วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อาหารสดใหม่แค่ไหน บอกได้ด้วย “สติ๊กเกอร์อัจฉริยะจากแป้งข้าวเจ้า”


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
โฉมหน้าทีมวิจัยจาก มก.

หลักในการเลือก ซื้ออาหารการกินอย่างหนึ่ง คือ การดูฉลากวันหมดอายุ แต่ในบางครั้ง หากมีตัวแปรอย่างอุณหภูมิ หรือ ข้อผิดพลาดในการกระบวนการผลิตและการขนส่ง ก็อาจทำให้ฉลากวันหมดอายุ ไม่ได้รับประกันความสดใหม่ได้ 100% แต่ล่าสุด นักวิจัยจาก มก. คิดค้นนวัตกรรมใหม่แก้ปัญหาเหล่านี้ได้แล้ว นั่นคือ “สติ๊กเกอร์ KU FreshZense”

ทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประกอบด้วย ผศ.ดร.ภานุวัฒน์ สรรพกุล นางสาวอัจฉรียา นพวิญญูวงศ์ ภาควิชาเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ และ ผศ.ดร.สุดสาย ตรีวานิช ภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พัฒนาฉลากบอกความสดใหม่ของอาหารที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า ไร้ สารพิษและบ่งชี้ความสดใหม่ของอาหารได้ดีกว่าวันหมดอายุ ซึ่งผลงานดังกล่าว ได้รับการยอมรับโดยสามารถคว้ารางวัล ที่ 2 จากการประกวดนวัตกรรมข้าวไทย ประจำปี 2552 จัดโดย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) ร่วมกับ มูลนิธิข้าวไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และได้รับรางวัลรองชนะเลิศจากการประกวดนวัตกรรมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี 2552 มาแล้ว

สีแสดงการเปลี่ยนระดับก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์ของทองหยอด

“เคยู เฟรชเซ็นซ์” (KU FreshZense) เป็นชื่อของนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์บอกความสดใหม่ของอาหาร ซึ่งพัฒนามาจากแป้งข้าวเจ้า โดย ผศ.ดร.ภานุวัฒน์ สรรพกุล หัวหน้าโครงการวิจัยกล่าวว่า “บรรจุ ภัณฑ์ชนิดนี้สามารถบอกถึงความสดใหม่ของอาหารในบรรจุภัณฑ์ได้ดีกว่าฉลากบอก วันหมดอายุทั่วไป ง่ายต่อความเข้าใจและการใช้งานสำหรับผู้บริโภค ทั้งยังให้ความแม่นยำ มีต้นทุนในการผลิตต่ำ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะทำจากแป้งข้าว จึงสามารถย่อยสลายได้ ที่สำคัญเป็นการเพิ่มความซื่อสัตย์ในตราสินค้า และส่งเสริมชื่อเสียงให้แก่ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอีกด้วย”

เคยูเฟรชเซ็นซ์ อาศัยหลักการวัดปริมาณของสารเมทาบอไลท์ เพื่อทำปฏิกิริยากับสีย้อมผสม ซึ่งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่บ่งบอกความเป็นกรด – ด่าง โดยนำมาผสมกับแป้งข้าวเจ้า หรือ ที่เรียกกันว่า “สตาร์ชข้าว” แล้วนำไปขึ้นรูปสี่เหลี่ยมคล้ายแผ่นฟิล์มบาง ๆ จากนั้นนำไปเคลือบบนสติ๊กเกอร์ มีแถบเทียบสี 4 ระดับ ซึ่งระดับเทียบสีจะบอกระยะเวลาของอาหาร 4 ประเภท ได้แก่ สดใหม่ – สด – เริ่มไม่สด และไม่ควรรับประทาน โดยจะทำการเคลือบด้วยฟิล์มแป้งข้าวเจ้าอีกหนึ่งชั้นเพื่อป้องกันไม่ให้สี ย้อมสัมผัสกับอาหารโดยตรง และเป็นชั้นดูดซับความชื้นจากผลิตภัณฑ์ซึ่งจะทำให้ผลการวัดผิดพลาดได้

สีเขียว = สดใหม่ , สีส้ม = เริ่มไม่สด

ทั้งนี้นักวิจัยได้ทำการทดลองติดสติ๊กเกอร์กับอาหารจำพวกคาร์โบ ไฮเดรต แผ่นฟิล์มจะสามารถวัดการเน่าเสียได้จากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่จุลินทรีย์ สร้างขึ้น โดยทดลองที่อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส พบว่าสามารถอยู่ได้นาน 25 – 30 วัน และทดลองที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ปรากฏว่าเก็บไว้นาน 6 วัน จึงเริ่มเข้าสู่กระบวนการเน่าเสีย โดยบรรจุภัณฑ์ติดสติ๊กเกอร์จากแป้งข้าวเจ้า สามารถบอกความแม่นยำได้เกือบ 100% เมื่อเทียบกับการทดสอบหาปริมาณเชื้อจุลินทรีย์และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ใน ห้องปฏิบัติการ

ภาคตัดขวางของฉลากอินดิเคเตอร์พร้อมสเกลสีอ้างอิง

“การผลิตสติ๊กเกอร์ฉลากบอก ความสดใหม่นี้ แม้จะมีต้นทุนการผลิตต่ำในเชิงพาณิชย์ แต่ก็สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวเจ้าได้ เพราะแป้งข้าวเจ้า 1 กิโลกรัม สามารถผลิตสติ๊กเกอร์ได้จำวนมาก ประมาณ 50,000 ชิ้น ในราคาประมาณชิ้นละ 50 สตางค์เท่านั้น ซึ่งใช้งานง่าย และยังสามารถนำไปใช้งานได้กับผลิตภัณฑ์อาหารทุกประเภท” ทีมผู้วิจัยกล่าว

การเปลี่ยนสีของฉลากอินดิเคเตอร์ต่อก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ปัจจุบันผู้บริโภคต้องการความปลอดภัยของอาหารและการรับประกัน คุณภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้น หากภาครัฐ หรือฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภคต้องการปกป้องผู้บริโภค โดยการบังคับใช้ฉลากบอกความสดใหม่ในอาหารประเภทต่าง ๆ เพื่อรองรับกฎระเบียบบรรจุภัณฑ์ในอนาคต ผู้บริโภคจะลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคทางเดินอาหารต่าง ๆ ลดการใช้ยาและการรักษา สำหรับภาคการผลิตอุตสาหกรรมอาหารประเภทต่าง ๆ หากใช้ฉลากบอกความสดใหม่ก็จะเพิ่มความมั่นใจให้กับการตัดสินใจเลือกใช้และ เลือกบริโภคสินค้า ซึ่งจะเป็นการการันตีคุณภาพสินค้าชนิดนั้นด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ