วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

คำสารภาพบาป... ของคนหลายใจ


คำสารภาพบาป... ของคนหลายใจ








.....เรื่องของฉันมันเกิดขึ้นด้วยเหตุบังเอิญหรืออย่าง ไรก็สุดจะเดาได้ หลายคนบอกว่าเป็นเพราะบุพเพสันนิวาส แต่ฉันว่ามันคือบุพเพอาละวาดมากกว่า


บ้านของฉันกับที่ทำงานของเขาอยู่ห่างกันไม่เกิน 800 เมตร 12 ปีที่ผ่านมา ตัวฉันไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาเลยสักครั้ง เขาไม่เคยรู้จักฉัน ไม่เคยเห็นฉัน ไม่เคยแม้แต่จะได้ยินชื่อฉัน ตรงกันข้าม..... ฉันรู้จักเขา เคยเห็นเขา แต่ไม่รู้จักชื่อเขา เส้นทางของเราไม่น่าที่จะมาบรรจบกันได้เลย มันเฉี่ยวไป เฉี่ยวมา แล้วก็ผ่านไป

แต่ไม่รู้ด้วยอะไรทำให้วงโคจรของเราที่มันเคยเป็นแค่เส้นเฉี่ยว ดันมาคาบเกี่ยวกันในเว็บบล็อคสาธารณะเว็บหนึ่ง

คำแรกที่เขาทักฉันก็คือ "คุณน่ารักจัง"

มันเป็นอะไรที่พื้น ๆ มาก ซึ่งไม่น่าจะมีเหตุผลอะไร ที่จะทำให้เราสามารถต่อยอดความสัมพันธ์อะไรไปได้อีกแต่มันก็มี ฉันทักทายเขาในฐานะคนผ่านไปผ่านมาทั่วไป แต่มันไม่ใช่แค่นั้น ต่างคน ต่างไม่รู้ว่าอีกคนคือใคร

คุยไปคุยมา.....

ดันเป็นคนบ้านเดียวกัน

คุยมาคุยไป.....

ดันอยู่หมู่บ้านเดียวกัน

และสุดท้ายก็.....

คุย คุย คุย คุย

พระเจ้าจอร์จ

เขาคนนั้นนั่นเอง

"ตานี่น่ะเอง นึกว่าใคร"

เชื่อแล้ว ว่าโลกมันกลมจริง ๆ

แล้วไงต่อ.....

ขอเบอร์สิคะ

แล้วไงต่อ.....

ให้ไปด้วยเพราะเหตุผลที่ว่า เขา อาจจะช่วยเหลือเรื่องหน้าที่การงานของเราได้แค่นั้นจริง ๆ ผ่านไปไม่ถึงห้านาทีก็โทรมา

"พี่..หนูมีแฟนแล้วนะคะ"

"ไม่เป็นไร..เราเป็นพี่น้องกัน กรอบของเรามีอยู่"

หลังจากนั้น

ก็โทรมา

"พี่มีสาว ๆ เยอะขนาดนี้คนที่บ้านไม่ว่าเอาเหรอ"

"พี่คนโสด แต่ไม่ซิงเท่านั้นเอง"

และหลังจากนั้น..... ก็โทรมา แล้วก็โทรมา โทรมาตลอด ระยะหลังหนักสุด
สามเวลาหลังอาหาร แถมด้วยห้าทุ่มถึงตีสองเกือบเช้าก็เคยมาแล้ว..........


ความรู้สึก ก็ค่อย ๆ เบ่งบาน โลกสีน้ำเงิน ก็กลายเป็นสีชมพูอ่อนหวานทวีคูณ ๆ หัวใจพอง ๆ แทบจะล้นทะลัก แทบอยากจะประกาศให้ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกได้รับรู้ว่าเรามีความสุขมากแค่ไหน


ผิดสิ ผิดเต็ม ๆ ก็ฉันมีแฟนแล้วนี่หว่า แต่จะทำยังไงดันมีใจให้เขาไปเต็ม ๆ และยิ่งทวีคูณเมื่อเราห้ามความสัมพันธ์ให้อยู่แต่ในกรอบไม่ได้ มันก็แหกกรอบออกมา ทีนี้ยังไงล่ะ.....ความหวานมันก็ไม่ได้อยู่กับเราตลอดไปหรอกนะ หนำซ้ำยังมีความจริงที่น่าตกใจซ่อนอยู่แฟนของฉันจับได้โทรไปหาเขา

เขาอยู่กับ "คนของเขา"

คนของเขาที่คบกันมาสองปี ซื้อบ้านให้กัน ไปเที่ยวด้วยกัน ไปหากันทุกอาทิตย์
หวานชื่นกันตลอด แม้ในระยะเวลาที่เขาคุยกับฉัน ในขณะที่เขากำลังกินข้าวกับฉัน เขาก็คุยโทรศัพท์กันหวานชื่นกับคนของเขา

.....โง่จริง ๆ ฉัน
ไม่ได้มีความฉลาดหรือเฉลียวใจอะไรเลย บอกว่าเพื่อนผู้หญิง เพื่อนบ้าอะไรจะบอกกันว่าเป็นห่วงนะแบบหวานซึ้ง

"คนของเขา" ก็โทรมาหาเราด้วย
รู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาด ถูกตบหน้าอย่างแรง หน้าชา ตัวชา

กรรมไงคะ.....ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า

ทีนี้ยังไงล่ะ สี่คนอลเวงกันอยู่พักนึงค่ะ..... ส่วนเราก็ยังโง่อยู่อีกพักนึง เขาพูดอะไรก็เชื่อเขาไปหมด เชื่อแม้กระทั่งเขาบอกว่าให้ไปตายก็คงไป ขนาดยอมสาบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยเรื่องโกหกก็เอา จะเรียกว่าเชื่อ หรือเชื่องดีล่ะหน้ามืดตามัวสุด ๆ ....


สุดท้าย..... คุยกันสี่คน เรา แฟนเรา เขา คนของเขา มีคนโกหกอยู่สองคน มีคนถูกทำร้ายอยู่สองคนอีกเช่นกัน............

ตาสว่าง.....ทุกสิ่งกระจ่าง คนของเขาไม่ใช่แฟน แต่เป็นเมีย เมียที่กำลังจะจดทะเบียนสมรสกันอยู่แล้ว........

ชัด

ชัด

ชัด

ชัดเจน

............................


เสียใจมาก

เสียใจที่สุด

เจ็บใจในความโง่งมของตัวเอง

...............

กระเสือกกระสนจนได้เรื่อง

..........................

ต้องขอบคุณ"แฟน" ที่ให้อภัยทุกอย่าง

ขอบคุณที่อยู่เคียงข้าง

ขอบคุณที่คอยปกป้อง

ทั้ง ๆ ที่เรามันไม่ควรค่าที่จะให้มาปกป้องเลย

...........................................................................

ขอบคุณจริง ๆ


สารภาพไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนหลายใจทุกคน


อย่าหวังว่าคุณจะได้ความจริงใจ


ในขณะที่คุณกำลังนอกใจ


เพราะผลสุดท้ายคนที่ต้องเจ็บไม่ได้มีแค่คนเดียว



ขอบคุณที่มา : fw mail

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ