วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553

คำพูดที่ทำให้คุณอาจ ถูกทิ้ง

คำพูดที่ทำให้คุณอาจ ถูกทิ้ง


http://blog.eduzones.com/images/blog/pumpui/20080815165054.jpg


*ขืนพูดเรื่อยเปื่อย ระวังถูกแฟนทิ้ง


9 สิ่งที่คุณไม่ควรบอกแฟน หรือ 9 Things you should never tell your man

จาก เรดบุ๊ก เกริ่นเอาไว้ว่า


แต่ไหนแต่ไรมา ฉันเคยได้ยินปู่ย่าตาทวดพร่ำสอนว่า

โตขึ้นถ้าหนูมีแฟน หากเรื่องบางอย่างเก็บไว้ไม่บอกให้เขารู้ จะส่งผลดีกับชีวิตคู่นะจ๊ะ

...พูดความจริงนะดี


แต่บางทีต้องเลือกเรื่องที่จะพูด บางครั้งไม่พูดก็ใช่ว่าจะผิด

เพราะเรามิได้โกหกนิเนอะ


ใครว่า “แฟน” คือคนที่คุณสามารถพูดอะไรให้ฟังได้ทั้งหมดล่ะก็

ซอรี่/เสียใจด้วยนะหนู ก่อนจะพูด


อะไรกับสุดที่รัก หัดศึกษานิสัยของแฟน ตัวเองซะก่อน เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน



1. อย่าบอกเขาว่า คุณไม่ค่อยชอบแม่ของเขานัก
แม้บางคราวเขาจะตำหนิมารดาตัวเองออกมาก่อน แต่คุณก็ไม่ควรถล่มซ้ำ
แม้จะเป็นการเข้าข้างแฟนของคุณเองก็ตาม ทว่าทำไปก็เท่านั้นแหละ คุณไม่มีวันได้กำไรจากวิธีนี้
อย่างมากก็เท่าทุน ถ้าไม่ขาดทุนก็ดีถมไปแล้ว ไม่เคยได้ยินคำว่า เลือดข้นกว่าน้ำหรือไง

ดังนั้น กฎทองของข้อนี้ก็คือ อย่าเผลอไปวิพากษ์วิจารณ์บุพการีของอีกฝ่ายเข้าล่ะ
ถ้าไม่อยากบ้านแตก รูดซิปปากซะ


2. อย่าบอกว่า เพื่อนซี้ของเขากำลังจีบคุณลับหลัง
ถ้าเขาได้ยินเรื่องแบบนี้ เขาจะไม่คิดแค่ว่า ถูกเพื่อนหักหลังหรอกนะ
ความคิดของคนเราอาจเตลิดเปิดเปิงไปได้ว่า คุณก็คงมีส่วนให้ท่าเพื่อนของเขาอยู่บ้างหละ
เพราะคนเราชอบมองกันในแง่ร้ายไว้ก่อนมิใช่หรือ
โดยเฉพาะสำนวนที่ว่า ถ้าตบมือข้างเดียวแล้วมันจะดังได้อย่างไร

ข้อนี้จะเป็นที่มาให้คู่รักตบตีกันเลยล่ะ ไม่ใช่แค่ตบมือเท่านั้น


3. อย่าสารภาพถึงความรักในอดีต หรือชู้ทางใจที่มีตอนไหนก็ตาม
คุณคิดว่า ในโลกนี้จะมีชายสักกี่คนหรือที่จะใจกว้างยอมรับฟัง “ความสุขเล็กๆ”
หรือ“จินตนาการด้านความรักราวเทพนิยาย” ของฝ่ายหญิง
ต่อให้ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งอย่างจริงจัง เขาก็ทนไม่ได้หรอก แต่อย่ามาสะกิดให้อยากรู้เชียว


4. อย่าเล่าให้เขาฟังว่า เพื่อนหญิงในกลุ่มของคุณมีพฤติกรรมนอกลู่นอกทาง
เดี๋ยวเขาจะหาว่า คุณเสียเวลาไปกับเพื่อนไร้สาระ ทั้งที่หากมองดูเพื่อนของเขาก็ใช่ว่า
จะมีสาระอะไรนัก

กระนั้นถ้าช้างเท้าหน้าเค้าไม่ชอบ ช้างเท้าหลังจะไปขัดใจก็กระไรอยู่



การเปรียบเทียบก็คล้ายการตำหนิอย่างกรายๆ แล้วจะติไปทำไม
หากพูดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว เขาปฏิบัติตัวดีขึ้น สมกับที่เสียน้ำลายไป ก็ขอให้รีบทำ

แต่ถ้าพูดแล้ว เขาก็งั้นๆ ไม่ได้เปลี่ยนอะไรให้มันดีขึ้นไปกว่าเดิม
หนำซ้ำอาจจะประชด ด้วยการทำตัวให้แย่ยิ่งไปกว่าเก่า แบบนี้เขาเรียกเสียเวลาโดยใช่เหตุ


6. อย่าทำให้เขารู้สึกว่า เขาเป็นคนไม่ได้เรื่อง, ไม่เอาถ่าน หรือไม่เอาไหน
ถึงแม้ความจริงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะ แต่คุณเผลอคว้าเขามาเป็นแฟนแล้วนี่น่า
ถ้างั้นคุณก็ ควรเป็นกำลังใจให้เขามากกว่าไปเหยียบจุดอ่อนหรือจุดไต้ตำตอของเขานะ


7. อย่าใช้วิธีขู่ว่าคุณจะ “เลิก” หรือ “หย่า” กับเขา ถ้าคุณไม่แน่จริง
เพราะเขาสามารถใช้โอกาสนี้ทิ้งคุณได้โดยไม่ต้องพะวงหรืออาลัยอาวรณ์อีกต่อไป
คำขู่ ทำนองนี้ใช้ไม่ได้ผลสำหรับคนสหัสวรรษใหม่แล้วนะเจ๊ คนมีคู่ อยากจะกระโจนออกไป
เป็นโสดมีเยอะแยะ

ไม่งั้นจะได้ยินคำว่า คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า หรอกรึ


8. อย่าให้เขารู้สึกว่า ฝ่ายหญิงประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานล้ำหน้ากว่า
ผู้ชายที่ไม่ได้หวังเกาะผู้หญิงกินจะประสาทเสียทันทีที่ได้ยินว่า เงินเดือนของฝ่ายหญิงสูงกว่า
แม้เขาจะบอกว่า ภูมิใจในตัวเธอมากก็ตาม แต่ลึกๆ ใครจะไปรู้เล่า


9. ถ้าคุณบ่นว่า ญาติโยมของเขาทำไมชอบมายุ่งกับเขาจังนะ
รู้ไหมว่า เขาก็รู้สึกแบบเดียวกันนี้กับญาติของคุณเช่นกัน



http://www.applesayhi.com/images/column_1225706209/lee%20wan4.jpg



รู้แล้วก็ลองๆสำรวจดูว่าคนรักของคุณเป็นแบบไหนกันแน่

เรื่องบางเรื่องที่เราเสนอ ก็ไม่ใช่ทั้ง 9 หรอกที่เขาจะรับไม่ได้
เพียงแต่อาจต้องมองดูนิสัยคนรักของตัวเองนิ๊ดหน่อย
ทริคเล็กๆแต่ทำให้รักกันนาน อย่างที่เขาว่า คิดก่อนพูด .......ระวังอย่าหลุดปากออกมาเชียว.


เห็นหลายๆ ข้อแล้ว สรุปอยู่เป็นโสดดีกว่าไม๊



ที่มา forword mail

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ