วันพุธที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

คนดี...เป็นอย่างไร

คนดี...เป็นอย่างไร



โดย. เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์


กาลครั้ง หนึ่งเนิ่น นานมาแล้ว มีสระแก้ว กลางป่า อยู่สระหนึ่ง
น้ำใสใส ไหลเซาะ อยู่ลึกซึ้ง ทั้งฝูงผึ้ง ภุมริน บินตอมบัว
บัวชมพู บัวแดง ก็แฝงฝัก ดอกบัวขาว พราวพรัก อยู่พร้อมทั่ว
ผีเสื้อสวย มากมาย มีหลายตัว เข้าพันพัว บัวสาย ในสระนั้น

ลม เย็นเย็น เป็นระยะ ระรินรื่น อากาศชื่น ฉ่ำใจ ในป่านั่น
ใน สระนี้ มียักษ์ ตัวสำคัญ ซึ่งเทวัญ ท่านปราบ แล้วสาปไว้
แม้ ผู้ใด หลงป่า มากินน้ำ ลงผุดดำ ว่ายเล่น ในสระใหญ่
จงจับ ตัว กลืนกิน เสียทันใด เว้นแต่ใคร มีปัญญา อย่าเพิ่งกิน

เจ้า จงถาม ปัญหา ให้เขาตอบ ใครตอบผิด คิดมิชอบ จงกินสิ้น
ใครตอบ ถูก เจ้าจะพ้น ซึ่งมลทิน ออกจากถิ่น นี้ได้ ในทันที
ยักษ์ ต้องสาป หลับใหล อยู่ในสระ เป็นระยะ เวลา ช้าเหลือที่
ถ้าจะ นับ ก็ไม่น้อย กว่าร้อยปี ยังไม่มี ใครสักคน พ้นมือยักษ์

โจร ใจบาป หยาบช้า ผ่านมาถึง เข้าเด็ดดึง ดอกบัว ทั้งใบฝัก
ตะกราม แกะ กินเม็ด เอร็ดนัก แล้วเอื้อมวัก น้ำลูบ ชโลมตัว
พลัน ยักษ์ตื่น โผล่ตน ขึ้นพ้นสระ เอื้อมมือปะ ป่ายปับ เข้าจับหัว
เจ้า โจรร้าย ตัวสั่น หวั่นระรัว กลัวแล้วกลัว แล้วจ้า อย่าทำเลย

ฝ่าย ยักษ์ร้อง ก้องฟ้า เจ้าหน้าโง่ ข้าหิวโซ ทรมาน นานแล้วเหวย
วันนี้ ได้ เนื้อหนัง คนสังเวย นี่แน่ะเฮ้ย มีปัญญา ตอบมาไว
ถ้า แม้ตอบ ได้สิ้น ไม่กินเจ้า แต่ถ้าตอบ ผิดเค้า ไม่เอาไหน
ข้า จะทึ้ง คอหัก ควักหัวใจ แล้วยักษ์ใหญ่ แลบลิ้น ออกเลียโจร



ปัญหา ว่า “คนดี เป็นอย่างไร” ตอบไวไว อย่าช้า ว่านี่โน่น
โจรตัว สั่น งันงก ถูกยกโยน แหกปากร้อง ตะโกน ตะกุยตะกาย
คนดี คือ คนขยัน หมั่นหาทรัพย์ ยักษ์สำทับ เจ้าตัวโต แต่โง่หลาย
ตอบ เข้าท่า แต่ถึงครา จะต้องตาย คนขยัน มากมาย ใช่คนดี

คน คดโกง เกเร คนขายชาติ คนอุบาทว์ ทำชั่ว มีทุกที่
คนขยัน เจ้าเล่ห์ เสเพลมี อย่างเจ้านี้ ขยันทำ กรรมชั่วช้า
ว่า แล้วยักษ์ หักคอ แล้วเคี้ยวกิน อร่อยลิ้น เลือดคน เจ้าโจรป่า
จนวันหนึ่ง พระธุดงค์ เดินตรงมา วักน้ำล้าง หน้าตา และเนื้อตัว

เจ้ายักษ์ใหญ่ โผล่ตน ขึ้นพ้นสระ มองเห็นพระ นึกว่าคน ที่โกนหัว
เอื้อมมือจับ จีวร ร้อนระรัว พระไม่กลัว ยักษ์ขยาด ชักหวาดเกรง
ท่านเป็นใคร ไยจึง มาถึงนี่ ตอบปัญหา ข้าที หากท่านเก่ง
ถ้าตอบพลาด ผิดเค้า เข้าตัวเอง ท่านจงเร่ง หลับตา เตรียมตัวตาย

ปัญหา ว่า “คนดี เป็นอย่างไร” ท่านจงตอบ เร็วไว ให้ความหมาย
พระ นั่งนิ่ง ภาวนา สาธยาย เจ้ายักษ์ร้าย แลบลิ้นเลีย เงี่ยหูฟัง
“คน ไม่เห็น แก่ตน คือคนดี” พลันแสงสี สุนีบาตร ก็ฟาดฝั่ง
บังเกิด พายุกล้า มาประดัง คำสาปสั่ง พ้นสิ้น ยักษ์ยินดี

เข้า ประณม ก้มกราบ หมอบราบพื้น ข้าได้ฟื้น คืนตน พ้นจากนี่
เพราะ ท่านให้ คำตอบ ชอบช่วยชี้ ร้อยพันปี รอเวลา ท่านมาถึง
พระ กล่าวย้ำ คำตอบนี้ มีความหมาย ควรภิปราย ตรองตรึก ให้ลึกซึ้ง
ยักษ์ เอ่ยปาก ฝากชีวิต คิดหวังพึ่ง กราบแล้วจึง หายวับ ไปกับตา


คน ดี

คนดี ก็คือคนที่ประกอบกรรมดี ทั้งกาย วาจา และ ใจ
งดหรือละเว้น กรรมชั่ว ทั้งกาย วาจา และใจ
ประพฤติตน อยู่ใน ศีล ในธรรม
รู้จักแบ่ง ปันสิ่งดีดีให้กับผู้อื่น
และรู้จักเจริญสติ เพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจอย่างต่อเนื่อง
หรือ ที่เรียกว่า ศีล ทาน และภาวนา นั่นเอง
ไม่มีใครหรอก ที่ไม่เคยกระทำความผิด ทำความชั่ว
เพียงแต่ ใครจะคิดได้และเริ่มต้นทำความดี ละความชั่ว
หาก เราคิดจะเริ่มต้นในการเป็นคนดี การทำความดี
สร้างบุญ ละบาป เพื่อความสุขในชีวิตของเรา แล้วล่ะก้อ
ขอแนะนำให้เริ่มที่การ ละเว้นความชั่ว ละเว้นบาป กันเสียก่อน
ทางพุทธศาสนา เรียกว่า อกุศลกรรมบถ 10
อกุศลกรรมบถ 10
ทางกาย
1. ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
2. ลัก ทรัพย์
3. ประพฤติผิดในกาม
ทางวาจา
4. พูดเท็จ
5. พูด ส่อเสียด
6. พูดหยาบคาย
7. พูดเพ้อเจ้อ
ทางใจ
8. มี ความโลภ
9. มีความพยาบาท ความโกรธ
10. มีความเห็นผิด


การ งดเว้นพฤติกรรมแห่งการสร้างบาป ทั้งกาย วาจา และใจ นั้นสำคัญมาก
และเป็น จุดเริ่มต้นในการทำความดี ในการเป็นคนดี



ส่วนการเป็น คนดี การทำความดี การสร้างบุญ นั้น ให้เริ่มจากการประกอบ บุญกิริยาวัตถุ 10
บุญกิริยาวัตถุ 10
ทาน

1. การทำทาน
2. การอุทิศบุญ กุศลให้ผู้อื่น
3. การยินดีหรืออนุโมทนาความดีของผู้อื่น
ศีล
4. การ รักษาศีล
5. มีความอ่อนน้อมต่อผู้อื่น
6. ช่วยเหลือขวนขวายรับ ใช้ผู้อื่น
ภาวนา
7. การฟังธรรม
8. การแสดงธรรม
9. การ ภาวนา (การนั่งสมาธิ, เดินจงกรม เพื่อเจริญสติ)
10. การทำความเห็นให้ ตรง หรือ มีสัมมาทิฐิ มีความเห็นดี เห็นชอบ


หากเราหมั่นปฏิบัติกรรม ดี และ ละเว้นกรรมชั่ว อย่างสม่ำเสมอ เราจะเริ่มเข้าใจคำว่า คนดี ได้ง่ายขึ้น และหลังจากนั้น เราค่อยศึกษาเพิ่มเติม หมั่นทำบุญ ละบาป สร้างบุญบารมี เพื่อชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า ภพข้างหน้า ต่อไป หลายคนที่ชอบคิดว่า การทำบุญ จะช่วยล้างบาปได้ หรือการแก้กรรม จะทำให้เราหมดกรรมชั่วได้นั้น ความจริงแล้ว กรรม มีทั้ง กรรมดี และ กรรมชั่ว
หากเราทำกรรมดี เราก็จะได้บุญ
หากเราทำกรรมชั่ว เราก็จะได้บาป
บุญและบาป ไม่สามารถรวมกันได้ ลดทอนกันได้ เพียงแต่ การสร้างบุญนั้น อาจช่วยบรรเทาบาปลงได้ ในกรณี ที่บุญที่เราสร้างนั้น ส่งผลออกมาในช่วงที่มีบาปพอดี หรือเลื่อนเวลาที่บาปจะส่งผลต่อชีวิตเราออกไป เท่านั้นเอง
ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุด ก็คือ เลิกทำบาป เสียตั้งแต่วันนี้
บาปกรรมใดก็ตาม ที่เราทำมาทั้งในชาตินี้ หรือ ก่อนหน้านี้ ก็ให้มีเพียงเท่านั้น ยุติเพียงเท่านั้น
มาเริ่มทำความดี ..... เป็นคนดี .... กันเถิด



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ