วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553

Fernando Botero :เปล่าเปลือยในร่างอ้วน

Fernando Botero :เปล่าเปลือยในร่างอ้วน

♠ ♠♠ ♠♠ ♠



เธอ เคยหลงรักคนอ้วนไหม?

ฉันเคย....
คนอ้วนหนักกว่าร้อยกิโลกรัมที่มีรอยยิ้มให้ฉันเสมอ
คนอ้วนที่เธอต้องใส่เสื้อผ้าที่ซื้อมาจากร้าน Fat Fashion
คนอ้วนอารมณ์ดีที่ไม่เคยนำพาความขุ่นมัวมาสู่หัวใจ,คนอ้วนคนนี้
เธอ เป็น “อาโก”ของฉันเอง

♠ ♠♠ ♠♠ ♠



แล้วเธอจะรู้สึกอย่างไรนะ
หากเธอไหลหลงเข้าไป ในโลกที่มีแต่”คนอ้วน”
อย่างวันหนึ่งของฉันที่ได้ไปพบกับงานของศิลปินวาด ภาพคนหนึ่ง





โอ...ภาพของเขาคนนี้มีแต่ “คนอ้วน”
ไม่ว่าจะ เป็นสาวร่างอวบยกขาในชุดบัลเล่ต์
หนุ่มอ้วนกับสาวอวบกระโปรงสีครามเข้มกำลังเต้นรำกัน
แต่ละภาพนั้นส่งตรงความรู้สึกขบขัน อ่อนโยน
หรือแม้แต่ภาพ self portraitของศิลปินเอง
ที่ยืนอ้วนในมือมีธงปิดส่วนนั้น!!




♠ ♠♠ ♠♠ ♠

แต่ทว่ารูปร่างจริงของศิลปินคนนี้หาได้อวบอ้วนดั่งเช่นนั้นไม่
ศิลปินคนนี้ชื่อ Botero เขาเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงรู้จักทั่วโลก
จากภาพรูปร่างอวบอ้วน สัดส่วนของคนที่เพิ่มขยาย
ทั้งภาพผู้คนในตำนานและประวัติศาสตร์ทั้งหลาย
เช่นภาพของโมนาลิซ่าที่ อยู่ในภาคสาวท้วม
หรือภาพหุ่นนิ่งของสิ่งของ,แมนโดลิน, แจกัน, ผลไม้ ที่รูปทรงอวบพองทั้งสิ้น
รวมถึงงานประติมากรรมที่คงเอกลักษณ์ความอ้วนอิ่ม



Fernando Botero เขาเป็นชาวโคลัมเบีย เกิดเมื่อปี 1932
พ่อ ของเขาเป็นนักขายที่เดินทางด้วย “ลา”เป็นพาหนะไปทั่วทุกหนแห่งแม้ยามพายุครืนคะนอง
หรือดินแดนที่เต็มไปด้วยภูเขา และแล้วพ่อของเขาก็จากไปอย่างกะทันหัน
เมื่อ Botero วัยได้เพียงสองขวบ
เขาเติบโตกับแม่และน้องชายอีก 2 คน ทิ้งความเปลี่ยวเศร้าให้กับชีวิตเขา



♠ ♠♠ ♠♠ ♠

ในเมืองเล็กๆ ชื่อ Medellin ที่เขาเติบโตมานั้น
เป็นเมืองอันสงบ Botero ได้เข้าโรงเรียนของสมาชิกโรมันคาทอลิกที่เคร่งครัด
ที่นั่นเขาเริ่มต้นการวาดภาพ ระบายสี
เพื่อหยดเติมความเพลินเพลินให้กับชีวิต
เมื่อเขาเติบโตขึ้น Botero กลายมาเป็นคนที่คลั่งไคล้ในกีฬาวัวชน
พอวัย13 ปี เขาก็เริ่มวาดภาพฉากหนึ่งในการต่อสู้วัวกระทิงนั้น
แล้วก็นำออกขายในสนามกีฬานั้นเอง....



Botero นั้นมีความสามารถพิเศษในด้านศิลปะ
เมื่อ อายุเพียง 17 ปีเขาก็สามารถส่งงานภาพประกอบให้กับหนังสือพิมพ์ของเมือง Medellin
ต่อมาเขาก็ย้ายไปที่เมืองโบโกตา เปิดการแสดงภาพครั้งแรก
ซึ่งภาพของเขาก็จำหน่ายได้ทั้งหมด





แล้ว Botero ก็ได้ปฏิบัติเหมือนศิลปินส่วนใหญ่ในเวลานั้น
เขาตัดสินใจเดินทางไปยัง ยุโรป เพื่อที่จะศึกษาต่อ
เขาร่ำเรียนอยู่ในประเทศสเปน อิตาลี
และในปี 1956 เขาก็ได้เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยของ Bogota ประเทศโคลัมเบีย
ก่อนจะเดินทางไปยังเม็กซิโก...ที่นี่เองเป็นแรงบันดาลใจในทิศทางศิลปะให้กับ เขา



♠ ♠♠ ♠♠ ♠

ภาพวาดสไตล์อวบอ้วนของ Botero นั้น
เป็นที่รู้จักกันดี เมื่อช่วงปี 1964
อันเป็นการแสดงลักษณะรูปร่างที่อ้วน และสัณฐานที่โค้งมน
ภาพวาดของเขาราบรื่นเกือบจะไม่ปรากฏร่องรอยของฝีแปรงเลย



ภาพของ Botero ภาพหนึ่งคือภาพของสาวร่างอวบนอนอ่านจดหมาย
ข้างตัวมีเปลือกส้มอยู่เกลื่อนกลาด
หรือภาพโมนาลิซ่าที่ยิ้มละไมในร่าง อ้วน
แรงบันดาลใจของเขาในการสร้างสรรค์รูปลักษณ์อันขยายมากกว่าปกติ นั้น
Botero บอกว่าศิลปินนั้นจะถูกดึงดูดในรูปทรงอันหลากหลาย
โดย ไม่รู้ว่าทำไม เราจะนำเอามาใช้โดยสัญชาติญาณ
อาจจะเป็นดั่ง ปิกาสโซ ศิลปินชื่อก้องที่เขากล่าวว่า

“การทำงานศิลปะเหมือนการผจญภัย เพื่อหาสิ่งหนึ่ง
และสิ่งที่เขาต้องการ นั้นอาจจะยังไม่มีใครล่วงรู้
นอกจากตัวเขาเอง”


♠ ♠♠ ♠♠ ♠



ภาพของ Botero สะท้อนความงามที่แตกต่างไป
งานศิลปะของเขาไม่ใช่การ์ตูน
แต่คราใดที่ผู้คนได้เห็นภาพอ้วนๆ ครานั้นย่อมปรากฏรอยยิ้ม
สัดส่วนอันแปลกเปลี่ยนนำพาความโดดเด่นให้กับ งานของเขา
ผลงานของเขาชวนให้รำลึกถึงนักเขียนชาวโคลัมเบียเช่นเดียวกัน
คือ"กา ร์เบรียล การ์เซีย มาร์เกซ"
ซึ่งสร้างสรรค์งานเกี่ยวกับโลกที่น่า พิศวงและผิดธรรมดา




♠ ♠♠ ♠♠ ♠

“ชีวิต”ที่ปรากฏในงานศิลปะ(สีน้ำมันบนผืนผ้าใบ)ของ Botero
อันคุ้นตา
เช่น ภาพครอบครัวของผู้มีอันจะกิน
ซึ่ง เปี่ยมด้วยความอุดมสมบูรณ์ ภาพกลุ่มคนเล่นไพ่ ฯลฯ
อาจล้อเลียนเสียดสีความมั่งคั่งล้นเหลือ “เกินขนาด”
ของการมีชีวิตอยู่ของชนชั้นสูง

♠ ♠♠ ♠♠ ♠

Botero ในยามนี้ ยังคงเป็นคุณตาศิลปิน
เขามีพิพิธภัณฑ์แสดงผลงานอ้วนๆของเขา ในเมืองโบโกต้า โคลัมเบีย



ภาพวาดนู้ดผู้คนรูปร่างอ้วนของ Botero
อันอวดฉายสรีระที่แตกต่าง เป็นความงามที่หนีถอยมาจากทัศนะนิยม
นี่เป็นการหยั่งเห็นของผู้ที่ทำงานศิลปะ
เนื่องด้วยทุกครั้งที่เราคิดสร้างสรรค์งานศิลป์
นั่นคือการทำให้สิ่ง อันเป็นธรรมชาติบิดเบือนไป อย่างที่ Botero บอกว่า

“ ศิลปะ คือการทำให้ผิดรูปร่าง”

คนอ้วนของเขาในทุกภาพจึงเปี่ยมความน่ารัก
โน้มอ่อนหัวใจ ผู้พบเห็นเสมอมา@

♠ ♠♠ ♠♠ ♠
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=dudao&month=10-2008&date=01&group=1&gblog=107

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ