วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2553

ผู้เชี่ยวชาญเตือนอาจเกิดสึนามิรุนแรงเท่าปี 47 ถล่มเกาะสุมาตรา

ผู้เชี่ยวชาญเตือนอาจเกิดสึนามิรุนแรงเท่าปี 47 ถล่มเกาะสุมาตรา



.....



ผู้เชี่ยวชาญเตือนอาจเกิดสึนามิรุนแรงเท่าปี 47 ถล่มเกาะสุมาตรา
ผู้ เชี่ยวชาญเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิรุนแรงเทียบเท่าปี 2547 อาจพัดเข้าถล่มเกาะสุมาตรา โดยเฉพาะเมืองปาดังอาจเผชิญภัยพิบัติอย่างเต็มที่

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ออกมาเตือนนี้นำโดย ศ.จอห์น แมคคลอสคีย์ แห่งสถาบันวิจัยนิเวศน์วิทยาแห่งมหาวิทยาลัยอัลส์เตอร์ ไอร์แลนด์เหนือ

ผู้เคยทำนายว่าจะเกิดแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตราของอินโดนีเซียมาแล้วในปี 2548 ได้ออกคำเตือนผ่านวารสารธรรมชาติธรณีวิทยาระบุว่า แผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นและทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามินี้ จะมาจากแรงกดดันที่สะสมมานานกว่า 200 ปี บริเวณที่เรียกันว่า ซุนดา เทรนช์ หรือแนวที่แผ่นเปลือกโลก 3 แผ่น มาชนกัน คือ แผ่นอินเดีย แผ่นออสเตรเลีย และแผ่นพม่า ซึ่งแนวดังกล่าวขนานกับชายฝั่งเกาะสุมาตราตะวันตก โดยความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นนั้นจะมากกว่า 8.5 ริกเตอร์ ความสูญเสียจะเทียบเท่ากับอุบัติภัยคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี 2547อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ในบทความไม่ได้ระบุวันเวลาที่จะเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ขึ้น

แต่เตือนว่าจุดที่จะได้รับอันตรายมากที่สุดก็คือเมืองปาดังของอินโดนีเซีย ที่มีพลเมือง 850,000 คน ศ.แมคคลอสคีย์ ได้เคยเตือนไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2548 ว่า แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 อันก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิครั้งใหญ่นั้น ได้ทำให้เกิดแรงกดดันและจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.5 ริกเตอร์ ได้ในเร็ว ๆ นี้ และวิงวอนให้รัฐบาลอินโดนีเซียเตรียมแผนรับมือไว้ให้ดี การคาดการณ์ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวนั้น ตามหลักวิชาทางธรณีวิทยาและแผ่นดินไหวนั้นอาจคาดการณ์ได้ แต่การทำนายถึงช่วงระยะเวลาที่จะเกิดขึ้นนั้นไม่อาจกระทำได้ แต่กระนั้นในวันที่ 28 มีนาคม 2548 ก็เกิดแผ่นดินไหวในบริเวณเกาะซิมิวลิว ขนาด 8.6 ริกเตอร์ และทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูง 3 เมตร ขึ้นจริงตามคำทำนายของ ศ.แมคคลอสคีย์

สำหรับ คำเตือนแผ่นดินไหวครั้งใหม่นี้ คณะผู้เชี่ยวชาญของ ศ.แมคคลอสคีย์ ระบุว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ชานเมืองปาดัง เมื่อวันที่ 30 กันยายนปีที่แล้ว

คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 1,000 คน นั้นไม่ได้ทำให้แรงกดดันในของเปลือกโลกใต้เกาะซีเบอรัต ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะเมนตาไว ลดน้อยลง แรงกดดันและพลังงานที่อัดแน่นคงยังอยู่เหมือนเดิม ดัง นั้น รัฐบาลอินโดนีเซีย ชาวเมืองปาดัง และนานาประเทศควรร่วมมือกันเตรียมพร้อมกับการเผชิญกับภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ ที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพียงแต่ยังไม่อาจกำหนดได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ