วันเสาร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2553

ที่สุดของคดีในปี 2009

ที่สุดของคดีในปี 2009

1. เจย์ซี ดูการ์ด สาวน้อยผู้หายไป 18 ปี

เรื่องราวของเด็กสาว เจย์ซี ดูการ์ด ที่เกิดขึ้นในแคลิฟอร์เนีย อาจจะสร้างความหวังให้กับบรรดาพ่อแม่ในสหรัฐอเมริกาที่ลูกถูกลักพาตัวไป เมื่อ ดูการ์ด วัย 11 ขวบถูกลักพาตัวไประหว่างเดินไปขึ้นรถโรงเรียนที่ เซาท์ เลกทาโฮ ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ถูกพบหลังจากเวลาผ่านไปถึง 18 ปี ในเมืองแอนติออช รัฐแคลิฟอร์เนีย

โดย ดูการ์ด ซึ่งในขณะที่พบมีอายุ 29 ปี และมีลูก 2 คน อายุ 15 ปี และ 11 ปี ตามลำดับ กับนายฟิลิปป์ การ์ริโด ชายผู้ลักพาตัวเธอไป โดยนายฟิลิปป์พร้อมด้วยภรรยา นางแนนซี การ์ริโด ขัง ดูการ์ด ไว้ในกระท่อมหลังบ้านของเจ้าตัวเป็นเวลานานถึง 18 ปี ตำรวจได้ตั้งข้อหานาย ฟิลิปป์ ทั้งลักพาตัว, กักขังหน่วงเหนี่ยว และข่มขืนโดยใช้กำลังบังคับ โดยทั้งคู่ปฏิเสธว่าไม่มีความผิด ขณะที่ ดูการ์ด ซึ่งไม่ยอมปริปากพูดอะไรมาก ได้กลับสู่อ้อมอกแม่และมีรายงานว่าลูก ๆ ทั้งสองของเธอ ซึ่งเพิ่งได้เข้าโรงเรียน สามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติ





2. แอนโธนี เซาเวลล์ ฆาตกรฆ่าข่มขืนจากคลีฟแลนด์

หนึ่งในฆาตกรฆ่าข่มขืนที่ก่อคดีสะเทือนขวัญมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี ที่ผ่านมา เซาเวลล์ ถูกจับกุมตัวในข้อหาก่อคดีฆ่าข่มขืนหญิงสาว หลังจากที่ตำรวจเดินทางมาตรวจบ้านของเขาตามเบาะแสจากเพื่อนบ้านในละแวกใกล้ เคียง โดยเมื่อตำรวจเดินทางมาถึงอพาร์ตเมนต์ ของ เซาเวลล์ ในคลีฟแลนด์ ก็ถึงกับผงะ เนื่องจากพบศพหญิงสาว 2 คนเน่าเปื่อยอยู่ในห้องนั่งเล่น รวมถึงอีก 4 ศพ ที่ถูกฝังไว้ตื้น ๆ ในห้องใต้ดินและใต้ถุนบ้าน นอกจากนั้นตำรวจยังได้ขุดสนามหลังบ้านของ เซาเวลล์ พบศพอีก 4 ศพ และเมื่อรวมกับหัวกะโหลกคนที่พบในถังน้ำทำให้จำนวนศพทั้งหมดมากถึง 11 ศพ ซึ่งทั้งหมดเป็นหญิงเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน

อย่างไรก็ตาม นายแอนโธนี เซาเวลล์ อดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ ให้การในชั้นศาลว่าตนเองบริสุทธิ์ เนื่องจากมีสติไม่ปกติ ทำให้คดีนี้ยังต้องเป็นที่ถกเถียงกันต่อไป





3. ฟิลิปป์ มาร์คอฟฟ์ นักล่า "เคร็กส์ลิสต์"

คดีนี้เกิดขึ้นหลังจาก จูลิสซา บริสแมน หมอนวดซึ่งประกาศขายบริการของเธอทางเว็บไซต์ "เคร็กส์ลิสต์" ผู้ให้บริการโฆษณาสินค้ารวมถึงบริการต่าง ๆ แบบแบ่งออกเป็นประเภทถูกตีที่ ศีรษะ และโดนยิงอีก 3 นัด จนถึงแก่ความตายที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งในบอสตัน ตำรวจรวบตัวผู้ต้องสงสัย นายฟิลิปป์ มาร์คอฟฟ์ นักศึกษาแพทย์รูปร่างกำยำจากมหาวิทยาลัยบอสตัน โดยหลังจากเกิดเหตุขึ้นบรรดาเพื่อนและคู่หมั้นของ ฟิลิปป์ ต่างพากันปฏิเสธโดยยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้เป็นคนจิตใจดีซึ่งไม่น่าจะ ก่อเหตุสะเทือนขวัญเช่นนี้ได้

นอกจากนี้ ฟิลิปป์ ยังโดนตั้งข้อหาลักขโมยเงินของหญิงสาวอีกคนหนึ่ง ซึ่งประกาศขายบริการของเธอทาง "เคร็กส์ลิสต์" อีกเช่นกัน เป็นจำนวน 600 ปอนด์ แม้ว่าตำรวจจะค้นหลักฐานคืออาวุธปืนในบ้านของฟิลิปป์ที่บ้านในแมสซาชูเซตส์ แต่ทนายของเจ้าตัวกลับปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา





4. อเล็กซ์ เวียน ผู้ทำเลือดเปื้อนศาล

นี่อาจจะเป็นคดีแห่งศตวรรษสำหรับชาวมุสลิมทั่วโลกเลยก็ได้ หลังจากเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม มาร์วา เอล-เชอร์บินี เภสัชกรหญิงวัย 31 ปี ซึ่งเกิดในอียิปต์ และเป็นคนศรัทธาในศาสนาอย่างแรงกล้า เดินทางไปยืนยันในศาลว่า นาย อเล็กซ์ เวียน ผู้อพยพชาวรัสเซียซึ่งตกงานอยู่ ดูถูกเธอด้วยการเรียกเธอว่า "มุสลิม" และ "ผู้ก่อการร้าย" ที่สนามเด็กเล่น

เรื่องสะเทือนใจ เกิดขึ้นหลังจากนั้น เมื่ออัยการเล่าว่า หลังจาก เอล-เชอร์บินี ให้การเสร็จแล้ว นายอเล็กซ์ ได้นำมีดยาว 7 นิ้ว ที่แอบนำเข้ามาในศาล แทงนางเอล-เชอร์บินี ซึ่งขณะนั้นกำลังตั้งท้องได้ 3 เดือน ถึง 16 ครั้ง จนเธอถึงแก่ความตายต่อหน้าลูกชายวัย 3 ขวนของเธอทั้ง 2 คน

ขณะที่ นายเอลวี โอคาซ สามีของ เอล-เชอร์บินี ก็ถูกแทงด้วยเช่นกัน แถมยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าใจผิดคิดว่า โอคาซ เป็นคนแทง เอล-เชอร์บินี ยิงอีกต่างหาก โชคดีที่รอดมาได้ ส่วน นาย อเล็กซ์ เวียนถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตหลังจากเหตุการณ์น





5. วิลเลียม สปาร์กแมน ประชาทัณฑ์หรือฆ่าตัวตาย

ศพของ นายวิลเลียม สปาร์กแมน ถูกพบเมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่สุสาน บริเวณชานป่าสงวนแห่งชาติ ดาเนียล บูน ในเขตเคลย์มลรัฐเคนทักกี โดยศพของเจ้าหน้าที่ทำสำมะโนประชากร ถูกพบแขวนอยู่ใต้ต้นไม้พร้อมตัวอักษรคำว่า "Fed" ถูกกรีดไว้ที่หน้าอก

ข่าวการตายของ นายวิลเลียม แพร่สะพัดไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ยิงกว่าข่าวฆาตกรรมอื่น ๆ ตามชนบท เนื่องจากเป็นคดีที่มีกลิ่นอายของการต่อต้านรัฐบาล แม้หลังจากนั้นจะไม่มีผู้ต้องสงสัยคนใดถูกจับเลยก็ตาม ส่วนตัวอักษรปริศนานั้นก็ยังไม่มีผู้ใดตีความได้ว่าหมายถึงสิ่งใด ขณะที่หลาย ๆ คนเชื่อว่านี่เป็นการฆ่าแขวนคอด้วยอำนาจศาลเตี้ยในโลกยุคสมัยใหม่ แต่ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจท้องถิ่นเปิดเผยว่าเป็นการฆ่าตัวตายที่ทำให้ดูเหมือน ถูกประชาทัณฑ์





6. ด็อกเตอร์ จอร์จ ทิลเลอร์ จำเลยจากการทำแท้ง

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการทำแท้ง ชีวิตของ ด็อกเตอร์ จอร์จ ทิลเลอร์ ไม่เคยห่างจากการถูกเล่นงานและการขู่ฆ่า ในปี 1986 คลินิกของเขาถูกวางระเบิด ส่วนเมื่อปี 1993 จอร์จ ถูกยิงที่แขนทั้งสองข้าง ทำให้เขาต้องสวมเสื้อเกราะกันกระสุนและเดินทางพร้อมด้วยสุนัขคุ้มกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา จอร์จ ถูกยิงเข้าที่ศีรษะจนถึงแก่ความตาย ขณะทำหน้าที่พนักงานที่นำไปยังที่นั่งภายในโบสถ์แห่งหนึ่งในเมือง วิชิทอ มลรัฐแคนซัส

ตำรวจได้จับกุมตัว นายสกอตต์ โรเดอร์ ผู้ต้องสงสัยไว้ได้ ซึ่งหลังจากที่ จอร์จ เสียชีวิตลง ได้เกิดการโต้เถียงกันระหว่างฝ่ายที่เห็นด้วยกับฝ่ายที่ต่อต้านการทำแท้ง อย่างดุเดือด จอร์จ กลายเป็นทั้งนักบุญและคนบาปในสายตาของสองฝ่าย ขณะที่ฆาตกร สกอตต์ โรเดอร์ ยืนยันว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ และจะไม่เปลี่ยนคำให้การ แม้ว่าเจ้าตัวจะเคยบอกกับสื่อว่าเป็นคนฆ่า ทิลเลอร์ เองก็ตาม





7. สังหารหมู่ที่ทาโคมา

มัว ริซ เคลมมอนน์ ผู้ก่อคดีสังหารโหดที่ทาโคมา เริ่มฉายแววตั้งแต่เขามีอายุได้ 16 ปี ซึ่งเขาถูกสั่งจำคุก 30 ปี จากคดีลักทรัพย์ และก่อความรุนแรง ในเมืองลิตเติล ร็อค มลรัฐอาคันซอร์ แต่ในเดือนพฤษภาคมปี 2000 หลังจากใช้ชีวิตในคุกมา 11 ปี มัวซิซ เขียนจดหมายถึงผู้ว่าการรัฐอาคันซอร์ ไมค์ ฮัคคาบี โดยอ้างว่าในชีวิตนี้เจ้าตัวยังไม่ได้ทำอะไรเพื่อพระเจ้าเลย จึงขอความเมตตาเพื่อให้ได้กลับตัวกลับไปใช้ชีวิตใหม่ ซึ่งไมค์ก็ลดโทษให้ทำให้ มัวริซ ได้ออกมาจากคุก

อย่างไรก็ตาม มัวริซ ไม่เคยปรับปรุงตัว เข้ายังคงใช้ชีวิตแบบเดิมๆ และเข้า-ออกเรือนจำอยู่เป็นประจำ ทั้งยังหลอกคนอื่นว่าเขาเป็นผู้มาโปรดโลกที่จะเป็นที่ยอมรับแม้กระทั่ง ประธานาธิบดีบารัค โอบามา จนกระทั่งวันที่ 29 พฤศจิกายน มัวริซ เดินเข้าไปในร้านกาแฟและยิงตำรวจ 4 นายเสียชีวิต ตำรวจออกไล่ล่าเขา และเพียง 2 วัน ชีวิตของ มัวริซ จบลงเนื่องจากโดนตำรวจยิงตาย





8. แอนนี เล เจ้าสาวผู้สาบสูญ

ในตอนแรกที่มีข่าวว่า แอนนี เล ผู้สำเร็จการศึกษาจากขณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยล หายตัวไป เป็นแค่เรื่องเล่นตลกของคนที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์เท่านั้นแต่หลังจากที่ เล หายตัวไป 1 วัน ศพของสาววัย 24 ปี ผู้นี้ถูกพบในห้องทดลองของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันแต่งงานของเธอพอดี

ผู้ต้องสงสัย เรย์มอน คลาร์ก ช่างวัย 24 ปี ถูกพบว่าเข้า-ออก ตึกที่ เล เสียชีวิตเป็น 10 ครั้งในวันที่ เล หายไป แถมยังมีรอยแผลน่าสงสัยตามหน้าอก, แขนและหลังอีกด้วย โดย คลาร์ก ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 17 กันยายน ในข้อหาฆ่าคนตาย แต่ยังไม่ได้ให้การในชั้นศาล





9. เบิร์ด และเมนาลี บิลลิงส 2 นักบุญผู้จากไป

เศรษฐีสองสามี-ภรรยาจาก เพนซาโคลา มลรัฐฟลอริดา เบิร์ด และเมนาลี บิลลิงส ผู้ซึ่งรับเลี้ยงดูเด็กพิการหลายสิบคน ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมโดยกลุ่มคนซึ่งแต่งชุดดำเหมือนนินจา ที่บ้านของตนเอง โดย เบิร์ด วัย 66 ปี ถูกยิงที่ศีรษะ 3 นัด และที่ขาอีก 1 นัด ส่วนเมลานีภรรยาของเขา ถูกยิงที่ศีรษะ 2 นัด และที่หน้าอก 2 นัด ต่อหน้าต่อตาบุตรบุญธรรมทั้ง 9 คน (ครอบครัวบิลลิงสมีบุตรทั้งหมด 17 คน โดย 13 คนเป็นเด็กพิการเช่น ดาวน์ซินโดรม)

ลีโอนาร์ด ปาทริค กอนซาเลซ จูเนียร์ อดีตครูฝึกสอนคาราเต้ ตกเป็นผู้ต้องสงสัย โดยนายอำเภอท้องถิ่นเชื่อว่า เป็นการสมรู้ร่วมคิดเพื่อกำจัด เบิร์ด บิลลิงส เนื่องจาก เบิร์ด เปิดบริษัทให้กู้ยืมเงิน ขณะที่ชายอีก 6 คน ถูกจับในข้อหาร่วมมือฆ่าคนตายเช่นกัน แต่ทั้งหมดปฏิเสธข้อกล่าวหาโดยบอกว่า กอนซาเลซ เป็นคนลงมือเพียงคนเดียว





10. การกลับมาของ "พิซทากอส"

"พิซทากอส" เป็นเรื่องเล่าในตำนานแถบเทือกเขาแอนดีส เกี่ยวกับปีศาจซึ่งมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับผีดูดเลือด ที่ฆ่านักเดินทางเพื่อขโมยไขมันในร่างกาย แต่ใครจะเชื่อว่าในยุคนี้จะยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง

อย่างไรก็ตาม ข่าวที่แพร่สะพัดไปทั่วโลกนี้ทำให้ผู้คนต้องนึกถึง "พิซทากอส" อีกครั้ง หลังจากตำรวจเปรูจับกุมแก๊งที่ฆ่าคนเพื่อขโมยไขมันในร่างกาย โดยเชื่อว่าไขมันถูกนำไปขายให้กับบริษัทเครื่องสำอางในยุโรป แต่หลายบริษัทเครื่องสำอางยังกังขากับสมมติฐานนี้ เนื่องจากตลาดวัตถุดิบเครื่องสำอางนี้เป็นตลาดขนาดเล็ก

แต่เมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกายน บรรดานักข่าวท้องถิ่นได้ตั้งคำถามถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่า คดีนี้เป็นการบิดเบือนความสนใจของประชาชนจากเหตุการณ์สำคัญอื่น ๆ หรือไม่ เช่น ข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
(ไทยรัฐ)

http://hilight.kapook.com/view/45111

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ