วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2553

สุดยอดหนังแอ็กชั่นน่าเก็บของปี 2009...!!!

สุดยอดหนังแอ็กชั่นน่าเก็บของปี 2009...!!!

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
.....

ปีที่ผ่านมานี้เป็นปีที่น่าจดจำสำหรับหนังแอ๊คชั่นระดับมันส์ระยับทั้งจาก ฝั่งตะวันตกและตะวันออก ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่สนุกมากและน่าที่จะหาหนังเหล่านี้มาเก็บไว้ดู เพราะ มันดูได้หลายรอบ ขนาดดูวนกันแหลกเหมือนดูหนัง HBO ก็ยังรู้สึกว่ามันสนุกได้ทุกครั้งเหมือนกัน

ต้องบอกอีกอย่างนะครับว่า หนังเหล่านี้อาจจะไม่ใช่หนังดีชนิดที่นักวิจารณ์ชอบมาก หนังที่แนะนำนี้เป็น 'หนังตลาด" ครับ และจะว่าไปก็อาจจะทำเงินมาจากทั่วโลกแล้ว เพราะตัวผมเองก็ไม่ได้เป็นนักวิจารณ์หนัง ผมแนะนำเรื่องเหล่านี้เพราะมันทำให้เราลุ้นได้ตลอดและคุ้มค่าเงิน โดยเฉพาะถ้าเผื่อชอบหนังแอ๊คชั่น...รับประกันได้ว่า คุณต้องสนุกกับหนังเหล่านี้จนลืมกลืนน้ำลายทีเดียว

1. X-Men Origins Wolverine พูดถึงหนังแอ๊คชั่นไซไฟที่สร้างจากการ์ตูนจนออกมากันเกร่อนั้น ที่ทำออกมาได้มันส์ระยับ เป็นเหตุเป็นผลไม่มีผิดหวังเลยแม้แต่ภาคเดียว สัดส่วนของแอ็กชั่นกับดราม่าดีเยี่ยมก็คือ X-Men นี่แหล่ะ และการก้าวย้อนไปสู่อดีตของตัวละครเด่นอย่างวูล์ฟเวอร์รีนคือการต่อยอดที่ เจ๋งมาก งานนี้ปริศนาทุกอย่างกระจ่าง แถมความมันส์ยิ่งกระหึ่มกว่าเดิมๆเสียอีก เพราะกระมาเพิ่งเคยเห็นวูล์ฟเวอร์รีนโดนกระทืบกระดูกหักเป็นครั้งแรก งานนี้ยังเป็นการขยายความของความสัมพันธ์ในตัวละครที่กระจ่างแจ้งยิ่งนักไม่ ว่าจะเป็นการที่พระเอกของเราความจำเสื่อม หรือตัวร้ายอย่างเซเบอร์ทูซในฐานะพี่น้องกับพระเอกเรา และสุดท้ายการเปิดตัวของแกมบิตจอมขโมยมหาพลังสุดเท่ห์ที่ตามเรื่องการ์ตูน นั้นแกได้เป็นแฟนกับโร้คในเวลาต่อมา...งานนี้บู๊กันตั้งแต่ต้นยันจบ และทำให้หลายคนต้องตามต่อว่าซีรีส์เอ๊กซ์เมนนี้จะทำได้ดีกว่านี้อีกไหมในภาค หน้า

2. Transformers: Revenge Of The Fallen ภาคต่อของหุ่นยักษ์หักตัวได้ ภาคนี้เด็กวัยรุ่นบอกว่ามันส์มากตอนอยู่ในโรง แต่สำหรับคนอายุ 30 กว่าๆ ที่ออกจากโรงมาบอกว่ามึนครับ เพราะ หน้าหุ่นผู้ร้ายมันคล้ายๆกันหมดเลย ตัวผมเองดูทางดีวีดีอยู่บ้านก็ว่ามันส์ดี เรื่องราวของการตามหาปริศนามหาพลังที่จะทำให้ไอ้พวกวายร้ายดีเซ็ปติคอนส์ ทั้งหลายทั้งปวงยึดครองโลกได้สำเร็จ การร่วมมือระหว่างมนุษย์กลุ่มเดิมและเผ่าพันธ์หุ่นยนตร์ออโต้บ็อตตัวดีจึง บังเกิดขึ้นอีกรอบ ภาคนี้ถล่มกันมากกว่าภาคแรก หุ่นน่าเกลียดก็มีมากกว่า การทำลายล้างก็เยอะกว่า คุ้มค่าทั้งสเปเชี่ยลเอฟเฟคท์และความมันส์และความเซ็กส์ซี่ที่น้อง เมแกน ฟ็อกซ์ แถมมาให้

3. Crow Zero II นานๆจะมีหนังประเภทกระทืบกันไปและคนดูก็รู้สึกขำไป หรือ ชกกันหน้าแหกแล้ว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกหดหู่อะไรกับเลือดเนื้อและเสียงกระดูกที่หักเหล่านั้น ...ถ้าคุณยังไม่เคยเจอหนังแอ๊คชั่นอารมณ์ขันแนวเลือดสาดนี้ ผมขอแนะนำเรื่องจากญี่ปุ่นนี้ไว้ในอ้อมใจอีกเรื่อง นี่คือหนังที่สร้างมาจากการ์ตูนแนวลูกผู้ชายของญี่ปุ่นที่ดังมากที่สุด เรื่องหนึ่งอย่าง Crow ชื่อไทยคือ “เรียกข้าว่าอีกา” ทว่าในภาคหนังนี่เป็นเรื่องราวก่อนที่จะเกิดขึ้นในการ์ตูน เนื้อเรื่องว่าด้วยโรงเรียนซูซูรันที่เป็นโรงเรียนนักเลง อุดมไปด้วยแก๊งค์ แต่ก็ไม่มีใครจะพาแก๊งค์ของตัวเองลุกขึ้นมาครองโรงเรียนได้สำเร็จ

ภาคแรกนั้นหนังเน้นไปที่พระเอกคือ เกนจิ สร้างแก๊งค์เขาขึ้นมาได้อย่างไรซึ่งก็มันส์โคตรๆ แล้ว ภาคสองนั้นเป็นเรื่องของโรงเรียนคู่แค้นที่ยกพวกมาถล่มโรงเรียนซูซูรัน หนังอุดมไปด้วยการต่อสู้ของลูกผู้ชาย เลือด น้ำตา อารมณ์ขันที่ดูเถื่อนๆ ดิบๆ บ้าๆ (แถมของสวยๆ อย่าง คุโรกิ เมอิสะ ที่ออกมาแว้บๆ แต่เธอสวยดี) ผู้กำกับของเรื่องคือ จอมซาดิสต์อย่าง ทาเคชิ มิเกอิ ที่เคยทำหนังเลือดสาดอย่าง DOA, Ichi The Killer, One Miss Call ,Sukiyaki Western มาแล้ว...รับประกันว่าเมื่อดูจบแล้วคุณจะรู้สึกตัวเบาหวิวอย่างประหลาด

ยังมีอีกครับสำหรับหนังแอ๊คชั่นชั้นเลิศที่ออกมาในรอบปีนี้และอยากจะแนะนำไว้ให้เก็บไปดูที่บ้านกัน

4. Quantum Of Solace ฮ่าๆๆๆ นี่คือ เจมส์ บอนด์ ฉบับที่ต่อเนื่องมาจากภาคแรก Casino Royale ความจริงเรื่องนี้เป็นหนังที่ออกฉายเมื่อปี 2008 แต่ดีวีดีลิขสิทธิ์ออกเมื่อกุมพาพันธ์ 2009 นะครับ เป็นเจมส์ที่ไม่ค่อยมีอารมณ์ขัน เป็นเจมส์นักฆ่าหน้าเหมือนนักมวยปนนักกล้าม ไร้หัวใจ เยือกเย็น และโหดเหี้ยม แถมหน้าแกก็แหกบ่อยๆเพราะโดนฝ่ายตรงข้ามกระทืบ แต่จะว่าไปนักอ่านนวนิยายจำนวนมากบอกว่า แดเนี่ยล เคร็ก แกเป็นเจมส์ บอนด์ ที่ดูเหมือนจะถอดออกมาจากนวนิยายของ เอียน เฟลมมิ่ง มากที่สุดแล้ว เรื่องนี้หลายคนที่ติดเจมส์ยุคเก่า(ยุคหล่อ ขำ มีเซ็กส์บ่อย) จะบอกว่าไม่ค่อยหนุก เพราะ เนื้อหาจะโฟกัสอยู่แค่การตามล่าขบวนการถล่มโลกที่เป็นภัยต่อทุกคนโดยฝีมือ ของพี่เจมส์ ซึ่งสร้างความแค้นไว้ให้แกตั้งแต่ภาคแรก คนดูจำนวนมากบอกว่าเหนื่อยกับการตามล้างตามล่าของพี่เจมส์เรา แต่ผมชอบ เพราะฉากแอ๊คชั่นล้างผลาญดีมาก เครื่องไม้เครื่องมือไฮเทคก็ไม่ค่อยมี จุดศูนย์กลางของการไล่ล่ามาอยู่ที่คน ความบ้าบิ่นและไหวพริบมากกว่า

ที่สำคัญองค์กรร้ายในเรื่องนี้มันก็เอาจริงเอาจังกับการยึดครองโลกและเน้น ปฏิบัติการแทรกซึมเข้าไปในองค์กรของประเทศมหาอำนาจทั้งหลายอย่างที่ไอ้ตัว มหาวายร้ายจริงๆมันจะทำ...การบันทึกเสียงระหว่างฉากแอ็คชั่นก็ดี และมีช็อตจดจำได้น่าประทับใจอยู่เยอะ ศัตรูของแกก็เป็นประเภทมหากาฬทั้งสิ้นไล่ตั้งแต่หัวขบวนยันตัวกระจ๊อก ไม่แปลกใจที่มีข่าวว่าแกเสียฟันไปตั้งสองซี่จากฉากแอ๊คชั่นถึงลูกถึงคนเหล่า นี้นะครับ

5.Taken (นำแสดงโดย เลียม นีสัน) จะว่าไปนี่คือ องค์บากที่พระเอกไม่ได้ถามว่า“องค์บากอยู่ไหน” แต่ถามว่า “ลูกกูอยู่ไหน” !! เรื่องนี้ไม่แน่ใจว่ามีเข้าฉายในโรงบ้านเราหรือเปล่า แต่นี่คือเรื่องที่มันส์ระยับชนิดที่เรียกว่า นอนๆดูอยูต้องลุกขึ้นนั่งกันทีเดียว...เรื่องราวของอดีตนักกวาดล้างเก่าของ ซีไอเอที่ยอมเกษียณก่อนกำหนดเพื่อมาอยู่ใกล้ลูก แต่สุดท้ายลูกสาวดันโดนแก๊งค์ลักพาตัวไปขายเป็นโสเภณี เขามีเวลาแค่ 96 ชั่วโมงที่จะตามหาลูกให้เจอ ที่หนักกว่านั้นเพราะหมอนี่เป็นคนอเมริกา แต่การโดนลักพาตัวนั้นเกิดขึ้นในปารีส พระเอกของเราจะทำสำเร็จหรือไม่ แถมแก๊งค์บ้านี่ก็เป็นแก๊งค์อภิมหาเลวเสียด้วย... หนังเรื่องนี้กำกับโดย Pierre Morel แต่เขียนบทโดย ลุค เบสซอง เข้าใจว่าอาจจะได้อิทธิพลมาจากองค์บากด้วยซ้ำไป ข้อที่แตกต่างก็คือ บทภาพยนตร์และการแสดงของ เลียม นีสัน ที่ทรงพลังกว่าเยอะ พล็อตเรื่องและฉากแอ๊คชั่นผูกกันได้แบบไม่มีอะไรค้างคาในใจ (สไตล์เดียวกับ เจสัน บอร์น นะครับ) แถมยังมีประโยคเด็ดๆตอนพี่เลียมลงมือฆ่าไอ้วายร้ายทั้งหลายอีกเพียบ จนการตายของพวกเป็นเป็นความหฤหรรษ์ที่คุ้มค่า ....10 ดาวสำหรับความมันส์ครับ

6. Terminator Salvation หลังจากฟอร์มตกน่ากลัวในภาค 3 นี่คือการกลับมาของคนเหล็กที่สนุกมากอีกตอนหนึ่ง แถมยังทำให้ ทรนง ศรีเชื้อ ต้องหงุดหงิด เพราะ ตอนเข้าโรงคนดูเลือกที่จะไปดูเรื่องนี้มากกว่าหนังซึนามิของเขา จอห์น คอนเนอร์ ที่รับบทโดย คริสเตียน เบล ก็ยังเท่ห์กว่าภาคสามไม่ติดฝุ่น เทคโนโลยี่ทางด้านภาพทำให้หุ่นเหล็กทั้งหลาย (และหลายรูปแบบ) โผล่ออกมาโซ้ยมนุษย์อย่างเมามันส์ ทว่าก็ไม่ใช่เครื่องจักรจะไล่ฆ่ามนุษย์อย่างเดียว เพราะฝั่งมนุษย์ก็มีแนวคิดในการรับมือกองทัพเครื่องจักรเหมือนกัน แถมยังเพิ่มตัวละครที่เป็นหุ่นยนตร์ที่มีหัวใจเป็นมนุษย์เพิ่มเข้ามาอีก ...งานที่คนดูหลายคนมีความรู้สึกเอาใจช่วยฝั่งหุ่นยนต์ครับ เพราะ ใจมนุษย์นั้นเหี้ยมแบบไม่มีระบบกันทีเดียว

7. GI Joe หนังสร้างจากการ์ตูนตุ๊กตุ่นที่ฮิตมากในสมัยก่อน เรื่องของกองทัพลับๆที่ถูกสร้างขึ้นมาจากทหารเด็ดๆทั่วโลกเพื่อสู้กับมหาวาย ร้ายที่ต้องการมายึดโลก ตอนเป็นการ์ตูนผมไม่ชอบเท่าไหร่ แต่พอมาเป็นหนังถือว่าดีกว่าที่คิดไว้เยอะครับ แม้บทจะไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น แถม CG ยังไม่ค่อยเจ๋งเท่าไหร่โดยเฉพาะเทียบกับ Terminator มันดูเป็นการ์ตูนเหลือเกิน แต่ฉากแอ๊คชั่นถือว่าตูมตามและโอเคมากเลยครับ สตีเฟน ซอมเมอร์ กำกับออกมาได้ฮาๆดี ถ้าจะหาหนังที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ก็ดูได้ ผมว่าเรื่องนี้โอเคมากเลยครับ

8. Inglorious Basterd คุณรู้ไหมว่าจริงๆแล้วสงครามโลกครั้งที่สองจบลงที่ไหน...คงเดากันผิดทั้งหมด ถ้ามาเจอกับหนังเรื่องนี้ของ เควนติน ตารันติโน่ เพราะผู้กำกับจอมซาดิสต์เลือกใช้โรงภาพยนตร์เป็นจุดปิดสงครามครั้งนี้ชนิด สะใจ สาแก่ใจ และดิบชนิดไร้ความปราณี !! ตารันติโน่เขียนบทในลักษณะสองเรื่องคู่ขนานกันไปอีกครั้ง เรื่องราวของหน่วยปฏิการอเมริกันเชื้อสายยิวที่อยากสร้างความกลัวให้แก่นาซี ด้วยความโหดและเลวยิ่งกว่าโดยมีหัวหน้าขบวนการเป็นคนอาปาเช่ที่ชอบถลกหนัง หัวเหยื่อมาเก็บไว้ดูเล่น ขณะที่อีกส่วนเป็นเรื่องของสาวชาวยิวที่ต้องการล้างแค้นนาซีที่ฆ่าครอบครัว ของเธอเสียเหี้ยน การล้างแค้นและการฆ่านาซีดันมาเจอกันโดยมิได้นัดหมายในโรงหนังที่สาวยิวคน นี้เป็นเจ้าของ...ใครจะตายบ้าง ขอเชิญลุ้นและขำกับมันได้ครับ

9. Yip Man นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เป็นเครื่องยืนยันว่า หนังแอ๊คชั่นที่ดีต้องมีบทที่ดีคู่ขนานไปด้วยพร้อมๆกัน เรื่องราวของปรมาจารย์มวยหย่งชุนชาวจีนที่ไร้คู่ต่อต้าน ต้องมาเจอกับสภาพที่เขาทำอะไรไม่ได้เพราะ ญี่ปุ่นบุกเข้ามารุกราน คนจีนก็โดนกดขี่ข่มเหงตามระเบียบ โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้แหล่ะที่แม่ทัพของฝ่ายญี่ปุ่นที่บุกมายึดเมืองนี้ ดันบ้าศิลปะการต่อสู้ การเผชิญหน้าระหว่างสุดยอดกังฟูชาวจีนกับสุดยอดคาราเต้ญี่ปุ่นจึงต้องมีขึ้น โดยมีศักดิ์ศรีของสองชาติเป็นเดิมพัน...เจิง จื่อ ตัน หรือ ดอนนี่ เหยิน รับบทเป็นยอดกังฟูยิปมัน หรือเยี่ยเหมินได้อย่างงดงาม ฉากการต่อสู้ทุกฉากทำได้สวยงาม รุนแรง น่าทึ่ง สนุกและเป็นที่จดจำได้ (คนทำองค์บาก 2 น่าจะดูไว้เป็นตัวอย่าง ว่าการต่อสู้มากมายที่ยัดเข้ามาและไม่มีเนื้อหามันไม่ทำให้คนดูจดจำได้และ กลายเป็นการทำงานมากแต่ได้น้อยอย่างอย่างน่าเสียดาย)

10 .Star Trek จงลืมความน่าเบื่อและนิ่งๆ การพูดจาภาษาดอกไม้ เต็มไปด้วยเหตุผล และระเบียบจ๋าที่เคยได้ผ่านตาและผ่านหูจาก Star Trek เวอร์ชั่นเก่าๆให้หมด นี่คือ Star Trek ที่สนุกที่สุด ดุเดือดที่สุด มันส์ที่สุด เท่ห์ที่สุด ตั้งแต่เคยดูมา JJ Abrams กำกับเรื่องราวการรวมทีมของยานอวกาศในตำนานได้สนุกสนานมากครับ เพราะ มันแอ๊คชั่น ผจญภัย กันลืมหายใจทั้งเรื่อง แถมสไตล์หนังคู่หูมีปัญหา (เหม็นหน้ากัน- แนวคิดต่างกัน-เจอวิกฤติร่วมกัน-นับถือกัน-ซี้กัน) ระหว่าง กัปตันเคิร์กผู้เชื่อมั่นว่าไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้ และต้นหน คือ สป็อคจากดาววัลแคนนักวิเคราะห์ที่ทำอะไรต้องมีเหตุผลตลอดก็ดูโฉ่งฉ่างชะมัด ยาด แต่มันก็เหมาะสมดี หนังนำเสนอออกมามันแตกต่างไปจาก สตาร์เทรค ที่เราคุ้นเคย...ตัวละครแต่ละตัวก็เปลี่ยนไป และมันทำให้ยาน เอนเตอร์ไพรซ์ กลายเป็นศูนย์รวมของความห่ามและเด็กแนว


http://mgr.manager.co.th/Entertainment

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ