธนบัตรปลอมหรือไม่ ในขณะที่คนร้ายอีกส่วนหนึ่ง ก็จะนำบัตรเครดิตปลอมออกมาใช้จ่ายในการซื้อสินค้า หรือนำไปชำระค่าอาหารที่มีการจัดเลี้ยงในช่วงปีใหม่กันเป็นจำนวนมาก
โฆษก ตร. กล่าวว่า พี่น้องประชาชน และบริษัท ห้างร้านที่จะจัดงานเลี้ยงต่าง ๆ หรือผู้ที่จะเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ ได้โปรดใช้ความระมัดระวังโดยต้องไม่หลงเชื่อหรือไว้วางใจคนแปลกหน้า หรือผู้ที่เข้ามาตีสนิท หรือเป็นไปตามลักษณะกลุ่มคนร้ายที่ปรากฏอยู่ในแผนประทุษกรรมของแก๊งมิชาชีพ ที่ปรากฏอยู่ 10 รูปแบบข้างต้น ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้เฝ้าระวังและสืบสวนดำเนินการปราบปราม จับกุมอย่างต่อเนื่องต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
อารายเหรอ