วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

เป็นผู้ใหญ่ในโลกแบบเด็กๆกันดีกว่า ดร.แพง ชินพงศ์

เป็นผู้ใหญ่ในโลกแบบเด็กๆกันดีกว่า ดร.แพง ชินพงศ์

แม้ ช่วงนี้บ้านเราจะเป็นช่วงฤดูฝน แต่อากาศกลับร้อนแบบหูดับตับไหม้ มิหนำซ้ำประเทศไทยยังประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งทำให้คนทุกเพศทุกวัยต่างก็เครียดกับการระวังรักษาสุขภาพทั้งของตัวเอง และของคนใกล้ตัว ยิ่งคนเป็นพ่อเป็นแม่ด้วยแล้วคงจะกังวลไม่น้อยกับการหาวิธีป้องกันและดูแล สุขภาพของลูก ๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก แต่สำหรับเด็ก ๆ เรื่องนี้อาจกลับกลายเป็นเรื่องที่น่าสนุก ผู้เขียนเห็นเด็ก ๆ หลายคนดีใจมากกับการเกิดโรคระบาดนี้ เพราะว่าโรงเรียนปิดทำให้พวกเขาไม่ต้องไปโรงเรียน แถมการสวมหน้ากากอนามัยก็เป็นเรื่องตลกที่นำมาล้อเล่นกันเป็นที่สนุกสนาน สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นเหล่านี้ทำให้ผู้เขียนได้เห็นแง่มุมที่น่าสนใจและได้ ข้อคิดบางอย่างว่า แม้ความทุกข์หรือปัญหาจะเข้ามาในชีวิตของเราอยู่เสมอ แต่ถ้าบางครั้งเราซึ่งเป็นผู้ใหญ่เลือกที่จะมองโลกอย่างเด็ก ๆ บ้างก็คงจะดีไม่น้อย เพราะเราจะได้เผชิญกับความทุกข์และปัญหานั้น ๆ ได้โดยไม่รู้สึกหดหู่หรือท้อแท้ใจ มาดูกันซิว่าคุณสมบัติใดของเด็กที่ควรจะมีอยู่ในตัวของผู้ใหญ่อย่างเราบ้าง เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบมีความสุขเหมือนอย่างเด็กๆ

1. ความเป็นตัวของตัวเอง

ธรรมชาติ ของเด็กมักสนุกกับการทดลองทำอะไรด้วยตัวเอง พวกเขากล้าที่จะคิด พูดและแสดงออกอย่างที่เขารู้สึกจริงๆ สำหรับเด็กๆแล้วไม่มีต่อหน้าหรือลับหลัง ซึ่งเราคงเคยได้ยินกันอยู่บ่อยๆว่าถ้ามีคำถามที่อยากได้คำตอบที่ซื่อ ๆ ตรง ๆ ก็ให้ไปถามเด็ก เพราะเด็ก ๆ ไม่มีมารยา ไม่มีความคิดปรุงแต่ง แต่สำหรับผู้ใหญ่แล้วมักไม่เป็นเช่นนั้น เราเคยชินกับการหลบหลีกการแสดงออกในความเป็นตัวของตัวเองและพยายามที่จะเป็น เหมือนคนอื่นทั้งความคิด การพูด การแสดงความรู้สึกและการกระทำ เพราะกลัวว่าหากแสดงความเป็นตัวตนออกมาจะเข้ากับผู้อื่นไม่ได้หรือจะกลาย เป็นคนแปลกแยก ซึ่งสิ่งนี้อาจทำให้เราเกิดความเครียด รู้สึกเก็บกดและขาดความสุขในการดำเนินชีวิตได้

ดัง นั้นผู้ใหญ่ควรมีความเป็นตัวของตัวเองเหมือนกับเด็ก ๆ บ้าง เพราะจะทำให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดโปร่ง มีความสุข ไม่กดดัน ไม่อึดอัด และช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตนเอง

2. มีจินตนาการ

วัย เด็กเป็นวัยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เราอาจเคยได้ยินเด็กๆพูดหรือถามว่า “คุณพ่อเห็นเมฆก้อนนั้นไหมครับ เหมือนไดโนเสาร์เลย?” หรือ “คุณแม่ขา หนูระบายสีดอกมะลิเป็นสีฟ้าได้ไหมคะ?” หรือบางครั้งเราอาจเห็นเด็กผู้ชายเล่นสมมุติว่าตนเองเป็นซุปเปอร์แมน เป็นนักบินอวกาศเหมือนที่เขาเห็นในทีวี ส่วนเด็กผู้หญิงก็อาจเล่นสมมุติเป็นเจ้าหญิงหรือเป็นนางฟ้า โลกของเด็กเป็นโลกที่เต็มไปด้วยความคิดที่เป็นอิสระไม่อยู่ในกรอบที่ถูก จำกัด เป็นโลกแห่งความสุขที่เขาเป็นผู้สร้างขึ้นมา

ผู้ใหญ่ อย่างเราก็มีโลกแห่งความสุขนี้ได้ อย่าคิดว่าจินตนาการเป็นสิ่งฝันเฟื่องสำหรับคนโตแล้ว ลองมองโลกแบบเด็ก ๆ บ้าง ให้เรามีพื้นที่เล็ก ๆ ในความคิดที่จะจินตนาการถึงสิ่งที่เราชอบหรือมีความสุข หรือลองคิดในสิ่งที่แตกต่างไปจากสิ่งที่จำเจอยู่ทุกวัน ก็จะเป็นการช่วยเติมสีสันให้กับชีวิตของเราได้และยังสามารถพัฒนาให้เราเป็น คนมีความคิดสร้างสรรค์ได้อีกด้วย

3. มีอารมณ์ร่าเริง แจ่มใส

เด็กๆ ชอบเล่นซนและรักความสนุกสนาน โลกของเด็กร่าเริง แจ่มใส ไม่มีความเครียด ไม่มีความวิตกกังวล เวลาที่เราเครียดหรือมีปัญหาหนักอกหนักใจจนทำให้สมองและจิตใจอ่อนล้าจนแทบทน ไม่ไหว ลองไปนั่งดูเด็ก ๆ วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน รับรองว่าจะช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายสบายใจสบายกายอย่างน่าประหลาดจริงๆ

ดัง นั้นหากผู้ใหญ่อย่างเราไม่อยากแก่เร็วเพราะมัวแต่อมทุกข์ ก็ต้องทำตัวสนุกสนานเหมือนเด็ก ๆ ยิ้ม หัวเราะบ่อย ๆ หากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด เช่นหาหนังตลกมาดู อ่านการ์ตูนขำขัน หรือทำกิจกรรมที่เราชื่นชอบ เช่น ฟังเพลง เล่นดนตรี เล่นกีฬา ทำอาหาร ทำงานศิลปะ เพราะกิจกรรมเหล่านี้ช่วยทำให้สมองเราปลอดโปร่ง ส่งผลให้เราเป็นคนที่มีอารมณ์ดี ร่าเริง แจ่มใส

4. ไม่โกรธ ไม่เกลียด

เวลา เราเห็นเด็กๆเล่นกัน พวกเขาอาจมีแย่งของเล่นกันบ้าง แกล้งดึงผมเปียกันบ้าง บางทีเล่นอะไรแพ้ก็ร้องไห้งอแงบ้าง งอนกันสักพักเดียว เดี๋ยวก็กลับมาเล่นสนุกหัวเราะให้กันได้เหมือนเดิม โลกของเด็ก ๆ ทั่วไปไม่มีความโกรธ ไม่มีความเกลียด มีแต่เราเล่นกันเราก็เป็นเพื่อนกัน สิ่งนี้เป็นสิ่งดี ๆ ตามธรรมชาติของเด็กซึ่งน่าเสียดายที่พอโตขึ้นธรรมชาตินี้จะค่อยๆหายไป เพราะ ในความเป็นผู้ใหญ่บางครั้งเรายึดติดกับคำว่าศักดิ์ศรีมากเกินไป อยากให้เรานึกถึงภาพเด็ก ๆ ชูนิ้วก้อยง้อกันเวลาที่เขางอนกัน สำหรับเด็ก ๆ แล้วถ้าไม่มีเธอฉันก็เล่นไม่สนุก ถ้าเรามีภาพแบบนี้ในผู้ใหญ่บ้าง ชีวิตเราคงมีความสุขกันทุกๆคนแน่นอน

ในโลกของ เด็กนั้นเป็นโลกที่น่ารัก สวยงามและมีแต่สิ่งที่น่าชื่นใจ หากผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ได้เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตแบบเด็ก ๆ ดูบ้าง พยายามเป็นตัวของตัวเอง ฝึกที่จะมีจินตนาการ ทำอารมณ์ให้ร่าเริงแจ่มใสและไม่โกรธไม่เกลียดกัน ผู้เขียนเชื่อว่าโลกนี้คงน่าอยู่มากกว่านี้จริงๆ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ