วันเสาร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2553

เกี่ยวกับโดราเอมอน



กำเนิดโดราเอม่อน

วันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2112 ณ โรงงานผลิตหุ่นยนต์ที่แสนจะทันสมัย

ผู้ ก่อการร้าย 2 คนได้หลบหนีการจับกุมของตำรวจ โดยใช้ยานแล่นผ่านเข้ามาในเขตโรงงานผลิตของเล่น ขณะคนร้ายได้พยายามหลบหนีการจับกุมโดยทำให้ยานล่องหนไปนั้น ก็ได้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้น เป็นเหตุให้กระแสไฟพุ่งตรงเข้าสู่หุ่นยนต์แมวสีเหลืองตัวหนึ่ง

หุ่นยนต์ตัวนั้นเกิดการช๊อตขึ้น และหลุดออกจากวงโคจรการผลิต ร่วงลงบนถังขยะ

ขณะที่ขยะถูกโกยลงสู่เตาเผา หุ่นยนต์แมวสีเหลืองก็กลับมีชีวิต และตกใจรีบกระโจนขึ้นมาแต่ไม่สำเร็จ "ตายแล้ว ตายแล้ว!" หุ่นยนต์แมวร้องลั่น ทันใดนั้นมีหางยาวสีชมพูสดใส มาพันเกี่ยวไว้ได้ทัน

หุ่นยนต์แมวสีเหลือง "โดราเอม่อน" ตกหลุมรัก หุ่นยนต์แมวสาวสีชมพู "โดราเอโกะ" ทันทีที่ได้เห็น

โดราเอโกะดีใจที่ได้พบโดราเอม่อน เธอจับมือโดราเอม่อนพร้อมแนะนำตัวเองว่าเป็นหุ่นระบำ ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
โดราเอโกะ : "พวกเราเป็นหุ่นยนต์แมวเหมือนกัน สามารถออกรับใช้สังคมได้บ้างนะ ขยันๆหน่อยนะ"
โดราเอม่อน : เขินแก้มแดงพร้อมรับปากว่า "ได้ ได้จ้ะ"
แล้วโดราเอโกะก็จากไป

จาก นั้น โดราเอม่อนเข้ารับการอบรมเพื่อเป็นหุ่นยนต์ชั้นเลิศ และต้องผ่านการฝึกฝนร่วมกับหุ่นยนต์ที่ผลิตในรุ่นเดียวกันหลายขั้นตอน แต่โดราเอม่อนก็ทำได้ไม่ดีนัก

โด ราเอม่อน ถูกอาจารย์ใหญ่ผู้ผลิตหุ่นยนต์เรียกพบ เค้าตำหนิที่โดราเอม่อนไม่สามารถ ปฏิบัติการทดสอบได้ดีเหมือนกับเพื่อนหุ่นยนต์แมวตัวอื่น ซึ่งเค้าสันนิษฐานว่าเกิดจาก ขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งในการผลิตที่ผิดพลาด โดราเอม่อนจึงถูกส่งไปเรียนซ้ำชั้น และที่นี่เอง...ที่โดราเอม่อน ได้พบกับโดราเอโกะอีกครั้งหนึ่ง

วันฉลองการเรียนจบของเหล่าหุ่นยนต์ก็ใกล้จะมาถึง โดราเอม่อนนั่งกลุ้มใจกับผลคะแนนสอบ ที่แสนจะน้อยนิดของตนเอง

แต่โดราเอม่อน ก็ยังมีโดราเอโกะเฝ้าคอยปลอบและให้กำลังใจเสมอมา

โดราเอโกะ มีความสามารถในการหยิบสิ่งของในอดีตจากกระเป๋าหน้าท้องได้ เธอจึงหยิบแป้งทอดจากศตวรรษที่ 20 มาให้โดราเอม่อนลอง เพื่อจะได้มีสมาธิมากยิ่งขึ้น เมื่อโดราเอม่อนได้ชิมแป้งทอดนั้น ก็ติดใจในรสชาติอย่างมาก รีบหยิบแป้งทอดออกมาจากกระเป๋าของโดราเอโกะนับชิ้นไม่ถ้วน ทั้งสองหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

ณ งาน Robot Audition ซึ่งเป็นงานที่จัดให้มีการแสดงความสามารถของหุ่นยนต์ที่ได้ผ่านการอบรมแล้ว รายการนี้ได้ถ่ายทอดไปยังสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศ หากบ้านใดต้องการเป็นเจ้าของหุ่นยนต์ตัวไหน ก็สามารถกดปุ่ม OK เพื่อสั่งซื้อหุ่นยนต์ตัวนั้นได้ทันที

หุ่น ยนต์แต่ละตัวทยอยกันแสดงความสามารถด้านต่างๆ ซึ่งทุกตัวก็ได้รับการกดปุ่มคัดเลือกไปเรียบร้อยแล้ว โดราเอม่อนเป็นหุ่นยนต์ที่จะขึ้นแสดงเป็นลำดับสุดท้าย โดยได้รับการประกาศชื่อว่า... "หุ่นยนต์ดูแลเด็ก โดราเอม่อน"
แต่ด้วยความตื่นเต้น การแสดงของโดราเอม่อน จึงมีแต่ข้อผิดพลาด

แสงไฟของเวทีค่อยหรี่ลง ตามเสียงประกาศของโฆษก ที่กล่าวว่า "เวลาใกล้หมดลงแล้วล่ะค่ะ" ครั้งนี้ไม่มีใครกดสัญญาณเลยนะคะ งั้นการแสดงของมนุษย์หุ่นยนต์ในครั้งนี้ ต้องขอจบลงเพียงเท่านี้ค่ะ

โดราเอม่อนผิดหวังอย่างมากที่ไม่มีใครเลือกตน

แต่...ก่อนที่แสงไฟจะมืดสนิทไป สัญญาณไฟ OK ก็ได้ติดขึ้น มีทารกคนหนึ่งกดไฟด้วยตนเอง สร้างความดีใจให้กับโดราเอม่อนยิ่งนัก

เมื่อ โดราเอม่อนได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนั้น จึงได้รู้ว่าที่เค้าได้มาอยู่ที่นี่ก็เพราะว่าเป็นการกดปุ่มผิด แต่พ่อและแม่ของเด็กก็ยินยอมให้โดราเอม่อนอยู่ต่อไป เพราะไม่สามารถส่งคืนได้ โดยโดราเอม่อนมีหน้าที่เก็บกวาด ทำความสะอาดบ้านเพิ่มเติมจากการดูแลทารกน้อยด้วย

โดราเอม่อนดูแลเด็กน้อยเป็นอย่างดี กิน นอน และเที่ยวเล่นด้วยกันตลอดเวลา จนเด็กน้อยคนนั้นเริ่มโตขึ้น

วัน หนึ่งเด็กชายคนนั้น ได้ใช้ดินเหนียวปั้นโดราเอม่อนขึ้นมา แต่หูของรูปปั้นไม่ค่อยเหมือนหูของโดราเอม่อนตัวจริงเท่าใดนัก จึงเปิดลิ้นชักหยิบหุ่นยนต์หนูขึ้นมา พร้อมทั้งบอกว่าให้ช่วยกัดหูโดราเอม่อน ให้รูปทรงเหมือนกับหูของเจ้าหุ่นยนต์หนูหน่อย

เจ้า หนูหุ่นยนต์รับคำสั่งทันที แต่ด้วยความเข้าใจผิด จึงรีบวิ่งตรงไปกัดหูโดราเอม่อนตัวจริง ที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ จนหูแหว่งไป

โด ราเอม่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ขณะหุ่นยนต์แพทย์กำลังทำการรักษา ได้มีแมลงวันบินมาเกาะที่จมูกโดราเอม่อน โดราเอม่อนจึงได้จามขึ้น ทำให้แพทย์ตกใจกดปุ่มรักษาผิด ทำให้เครื่องมือของแพทย์ได้ออกมาตัดหูโดราเอม่อนทั้งสองข้างจนเกลี้ยง

เมื่อ โดราเอโกะ รู้ข่าวว่าโดราเอม่อนป่วยก็รีบมาเยี่ยม ทันทีที่เห็นโดราเอม่อนหัวกลมไม่มีหู เธอก็ขำจนตัวงอ ทำให้โดราเอม่อนเสียใจเป็นอย่างมาก

โด ราเอม่อนเฝ้าถอนใจ เค้าหนักใจในสภาพที่ไม่มีหูของตน แต่เพื่อเสริมกำลังใจให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง จึงหยิบยาเสริมกำลังใจขึ้นมาดื่ม

แต่แทนที่โดราเอม่อนจะมีกำลังใจที่กล้าแกร่งขึ้น กลับกลายเป็นนั่งร้องไห้ฟูมฟายโดยหยุดไม่ได้

โด เรมี่ออกตามหาพี่ชายจนเจอ โดราเอม่อนนั่งซึมอยู่ริมหาด เมื่อได้พูดคุยกันโดเรมี่จึงได้รู้ว่า โดราเอม่อนร้องไห้มาเป็นเวลา 3 วันแล้ว ตัวเลยกลายเป็นสีฟ้า โดเรมี่สอบถามว่าโดราเอม่อนใช้เครื่องมืออะไร ก็ได้รับคำตอบว่าโดราเอม่อนได้ดื่มยาเสริมกำลังใจเข้าไป แต่เมื่อโดเรมี่เหลือบไปเห็นขวดยาที่ตกอยู่ ก็ได้บอกโดราเอม่อนว่า ยาที่โดราเอม่อนดื่มเข้าไปนั้น คือยาโศกเศร้าต่างหาก

โด ราเอม่อนตกใจมาก แต่เมื่อโดเรมี่บอกว่าชิมาซึตะ เด็กชายที่โดราเอม่อนดูแล กำลังตามหาโดราเอม่อนอยู่ และกำลังหลงทางด้วย โดราเอม่อนจึงรีบหยิบยาเสริมกำลังใจขึ้นมาดื่มทันที แต่ปรากฏว่าดันหยิบยาระเบิดทันทีขึ้นมาดื่มเสียอีก -_-'

ขณะที่ชิมาซึตะนั่งซึมคิดถึงโดราเอม่อน ยานของ 2 โจรร้ายได้ผ่านมาพบพอดี จึงจับชิมาซึตะไว้เป็นตัวประกัน

โด ราเอม่อนรีบวิ่งมาช่วยชิมาซึตะ แต่ด้วยความบังเอิญโดราเอม่อนบินขึ้นไปอุดท่อไอเสียของยานของโจร ทำให้ยานขัดข้องร่วงตกลงไปค้างอยู่ที่เตาเผาขยะ

และแล้ว 2 โจรนั่นจึงถูกตำรวจรวบตัวไว้ได้ทันควัน ชิมาซึตะดีมากที่ได้พบกับโดราเอม่อนอีกครั้ง แต่โดราเอม่อนก็เอ่ยถามชิมาซึตะด้วยความประหลาดใจว่า "ฉันเปลี่ยนไปขนาดนี้นายยังจำได้อีกเหรอเนี่ย" ชิมาซึตะตอบกลับทันทีว่า "พูดเป็นเล่นไป นายตอนนี้หล่อกว่าเมื่อก่อนซะอีก" แล้วทั้งสองก็โผเข้ากอดกันแน่นด้วยความดีใจ โดราเอม่อนนึกขึ้นได้ รีบควานหากระเป๋าวิเศษ แต่ไม่พบเพราะได้ทำหายระหว่างทาง

โด ราเอโกะนั่งยานมาหาโดราเอม่อน เมื่อทั้งสองได้พบกันโดราเอโกะก็กล่าวขอโทษ ที่หัวเราะเยาะโดราเอม่อนในวันนั้น ตอนนี้โดราเอโกะเห็นว่าโดราเอม่อนสีฟ้าไม่มีหูก็น่ารักดี ทำให้โดราเอม่อนดีใจเป็นอย่างมาก

เทศ กาลวันคริสมาสต์ได้เริ่มขึ้นแล้ว ชิมาซึตะได้มอบตุ๊กตาโดราเอม่อนสีฟ้าน่ารัก ให้โดราเอม่อนเพื่อเป็นของขวัญ แต่โดราเอม่อนไม่รู้จะมอบสิ่งใด ชิมาซึตะจึงกล่าวว่า

"ฉันไม่ต้องการของขวัญอะไรหรอก ขอแต่โดราเอม่อนอยู่เป็นเพื่อนฉันตลอดไป ก็เป็นของขวัญที่พิเศษที่สุดแล้ว"

งานเลี้ยงฉลองคริสมาสต์ดำเนินไปอย่างสนุกสนาน โดยมีเหล่ามินิโดราที่กรมตำรวจจัดให้สร้าง เป็นที่ระลึกพิเศษร่วมกินเค้กด้วย

ในคืนนั้นอาจารย์ผู้ผลิตโดราเอม่อนได้มอบของขวัญเป็นกระเป๋าวิเศษใบใหม่ให้กับโดราเอม่อน

จาก นั้นชิมาบิตะก็อยู่อย่างมีความสุข ดังนั้นทำให้โดราเอม่อนต้องเดินทางกลับไปเปลี่ยนแปลงประวัติ ของบรรพบุรุษของชิมาบิตะ นั่นก็คือโนบิตะ ทำให้เกิดการเดินทางมากมาย เพื่อให้ชิมาบิตะ ได้อยู่อย่างมีความสุข.. และนี่คือของขวัญวันคริสมาสต์ที่โดราเอม่อนมอบให้ ชิมาบิตะนั่นเอง






กิจวัตรประจำวันของโดราเอม่อน


ของวิเศษที่ใช้บ่อย

คอปเตอร์ไม้ไผ่

คัปเตอร์ไม้ไผ่ ทำจากไม้ไผ่ ชื่อภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "Take (ไม้ไผ่) Koputa (คัปเตอร์) เมื่อจะใช้ก็นำไปวางไว้บนหัวจะทำให้สามารถบินได้ เป็นเครื่องมือที่โนบิตะและโดราเอม่อนใช้เกือบทุกตอน เพราะใช้งานง่ายและไม่ค่อยมีอันตราย สามารถบินได้ในระยะทาง 600 กม. และความเร็วประมาณ 80 กม.ต่อชม. เช่นสามารถใช้บินจากโตเกียวถึงโอซาก้าในเวลาประมาณครึ่งชม.

ประตูสารพัดสถานที่

หากเปิดประตูนี้ออก แล้วพูดชื่อว่าจะไปที่ไหนประตูก็จะเปิดออกไปยังสถานที่นั่นทันที ประตูเป็นประตูไม้ในแบบโบราณ เป็นเครื่องมือที่สะดวกสบายที่สุด ของวิเศษชิ้นนี้ถูกใช้บ่อยๆ ทำให้เราได้เห็นสถานที่ต่างๆ ในการ์ตูนได้มากมายหลายที่ ตามจินตนาการ

ไฟฉายย่อส่วน

รูปร่าง และวิธีใช้คล้าย ๆ กับไฟฉายทั่ว ๆ ไป ใช้สำหรับย่อสิ่งของหรือขยายสิ่งของให้ใหญ่หรือเล็กก็ได้ มีประโยชน์มาก และโดเรม่อนก็นำมาใช้บ่อยๆ อีกด้วย

ไทม์แมชชีน

เครื่องทาม์แม็คชีนเป็นพาหนะที่สามารถใช้เดินทางย้อนเวลาไปอดีต หรือ เดินทางข้ามเวลาไปสู่อนาคตได้ โดยทางเข้าและทางออกจะอยู่ในลิ้นชักโต๊ะในห้องนอนของโนบิตะ โดราเอม่อนและเพื่อนๆ สามารถใช้เดินทางไปอนาคตได้ แต่ว่าเครื่องนี้ก็ไปส่งผิดที่ผิดเวลาบ่อย ๆ



สาเหตุการย้อนเวลา

เชวาชิ เหลนของเหลนของโนบิตะได้ส่ง โดเรม่อนมาจาก ศตวรรษที่ 22

เพื่อช่วยโนบิตะให้พ้นจากความยากจนและการแต่งงานกับไจโกะ

น้องสาวผู้แสนน่าเกลียดของไจแอนท์ หลังจากที่

โดเรม่อนโผล่ออกมาจากลิ้นโต๊ะหนังสือของโนบิตะ

เรื่องราวการผจญภัยต่างๆ ก็เริ่มต้นขึ้น..

โดเรม่อน มีบุคลิกลักษณะเหมือนมนุษย์หลายอย่าง

เช่น ชอบกินขนมโดรายากิ ที่ทำจากถั่วแดงและแป้งหวาน

โดเรม่อนมีกระเป๋าหน้าท้องซึ่งเชื่อมต่อกับ ศตวรรษที่ 22

และสามารถใส่สิ่งของลงไปได้มากมาย

รวมถึงมีของวิเศษที่น่าประหลาดใจ เพื่อใช้ช่วยเหลือโนบิตะ



เพื่อนโดราเอม่อน


โดรานิคอฟ : Doranikov
ประเทศที่เกิด : รัสเซีย
อาชีพ : นักแสดง
จุดอ่อน : กลัวความหนาว
จุดแข็ง: สามารถกลายเป็นหมาป่าเมื่อเห็นวัตถุทรงกลม
เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง โดเรนิคอฟ เป็นแมวที่ช้ามากๆ ชอบความเป็นส่วนตัว
เขามักจะไม่ค่อยพูดมาก เขามักจะเขียนสิ่งที่เขาต้องการพูดลงในเศษกระดาษ
เท่านั้น



ดาราเหม็ดทรี : Doramed III
ประเทศที่เกิด : อาหรับ
อาชีพ : นักเวทย์มนต์
จุดอ่อน : ว่ายน้ำไม่เป็น
จุดแข็ง: มีเวทย์มนต์
เป็นแมวที่รวยคนหนึ่งในอาหรับ เขารู้วิธีการใช้เวทย์มนต์ เมื่อเขาโกรธ เขาจะกลาย
เป็นยักษ์ เขากลัวน้ำมากที่สุด (มันก็คล้ายๆ กับโดเรม่อนที่กลัวหนูนั่นแหละ)


วังโดรา : Wang Dora
ประเทศที่เกิด : จีน
อาชีพ : เลขานุการของโรงพยาบาล
จุดอ่อน : ผู้หญิง
จุดแข็ง: การเรียน กังฟู เป็นหมอที่ดี
เขาเป็นแมวที่ฉลาด เป็นหมอที่ดีชอบช่วยเหลือผู้อื่น ความสามารถเฉพาะตัวเขาคือกังฟู
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นผู้หญิงเขามักจะเซ่อซ่า ทำอะไรไม่ถูก


เอล-มาทาโดรา : El matadora
ประเทศที่เกิด : สเปน
อาชีพ : ทำงานในร้านอาหารฟาสฟูด
จุดอ่อน : นอนมากเกินกว่าปกติ เมื่อเขาเหนื่อย
จุดแข็ง: แข็งแรง มีกำลังมาก
เขาเป็นแมวที่หล่อ เขาทำงานในร้านอาหารฟาสฟูด เพราะเขามีพลกำลังมากจึงทำจาน
แตกบ่อยๆ และเขาก็โดนเจ้าของร้านดุบ่อยๆ เช่นกันเป็นนักสู้วัวกระทิง ชอบพิซซ่าและ อาหารสเปนเป็นที่สุด


โดราเดอะคิด : Dora The Kid
ประเทศที่เกิด : นิวยอร์ค อเมริกา
อาชีพ : เป็นผู้ช่วยของบริษัท
จุดอ่อน : กลัวความสูง
จุดแข็ง: แม่นปืน
โดราเดอะคิดมีประโยชน์ และเป็นแมวที่กล้าหาญมาก เขาช่วยให้อเมริกาพ้นจากความ
หายนะเป็นอย่างมาก เขาก็ทำงานในบริษัทในยุคศตวรรษที่ 21


โดรารินโฮ : Doraninho
ประเทศที่เกิด : บราซิล
อาชีพ : นักฟุตบอลมืออาชีพ
จุดอ่อน : ด้านความจำ
จุดแข็ง: วิ่งเร็ว
เขาเป็นแมวที่เล่นฟุตบอลเก่งระดับมืออาชีพ และจะเล่นฟุตบอลเกือบทุกวันเขามีความหวัง
ทางด้านความจำของเขา เขามักจะลืมสิ่งต่างๆ แล้วชอบหัวเราะในสิ่งที่คนอื่นๆไม่หัวเราะกัน
เขาวิ่งได้เร็วมาก สมกับที่เป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ