วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ดู หมิ่นผู้หญิงไทย ... !!!








ดูหมิ่นผู้หญิงไทย ... !!!

ดู ..... ข่าวจาก ที.วี รู้สึกไม่ดีเลย

มีคนร้องเรียนมาว่า ..... เธอเจอเข้ากับการดูถูกผู้หญิงไทยของโรแรมแห่งหนึ่งในเมืองไทยว่า ..... เมื่อเร็วๆนี้ ได้พบกับนโยบายที่ไม่เข้าท่าของรีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาว แห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต แต่โรงแรมนี้ ดูถูกผู้หญิงอย่างสุดๆ



เรื่องมีอยู่ว่า ..... ..... เดือนหน้านี้ เธอกับสามี ตั้งใจจะไปเที่ยวภูเก็ตกัน โดยเธอค้นหาชื่อที่พักจากอินเตอร์เน็ตก็พบชื่อโรงแรมนี้ และ ต้องการจะเข้าพักที่นั้น จึงโทรศัพท์ไปยังสำนักงานที่กรุงเทพฯ เพื่อที่จะจองห้องพัก ..... เริ่มแรกพนักงานที่รับสายถามเธอว่า ..... แขกที่จะไปพักเป็นคนไทย หรือ คนต่างชาติ เธอก็ตอบไปว่าเป็นคนไทยหนึ่ง และ ต่างชาติหนึ่ง



พนักงานก็ถามต่อว่า ..... "เป็นอะไรกัน"

ผู้ร้องเรียน เล่าว่า ..... เธอโมโหหน่อยๆ ตั้งแต่ได้ยินคำถามข้างต้นแล้ว แต่ก็ยังคงตอบไปว่า เป็นสามีภรรยากัน และ อธิบายเพิ่มเติมไปว่า...สามีทำงานอยู่ที่เมืองไทย และ เราจะไปเที่ยววันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยกัน




แต่ ..... พนักงานผู้นั้น กลับถามต่อว่า มีหลักฐานการทำงานหรือเปล่า ????

ผู้ร้องเรียน เล่าว่า ..... ตอนแรกเธอก็เข้าใจว่าคงหมายถึงสามี และ สาเหตุที่ถามก็คงเป็นเพราะราคาห้องพักสำหรับคนต่างชาติกับคนไทยไม่เท่ากัน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับโรงแรมทั่วๆไปอยู่แล้ว จึงไม่ได้คิดอะไรมาก และจึงตอบไปว่า มีใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้อง



แต่ ..... พนักงานผู้นั้น กลับบอกว่า ... ไม่ใช่ ที่เค้าพูดถึงนั้น
หมายถึง ..... ตัวเธอเองหน่ะ มีหลักฐานการทำงานหรือเปล่า ???

ฟังถึงตรงนี้ ..... เธอหมดความอดทนทันที
จึงถามกลับไปว่า ..... ทำไมหรือคะ ???
ที่นี่ ..... ไม่ต้อนรับผู้หญิงไทย หรือ ???




พนักงาน ..... จึงพยายามอธิบายว่า เพื่อเป็นการป้องกันผู้หญิงขายบริการที่จะเข้าพักกับแขกฝรั่ง ถ้าเป็นผู้หญิงคนไทย ที่จะเข้าพักกับชาวต่างชาติ จึงต้องขอดูหลักฐานการทำงาน

ผู้ร้องเรียน เล่าว่า ..... ฟังแล้วเธอรู้สึกว่า กำลังถูกดูหมิ่นอย่างแรง จึงตอบไปว่า ถ้าอย่างนั้นก็ ไม่ต้องแล้ว ไม่ไปแล้วคะ




ผู้ร้องเรียน ..... เล่าเรื่องระบายความรู้สึกต่อไปอีกว่า ..... ที่จริงแล้ว เธอไปเที่ยวที่ภูเก็ตกับสามีมาหลายครั้ง พักมาหลายโรงแรมตั้งแต่ระดับ 4 ดาว 5 ดาว แต่ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้เลย เป็นไปได้หรือที่จะมีชาวต่างชาติพาผู้หญิงขายบริการเข้าพักในโรงแรมหรู้ อย่างนั้นบ่อยๆ จนทางโรงแรมต้องตั้งนโยบายให้ตรวจสอบผู้หญิงไทยทุกคนที่ไปกับคนต่างชาติ

ผู้ร้องเรียน เล่าว่า ..... และ ถ้าเธอเป็นผู้หญิงอย่างนั้น เธอจะโทรไปจองโรงแรมเองหรือ ????

ผู้ร้องเรียน เล่าว่า ..... เธอถือว่า เป็นการดูหมิ่นผู้หญิงไทยอย่างแรง ทั้งๆที่ที่นี่คือ ประเทศไทยแท้ๆ คนไทยด้วยกันเองยังดูถูกผู้หญิงไทยถึงเพียงนี้ คงไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงไทยที่อยู่ต่างประเทศว่าจะถูกชาวต่างชาติมองด้วยสาย ตาอย่างไร ?????




ปกติ ..... เวลาที่คนไทย เฉพาะว่าต้องเป็น "ผู้หญิง" เดินทางไปต่างประเทศ
ก็ ..... อาจเป็นได้ ที่จะเจอเข้ากับท่าที "ดูแคลน" ของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในบางประเทศ
หรือ ..... กระทั่งเจ้าหน้าที่ของรัฐของบ้านเมืองเราเองก็เถอะ ที่มักจะ
ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า ..... "ผู้หญิง" ในชาติของเรา เป็น "ผู้หญิงขายบริการ"
หรือ ..... ไม่ก็เป็น "นักศึกษาขายตัว"

ทั้งๆ ..... ที่ "ผู้หญิง" ไทยที่ดีๆ ทำงานอาชีพอื่นๆ เมื่อเทียบสัดส่วนกันแล้ว
มากกว่า ..... "ผู้หญิง" ที่ประกอบอาชีพขายบริการ มากมายนัก

ท่าที ..... ดูแคลน "ผู้หญิง" ไทยนั้น ถ้าหากจะเกิดขึ้นโดยคนต่างชาติ
ใน ..... ต่างบ้านต่างเมืองกัน ก็อาจเป็นท่าที ที่พอจะให้อภัยกันได้
ว่า ..... อาจเกิดขึ้น เนื่องจากความไม่รู้
เพราะ ..... อาจจะ ได้พบ ได้เจอ "ผู้หญิง" ไทย อยู่เพียงประเภทเดียว
จึง ..... ขาดความรู้ ขาดความเข้าใจ
หรือ ..... ไม่ก็ไม่เคยเดินทางมาเมืองไทย ไม่รู้จักประเทศไทยมาก่อน
จึง ..... ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปได้ถึงขนาดนั้น

แต่ ..... กับคนไทยด้วยกันแท้ๆ ที่เกิด และ เติบโตอยู่ในเมืองไทย เป็นไปได้อย่างไรว่าจะ "ไม่รู้"
ไม่รู้เชียวหรือว่า ..... มี "ผู้หญิง" ไทยที่ดีๆ เป็นนักศึกษาดีๆ เก่ง กล้า สามารถ
ไม่ว่าจะ ..... ทำงาน หรือ เรียนอยู่ในทุกสาขาอาชีพ
ที่ ..... เป็นผู้บริหาร เป็นหัวหน้าอยู่ในหน่วยงานต่างๆ ก็มีให้เห็นกันอยู่มากมาย

ท่าที ..... ดูแคลน "ผู้หญิง" ที่มาจากคนไทยด้วยกัน
จึง ..... เป็นเรื่องที่เรารู้สึกว่า ..... ร้ายแรงอย่างยิ่ง
แม้ ..... แต่ในเว็บไซต์ต่างๆของไทยเอง
ก็ชอบ ..... ที่จะตำหนิ ความไม่รักนวลสงวนตัวของผู้หญิงในปัจจุบันนี้เสมอๆ
เราไม่เข้าใจว่า ..... เวลาที่พูดคุยกันเรื่องแบบนี้
ทำไม ..... ต้องมุ่งให้ความผิด อยู่กับฝ่ายหญิง

ทั้งๆ ..... ที่โดยความเป็นจริงๆๆๆๆๆ
ที่เราทราบ ..... ผู้ชายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ
ที่ ..... ทำให้ "ผู้หญิง" กระทำผิด ... !!


เราเลยอยากรู้จังว่า ..... พวกเค้าเป็นอะไรกันหนักหนา ... ???







จริงๆแล้ว ..... ไม่เฉพาะที่โรงแรมนั้นหรอก......ทุกโรงแรม จะมีมาตรการที่แตกต่างกันไปในการปฎิบัติกับผู้หญิงบริการ หรือภาษาโรงแรมเรียกว่าJoiner ถ้าเป็นโรงแรมใหญ่ๆบางที่จะไม่ให้Joiner เข้าไปพักที่โรงแรมเลยเพราะกลัวทำให้ภาพพจน์เสีย แต่สำหรับผู้หญิงที่มีสามีเป็นฝรั่งบางคนหรือ80% ที่เคยเห็นส่วนมากก็มีอดีตแบบนี้ทั้งนั้นถึงแม้จะ up grade ด้วยกำลังดอลล่าร์ของสามีฝรั่งแค่ไหน นิสัยหรือการพูดจาบางส่วนก็ไม่ได้up ตามมาด้วย

ดังนั้น ..... ก็เป็นไปได้ที่พอผู้รับโทรศัพท์อาจรู้สึกผิดสังเกตุก็เลยถามซอกแซกเกินไป หรืออาจจะเป็นไปได้ที่บังเอิญผู้หญิงคนนั้นเจอกับพนักงานโรงแรมที่ค่อนข้าง จะป็นส่วนที่เลว ประเภทขาดการอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่แรกเกิด จนมาทำงานที่โรงแรมดีๆจ่ายค่าจ้างสูงๆแล้วลืมตัวนึกว่าตัวเองไฮโซสุดๆแล้วใน ชีวิตมันเลยทำให้การแสดงออกต่อลูกค้าเลวทรามแบบที่ครอบครัวมันประพฤติเป็น กิจวัตรก็เป็นได้ เป็นได้ทั้งสองแบบที่เล่ามาครับ

แต่ ..... จะไปว่าโรงแรมบางโรงแรมที่ไม่ให้joinerเข้าพักก็ไม่ถูกนะ เค้ามีสิทธิ์กำหนดรูปแบบของสถานที่ของเค้าน่ะ แล้วก็อยากพูดถึงผู้หญิงที่เห่อฝรั่งทั้งหลายว่าดูๆแล้วทุเรศสิ้นดี อย่าฃพวกนักศึกษาบางคนเห็นครูสอนภาษาฝรั่งงี้ระริกระรี้น่าดู เค้าพูดด้วยก็yes yes แต่ไม่ตอบคำถามเค้าน่ะได้แต่yes yes พร้อมๆกับทำหน้าเป็นปลื้มเสียเต็มประดา ฝรั่งก็หันไปพูดกับเพื่อนว่า " เธอไม่รู้เรื่องหรอก แต่ก็พร้อมที่จะไปกับแกนะ"

ย้อน ..... กับไปอ่านที่โพสมาใหม่ ไม่เถียงครับปัจจุบันผู้หญิงเก่งๆดีๆมีเยอะแยะมากมากมาย สมัยที่พี่เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง พี่มีท่านอธิการิณีที่เป็นนักธุรกิจได้รับรางวัลนักธุรกิจหญิงมาแล้วแต่ขอ โทษนะครับ หูเบา คนสนิทว่าคนไหนเลวท่านก็ว่าเลว คนไหนคนสิทบอกว่าดี่ท่านก็ว่าดี ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง กลั่นแกล้งผู้ใต้บังคับบัญชาแบบไม่มีสามัญสำนึกของความเป็นมนุษย์ที่มีสิทธิ เท่าเทียมกันเลยสักนิด

เท่านั้น ..... ยังไม่พอคณบดีที่เป็นหัวหน้าของผมโดยตรงเธอ(ชื่อเล่นชื่อจั๊ค) จบโทจากอเมริกา ขอโทษยิ่งกว่าค....อีก ภาษาอังกฤษก็พอๆกับคนที่เรียนในเมืองไทยทั่วๆไปแถมอะไรที่ไม่รู้ก็ไม่ฟัง ถูลู่ถูกังข้างๆคูๆไปเรื่อยๆ มีคณะอาจาย์จาก ม.พายัพมาดูงานที่วิทยาลัยโดนอาจารย์บางท่านถามถึงรายละเอียดเกี่ยวกับงาน โรงแรมเพราะอยู่ในเนื้อหาวิชาที่สอนตอบผิดหมดตอยแบบคนไม่มีข้อมูลแต่ดำน้ำไป น่ะพอจนมุมเธอพูดว่าไงรู้มะ "ที่อเมริกาวิธีปฏิบัติไม่เหมือนกันค่ะ" ระบบหรือวิธีของแต่ละแผนกในโรงแรมไม่มีทางจะผิดเพี้ยนแบบขาวเป็นดำแบบที่แก ตอบหรอก นี่เป็นความรู้สึกส่วนตัวที่เคยมีหัวหน้าผู้หญิงมานะครับ นี่แค่ตัวอย่างเล็กๆน้อยๆ

.........................................................................
BY : บิ๊กหมี่ [15 มิ.ย. 2003 , 10:21:03 น.]
ที่มา ::: http://www.ac104.com/forum/showanswer.php?qid=455



ด้วย ..... ความเคารพในสิทธิที่เท่าเทียมกันของสตรี และ บุรุษ นะครับ เรื่องที่โพสลงมาเนี่ยะ เป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันมากพอสมควร ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ของภาครัฐ คือพี่หมายถึง

1. กระทรวงศึกษาธิการ
2. กระทรวงวัฒนธรรม
3. สำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติ
4. สภานิสิต-นักศึกษาแห่งประเทศไทย และที่สำคัญ คือ
5. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
และ 6. กระทรวงต่างประเทศ

แต่ ..... ในส่วนที่พี่ได้รับทราบข้อมูล คือในส่วน ของสำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องปัญหาของหญิงไทย วัฒนธรรมตะวันตก และค่านิยมในวัยรุ่นที่เปลี่ยนแปลงไป มีการประชุมคัดหาข้อมูลเข้ามาเพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐได้ศึกษา และหาหนทางแก้ไขมากมายนะครับ แต่เท่าที่พี่ได้สัมผัสแล้วก็คือปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ มีการพัฒนาตัวของมันเองเกือบตลอดเวลา จนทำให้เราตามกันไม่ทัน

ตั้งแต่ ..... ปัญหานักศึกษาขายตัว โสเภณีเด็ก แม่เล้าตัวน้อย อ่อยเหยือด้วยตุ๊ด ฯลฯ ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้มีข้อมูลเข้าถึงผู้ใหญด้าน บน ๆ นะครับ แต่ว่าการแก้ปัญหาจริง ๆ ต้องแก้จากระดับรากหญ้า ง่าย ๆ ก้อ คือ การสร้างค่านิยมใหม่แก่ เด็กไทย ไม่ให้บ้าบอคอแตกไปกับสังคมฟุ้งเฟ้อ และ ไม่ติดนิสัยกามล้นมาตรฐานอย่างสังคมเมืองนอกเขา

การ ..... หมิ่นศักดิ์ศรีของหญิงไทยด้วยกันนั้น มีอยู่จริงครับ ไม่กล้าปฏิเสธ เพราะเคยเจอด้วยตัวเองก้อมี อย่าว่าแต่หมิ่นหญิงไทยเลยครับ ชายไทยตัวอ้วน ๆ หน้าตาธรรมดา ไปกับสาวตาน้ำข้าว หน้าตาดีดูมีตังค์ ยังโนดูหมิ่น แบบได้ยินกับหูเลยว่า "โหไอ้อ้วนนี่หน้าตาท่าทางดีนะ แต่ดูมันดิ เกาะสาวฝรั่งแด--ก ว่ะ" โกรธขึ้นจากปลายเท้าสาวหมัดซ้ายข้างถนัด ตบเข้าบ้องหู เคาท์เตอร์โรงแรม 5 ดาว จังหวัดภูเก็ตเลยล่ะครับ เป็นเรื่องเป็นราวกันไปประมาณ 2 สัปดาห์ สุดท้ายทางโรงแรมเวรนั่นส่งผู้จัดการขึ้นมากรุงเทพฯเพื่อขอโทษ และ ชดเชยด้วยการให้บัตรเข้าพักฟรี 2 ใบ

แต่ ..... พี่ไม่ได้รับนะครับ มันเกินทน เลยได้แต่เข้าไปด่าเป็นสาธารณะกระทู้ ให้ทั่ว ๆ กันสะใจดี ฟ้องกลับก้อไม่ได้ เพราะไม่ลงชื่อจริง.

เรืองที่ ..... เพื่อน ๆ โพสลงมาอันหลังสุดคือเรื่อง สาว sideline ราคาแพง แถวย่านรัชดา อันนี้มีจริงนะครับ และโดยปัจจุบันเริ่มมีอาการว่าจะมากขึ้นอีกพอสมควร ทั้งที่ ช่วงนี้ คุณประชา มาลีนนท์ มท.2 ส่งสายออกตรวจจับอยู่เยอะพอสมควร แต่ก้อมีเล็ดลอดแบบ ตั้งใจ และ ไม่ตั้งใจเยอะเหลือเกิน แปลกแต่จริงครับ

เงิน ..... ประมาณ 5000-7000-10000 แลกกับการ หลับนอน+มีเพศสัมพันธ์ กับใครก้อได้ที่พร้อมจ่าย เพื่อแลกกับความสะดวกสบายทั้งที่พอมีฐานะ และหน้าตาดี มีความรู้พอตัว แปลกมาก ๆ แต่ต้องยอมรับกันนะครับว่ามีอยู่จริง ในสังคมไทย ที่สำคัญ เพศชายนั่นแหละครับที่เป็นตัวแปรสำคัญ ที่ทำให้เด็กพวกนี้ยังมีอยู่ หรือว่าไม่จริง ..

.............................................................................
BY : erotica balm [15 มิ.ย. 2003 , 11:29:42 น.]
ที่มา ::: http://www.ac104.com/forum/showanswer.php?qid=455





สาวน้อยอ่างน้ำ ..... ตอง3 งานนี้! ดีกว่าเสี่ยเลี้ยง

อ้อย บีเอ็ม หรือ จินตนา บุนนาค ผู้อยากให้ใครๆ เรียกว่า เจ้าของ ธนาคารอารมณ์ เคยบอกว่า เพราะเมีย ไม่ปฏิบัติพัดวีสามี... พวกผู้ชายอยากอะไร ก็ไม่กล้าบอก ให้เมียทำ เป็นที่มาของโรคระบาด ในหมู่ผู้ชาย เรียกกันว่า ... โรคติดอ่าง

"โรคติดอ่าง" เป็นยังไง ... นายแพทย์ดีกรี ระดับด็อกเตอร์ หรือคุณหมอโรงพยาบาล คงวินิจฉัยไม่ได้เท่ากับคุณหมอสาวๆ ที่นั่งหน้าแฉล้ม อยู่ในตู้กระจก คุณหมอตู้กระจก ในยุคที่นักเที่ยวทั้งในและนอกประเทศหนีโรคซาร์ส หลายแห่งเงียบเหงา แต่อย่างน้อยก็มีแห่งหนึ่ง ย่านถนนพระราม 9 ยังมีสีสัน ว่ากันถึงขั้นถนนทุกสายมุ่งตรงไปหา... นั่นเชียว

ใน ..... บรรยากาศที่หลายตู้กระจกเงียบเหงา...แต่ที่นี่...อย่างน้อยทุกสาวต้องได้งาน วันละ 2-3 รอบ คำ “รอบ” ที่ว่า คือคำเรียกช่วงเวลาบริการ...สองชั่วโมง ส่วนสาวที่ขึ้นระดับดารา ใช้หมายเลขสามตัวซ้ำกัน เรียกว่า ตอง มีขาประจำ จองคิวรอ... สถิติปกติธรรมดา ที่ทำกันคือวันละ 6 รอบ หมอนวดระดับนี้ ไม่ต้องนั่งในตู้ ก็มีอยู่หลายคน...

กบ...สาวผู้มีหน้าที่เชียร์ลูกค้า ออกตัวล่วงหน้าว่า ลูกค้าขาจรอาจผิดหวัง... บางคนคิวเต็มจนต้องจอง เวลาล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน... และหนึ่งในหมอนวดดาราจำนวนนั้นคือ...ปอ... แต่ถ้าเป็นแฟนประจำ มักเรียกชื่อสถานที่ต่อท้าย ปอ โคลอนเซ่ สาวน้อยวัย 20 ปี ผิวขาวละเอียด แววตาร่าเริง ผมสีน้ำตาลยาวสลวยถึงเอว พูดสั้นๆ ดีกรี...ความสวยระดับดารานักร้องวัยรุ่นในค่ายเพลงดัง หมายเลข ตอง 3 ณ สถานบริการแห่งนี้ นี่คือมือวางอันดับ 1 สาวสวยวุฒิการศึกษาปริญญาตรี พลิกผันมามีอาชีพอย่างนี้ เรื่องราวในชีวิตเป็นเช่นไร

พ่อ ..... เป็นคนกรุงเทพฯ แม่เป็นคนเชียงใหม่ ผิวขาวๆ เธอได้มาจากแม่ พ่อกับแม่แยกทางกัน ตั้งแต่ปอยังเล็ก พ่อหอบหิ้วเธอเข้ามาอยู่กรุงเทพฯกับแม่เลี้ยง ชีวิตในวัยเด็กจนย่างเข้าวัยสาว...ปอไม่เคยมีปัญหาระหว่างแม่เลี้ยงกับลูก เลี้ยง เหมือน ในละครน้ำเน่า หลังข่าวภาคค่ำ พ่อและแม่เลี้ยงส่งเสียเธอจนเรียนจบระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยของรัฐ แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

“ความรู้ขนาดนี้... ทำไมถึงมาเป็นหมอนวด”

“ชีวิตถ้าเลือกได้...ก็ดีซิพี่...” ปอว่า

จบ ..... ปริญญาตรีแล้ว ทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ในบริษัทเอกชน ความที่เป็นคนสวย จึงเป็นที่จับตามอง ของบรรดาเพื่อนร่วมงาน และยิ่งได้รับความสนใจจากนายจ้างเป็นการเฉพาะตัว เสียงซุบซิบนินทา ก็เริ่มขยายวง และเมื่อ ปอ...ได้ขยับตำแหน่งจากพนักงานทั่วไป เธอก้าวกระโดดจากตำแหน่งเดิม ไปเป็นเลขาส่วนตัวของนายจ้าง เสียงซุบซิบนินทาก็ยิ่งขยายวงกว้าง

“ถ้ามีอะไรกับเจ้านายจริงๆ หนูก็รับได้...แต่นี่ไม่เคยมีอะไรกันสักหน่อย...”

สุดท้ายปอ...ก็ขอลาออกจากงาน ตกงาน...ขอเงินพ่อใช้อยู่พักใหญ่ๆ

“เกรงใจพ่อ...ส่งเสียให้เรียนแล้วยังเอาตัวไม่รอด...มันคิดมากนะพี่นะ... ยิ่งตอนนั้นเป็นช่วง ฟองสบู่แตก...งานมันหายาก”

ระหว่างที่วิ่งตีนขวิดหางานทำ...เพื่อนเก่าสมัยเรียนชวนไปเป็น พนักงานต้อนรับ ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านรัชดาฯ... ปอ...ตกลงไปทำงานที่ใหม่...ไม่ลังเล งานของ ปอ...แต่งตัวสวยๆ โชว์ท่อนขาขาวๆ ต้อนรับแขกประเภทเสือสิงห์กระทิงแรด ยืนทักทายผู้มาเยือนด้วยถ้อยคำสุภาพ และต้องปฏิบัติอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แน่ละ...ลูกค้าส่วนใหญ่ สนใจ...ในความสดใสร่าเริง หลายคนพยายามให้เธอนั่งดื่มเป็นเพื่อน แต่ปอก็มักปฏิเสธ ปอเป็นพนักงานต้อนรับ ไม่ใช่สาวนั่งดริงก์

บทบาท ..... หน้าที่ในสถานบริการ...พนักงานต้อนรับ เงินเดือน 8 พันบาท ส่วนสาวนั่งดริงก์ หน้าที่คุยเป็นเพื่อนลูกค้า...มีเงินเดือนอัตราหนึ่ง เปอร์เซ็นต์จากค่าดริงก์ และเงินทิป ซึ่งเมื่อรวมกันแล้ว จำนวนก็ไม่ใช่นิดน้อย แต่กระนั้น เงินของสาวนั่งดริงก์ ก็ยังน้อยกว่า ถ้ารับเงื่อนไข...บริการให้ทุกอย่าง

มาม่าซัง ..... หว่านล้อมปอด้วยรายได้ก้อนใหญ่ ให้เธอนั่งดื่มกับแขก ถ้ายอมรับนั่งดริงก์ ก็เท่ากับรับเงื่อนไขขายตัว ปอปฏิเสธเรื่อยมา คืนหนึ่ง...มาม่าซังขอร้องให้เธอนั่งกับแขกวีไอพี...เพื่อนกับ เจ้าของร้าน เพราะเกรงใจเจ้าของร้าน....ปอยอมที่จะนั่งดื่มเป็นเพื่อน ลูกค้าวีไอพีคนนั้น มีหนแรกก็ต้องมีหนสอง ...หนสาม ตามมา ลูกค้าวีไอพี เพื่อนเจ้าของกลายเป็นขาประจำ วนเวียนตามมาจีบเธอทุกคืน

เสี่ย มาเฝ้าด้วยเจตนาอะไร?...เด็กสาววัยปอ...ก็รู้

แล้วจุดหักเหชีวิตก็มาถึง คืนหนึ่งมาม่าซังหลุดปากกึ่งจริงกึ่ง หยอก...เสี่ยอยากได้หนู... หนูอยากได้เท่าไหร่ ปอยกมือไหว้พระสาบานว่า พูดเรื่องจริง...วันนั้นไม่ได้เดือดร้อน ไม่ได้กลุ้มใจเรื่องเงิน แล้วก็ไม่ได้อกหัก เมื่อมาม่าซังถามค่าตัว ปอก็พูดออกไปกึ่งจริงกึ่งเล่น

“ถ้าแสนนึง...หนูก็โอเค” เงิน 1 แสน ที่พนักงานต้อนรับอย่างปอ คิดว่ามากนักหนา แต่สำหรับคนฐานะเสี่ย ที่สถานบริการเรียกว่า วีไอพี มันนิดเดียว เสี่ยตกลงทันที.....ไม่มีการต่อรอง

“สามชั่วโมง...หนูได้มาแปดหมื่น” ปอเล่าเปิดเผยตามนิสัย “แบ่งให้มาม่าซังไปสองหมื่น” เงินก้อนแรก ได้จากผู้ชายคนแรก...ก็ต้องมีก้อนที่สองและสาม... จากเสี่ยวีไอพี... ทีนี้ก็เป็นป๋าผู้รับเหมา, นายแบงก์, อธิบดี, ปลัดกระทรวง, นักธุรกิจ, นักการเมือง บางคนที่ปอจำได้เมื่อเห็นหน้าในทีวี เขาเป็นรัฐมนตรี เงินที่ได้ก้อนใหญ่ขึ้น ปอลืมคิดถึงอนาคตเรืองรอง ที่เคยฝันไว้ระหว่างการศึกษา... นับแต่วันนั้นชีวิตของปอ...เปลี่ยนไป จนมี เงื่อนไข ให้หาเงินจากอ่าง ปอก็เต็มใจทำ

“ไหนๆ มันก็ไหนๆ... ความรู้สึกมันเรียกคืนไม่ได้แล้ว” ปอ...ว่า

พอตัดสินใจลงอ่าง... ลูกค้าบางคนก็จะเอาจริง เลี้ยงจริง ก็ตามมาหึง บางคนเสนอบ้าน รถ เงินเดือน แต่ปอก็ยังไม่อยากเอาตัวไปผูกมัดกับใคร เพราะความเชื่อว่า ผู้ชายนักเที่ยว... ยังไงก็คงไม่คบกันจริง สถานการณ์เป็นไปตามที่ปอคาด งานในอ่าง มีอะไรๆให้มากกว่าเสี่ยเลี้ยงเป็นไหนๆ ลูกค้าประจำวนเวียนมาใช้บริการไม่ขาด

ขาประจำเยอะขนาดนี้ มีเคล็ดลับอะไร? ปอบอกว่าไม่มีเคล็ดลับ อะไรเลย... เพียงแต่เมื่อเริ่มงาน ก็ต้องรู้หน้าที่ รู้ว่าต้องการอะไร เขาขาดส่วนหนึ่ง ก็เติมให้เต็มตรงนั้น วันหนึ่งปอทำงานได้ 6-7 รอบ ค่าบริการรอบละ 3,400 บาท ปอได้ส่วนแบ่งรอบละ 2,000 บาท 6 รอบก็ 12,000 บาท เดือนหนึ่งทำงานอย่างน้อย 20 วัน ยกเว้นวันเบาๆ เดือนหนึ่งก็ 2 แสนกว่าบาท นี่ยังไม่รวมทิป รายได้ขนาดนี้...ไม่มีใครแปลกใจ สาวอ่างตอง 3 โคลอนเซ่ มี รถเก๋งญี่ปุ่นคลาสดีใช้ 2 คัน ปอตั้งใจเก็บเงิน ซื้อบ้านหลังงามๆให้พ่อสักหลัง

แม้จะคุยกันเปิดเผย...ทุกเรื่องราวในชีวิต ปอก็บอกว่า จะขอปกปิดอาชีพนี้ไว้ไม่ให้พ่อรู้ กลัวพ่อ คนที่ปอรักมากที่สุดผิดหวัง ปอให้สัญญา วันหนึ่งวันที่ปอมีฐานะมั่นคง ปอจะเลิกอาชีพนี้ และหวังว่าถึงวันนั้น ปอน่าจะหาใครที่รักปอจริงๆ ไว้เป็นเพื่อนใจ...สักคน
.........................................................................
จากคอลัมภ์สกู๊ปหน้า 1 นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2546
BY : กระจกอีกด้าน [16 มิ.ย. 2003 , 10:39:31 น.]
ที่มา ::: http://www.ac104.com/forum/showanswer.php?qid=455


you cannot blame on others, because you have to accept that there are so many thai girls who are prostitutes that like to hang out with whites to upgrade themselves. if i own a hotel, i won't like it to be like a message parlour either.

คุณโทษคนอื่นไม่ได้ เพราะว่าคุณได้ยอมรับว่าสาวโสเภณีไทยมากมายที่ชอบอยู่กับคนผิวขาวเพื่อยก ฐานะตนเอง ถ้าผมเป็นเจ้าของโรงแรม ผมจะไม่ชอบเช่นกัน <>

many thai girls are so crazy when they see white guys, even one thai actress had got kissed by liverpool soocer player. she aslo said i understand coz whites, they dont' mind. i'll tell you what, if you just go and then suddenly kiss gals on the streets in many developed countries like usa or england. you can be prosecuted for sexual harassment and you can be fined up to more than a million dollars in some cases. So if you think whites, they don't mind about this, then you are wrong!

หญิงไทยมากมายคลั่งไคล้ชายผิวขาว ดาราสาวไทยได้รับการจุมพิตจากนักฟุตบอลจากทีมลิเวอร์พูล เธอบอกว่าเธอเข้าใจคนผิวขาว และ เขาไม่รังเกียจ ผมจะบอกว่า ถ้าคุณไปเที่ยว และ จูบผู้หญิงบนถนน ในประเทศที่เจริญแล้ว อย่าง อเมริกา หรือ อังกฤษ คุณอาจจะถูกแจ้งความจับข้อหาลวนลามทางเพศ และ คุณอาจโดนปรับมากกว่าล้านเหรียญในบางคดี ดังนั้น ถ้าคุณคิดว่าคนผิวขาวไม่รังเกียจเรื่องนี้ คุณคิดผิดแล้ว

you cannot blame that hotel, you have to blame yourself or other thai gals. but i understand your point, i'm also pissed off when thais discriminate against thais in thailand as well. coz when u go to many places in thailand, many thais prefer to take a much better care on whites, but not thais.

คุณจะโทษโรงแรมนั้นไม่ได้ คุณควรโทษตัวเองและหญิงไทยอื่นๆ แต่ผมเข้าใจมุมมองของคุณ ผมก็จะหงุดหงิดเหมือนกันเมื่อคนไทยดูถูกคนไทยด้วยกัน เพราะเมื่อคุณไปหลายๆที่ในเมืองไทย คนไทยมากมายจะเอาใจคนผิวขาวมากกว่าคนไทยด้วยกัน

if you wanna know how many prostitutes we only have in bangkok itself, then u should ask some guys here to take you to the field trip around ratchada or other places. some sideline gals are not different from gals that you see in siamsquare, some gals study at ABAC, chula, hor garn ka, some just got back here for holidays from universities in overseas and so on. most of them drive at least BMW siries 3 na kub, cost less than 5,000 bath for sideline gals na kub. you won't believe how high class prostitutes we have in our country.

ถ้าคุณต้องการรู้จำนวณโสเภณีที่มีอยู่ในกทม. คุณน่าจะลองถามชายบางคนที่นี่ให้พาคุณออกสำรวจย่านรัชดาฯและอื่นๆ. สาวไซด์ไลน์บางคนดูไม่แตกต่างไปจากสาวๆที่เรียนที่เอแบค, จุฬาฯ, หอการค้า บางคนกลับมาพักผ่อนจากการเรียนในต่างประเทศ และ อื่นๆ ส่วนมากเจ้าหล่อนขับอย่างน้อย BMW ซีรีส์ 3 นะครับ ค่าตัวเจ้าหล่อนอย่างต่ำ 5000 บาท นะครับ คุณจะไม่เชื่อเลยว่าโสเภณีในเมืองไทยของเรา "มีระดับ" ขนาดไหน
---------------------------------------------







http://www.numtan.com/story_2/view.php?id=25

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ