วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ท่องดินแดนประวัติศาสตร์จีน อุทยานสามก๊ก


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

เรื่องเล่านักศึกษาครั้งนี้ เป็นเรื่องราวของสถานที่ท่องเที่ยวจาก “ลานมะพร้าวออนไลน์” www.coconews.in.th
เว็บไซต์ ข่าวความเคลื่อนไหวของเหล่าน้องๆนิสิตมหาวิทยาลัยบูรพา ที่จัดทำโดยฝีมือนิสิตด้วยกัน ซึ่งได้พาท่องเที่ยวเมืองประวัติศาสตร์แดนมังกรในอุทยานสามก๊ก ณ อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี สถานที่ซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากรั้วมหาวิทยาลัยของพวกเขาสักเท่าไรนัก

เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มสว่างจ้าขึ้น เป็นสัญลักษณ์ทำให้เรารู้ได้ว่า เช้าแล้ว ทุกๆวันต้องมีเช้า มีกลางวัน และมียามเย็น เวลาเดินทางไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับเราที่ไม่หยุดเดินทางเช่นเดียวกัน และกำลังพาคุณผู้อ่านเดินทางไปพร้อมกับเราในสถานที่ต่างๆทั่วชลบุรี ในหลายอำเภอที่มีความงดงามทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สิ่งปลูกสร้างที่ต่างกันไป และตราบเวลายังคงไม่หยุดนิ่งเราก็จะพาคุณเดินทางกันต่อ พร้อมกันหรือยังที่จะไปต่อกับเราซึ่งวันนี้เราจะพาเปลี่ยนบรรยากาศจากการ เที่ยวชมธรรมชาติมาให้คุณได้ใกล้ชิดกับบรรยากาศจีนๆกันที่ อุทยานสามก๊ก อำเภอบางละมุง ชลบุรี

จังหวัดชลบุรีนับเป็นจังหวัดที่มีคนไทยเชื้อสายจีนอยู่เป็นจำนวน มาก เมื่อมีวันสำคัญทางประเพณีของจีน เช่น วันสารท ถึงกับมีการปิดโรงเรียนเป็นการภายในเป็นบางแห่งกันเลยทีเดียว และชลบุรีเองก็มีสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์จีน จัดแสดงเรื่องราวพงศาวดารจีนผ่านสถาปัตยกรรมหรือภาพจิตรกรรมบนแผ่นกระเบื้อง ให้ได้สัมผัสใกล้ชิดกันที่อุทยานสามก๊ก

อุทยานสามก๊กตั้งอยู่ที่ตำบลโป่ง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ซึ่งการเดินทางจะใช้ถนนสุขุมวิท เข้าถนนพรประภานิมิตรประมาณ 10 กิโลเมตร ก็ถึงแล้วสังเกตง่ายมากเพราะจะเห็นความงดงามของสถาปัตยกรรมผสมผสาน ไทย-จีน อุทยานนี้มีพื้นที่ 36 ไร่ ที่นี่เกิดมาจากนายเกียรติ ศรีเฟื่องฟุ้ง นักธุรกิจไทยเชื้อสายจีน ที่นี่มีการวางรูปแบบตามศาสตร์ฮวงจุ้ยจีน นอกจากนี้ส่วนภายในรายล้อมไปด้วยต้นไม้ ต้นอโศกอินเดีย ติดภูเขา มีสัญลักษณ์หยิน-หยาง ปรัชญาแห่งความสมดุลของจีนรวมอยู่ด้วย สถาปัตยกรรมที่นี่เป็นแบบผสมไทยและจีน

แม้อุทยานนี้จะเป็นสิ่งปลูกสร้าง แต่ที่นี่ก็นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวทาง ธรรมชาติที่อื่นๆของชลบุรีเลย มีความงดงามทางศิลปะเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ ที่นี่คงเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว นอกจากถ่ายภาพและซึมซับบรรยากาศจีนๆแล้ว อุทยานสามก๊กมีกิจกรรมให้เราได้ชมอื่นๆอีก มาเริ่มกันที่ แผ่นภาพหินอ่อนที่แสดงเรื่องราวสามก๊กไว้ยาวที่สุดในโลก น่าตื่นตาตื่นใจจริงๆกับความงดงามละเอียดอ่อนช้อยของภาพที่เขียนลงทีละเส้น เมื่อได้เข้ามาส่วนจัดแสดงนี้มีความแปลกมาก คือเมื่อเดินเล่นในสวนค่อนข้างจะร้อนแต่เมื่อเข้ามาภายใต้หลังคานี้กลับเย็น สบายจนน่าประหลาดใจ เราจึงคิดกันเองไปว่าอาจด้วยแผ่นกระเบื้องและหินที่ทำให้บริเวณนี้เย็นสบาย

จากนั้นเราไปชมภาพเขียนสีน้ำมันสามก๊กที่แสดงถึงประวัติของขงเบ้ง เป็นสิ่งที่หาชมได้ยากมากๆ ชมรูปปั้นของพระถังซัมจั๋ง และที่น่าสนุกก็คือที่นี่มีชุดของละครสามก๊กให้เราสามารถใส่และถ่ายภาพกัน ได้ แต่เราไม่ได้ทดลองใส่กันอาจด้วยว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 150 บาทต่อชุด เราเดินเที่ยวชมลูกหินหยิน-หยางและรูปปั้นมังกรพ่นน้ำ และที่สำคัญ สถานที่แห่งนี้สามารถสักการะหอแก้วที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อความเป็นศิริมงคลด้วย

”นางสาวรัตนาภรณ์ อาภาศิริกุล” อายุ 20 ปี นักศึกษาที่เดินทางมาท่องเที่ยว เล่าให้เราฟังว่า เป็น คนเชื้อสายจีนมาเที่ยวกับเพื่อนๆ รู้จักที่นี่ทางเว็บไซต์และเห็นว่าน่าสนใจจึงเดินทางมา เพื่อต้องการสักการะเจ้าแม่กวนอิมที่ด้านในเพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องจาก ใกล้สอบแล้ว และเคยเดินทางมาจังหวัดชลบุรีหลายครั้งแล้ว แต่เพิ่งมาที่อุทยานสามก๊กเป็นครั้งแรก ประทับใจและชอบการจัดสวนของที่นี่ ลักษณะอาคารทำให้รู้สึกเหมือนอยู่เมืองจีน ชอบต้นมะขามที่ตัดแรงตัวเป็นทิวแถวตนถ่ายรูปไว้มากทีเดียว คาดว่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้งในช่วงที่สอบเสร็จแล้ว

ได้ฟังนักท่องเที่ยวคนอื่นเล่าความประทับใจไปแล้ว คราวนี้มาถึงของเราบ้าง จุดที่ประทับใจพวกเรามากๆเห็นจะเป็นชั้นบนสุดที่ได้จัดแสดงหอแก้วไว้ เพราะกว่าเราจะเดินขึ้นบันได้ไปทีละขั้นเพื่อขึ้นสู่จุดสูงสุดก็เหนื่อยที เดียว อาคารนี้แต่ละชั้นเราจะชมกับภาพเขียนสีน้ำมันไปตลอดทาง สวยงามบอกเรื่องราวสามก๊กไว้อย่างสนุกสนาน ส่วนด้านบนสุดนั้นสามารถชมทิวทัศน์ได้ทั่วบริเวณของที่นี่เห็นการจัดสวนที่ สวยงาม สามารถมองเห็นได้ไกลถึงวัดเขาชีจรรย์เลยทีเดียว มองเห็นไปถึงทะเลพัทยา เห็นหอคอยของพัทยาพาร์ค และบนนี้อากาศเย็นสบาย พวกเราทั้งหกคนยื่นรับอากาศเย็น และพูดคุยกันพักใหญ่เลยทีเดียว เพราะทริปนี้เป็นทริปของการเดินทางที่พวกเราจะไปพร้อมหน้ากันแบบนี้อาจจะมี ไม่บ่อยแล้ว เพราะมีบางคนที่กำลังจะจบการศึกษาและอาจจะหาโอกาสมาเที่ยวกันแบบนี้ได้ยาก เราก็เลยใช้เวลาพูดคุยเก็บความประทับใจกันไว้

เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มที่จะคล้อยต่ำลง เรามองดูนาฬิกาก็เป็นเวลาบ่ายสองกว่าแล้ว จากเสียงลมพัดที่เข้าหูตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นเสียงท้องร้องหิวข้าวแทน เราตัดสินใจไปตามคำเรียกร้องของกระเพาะอาหารไปหาอะไรกินกัน

ครั้งนี้เรายังคงติดใจกับ ตลาดน้ำสี่ภาค เนื่องจากไม่ไกลจากอุทยานสามก๊ก ออกจากอุทยานมาถึงทางแยกบ้านทับหวานเลี้ยวซ้ายเลียบทางรถไฟและเล้ยวขวาออก ถนนสุขุมวิทย์ ถึงทางแยกเลี้ยวขวา ตรงไปประมาณ 300 เมตร จากแยกก็เป็นอันว่าถึงตลาดน้ำ เราปักหลักหาของอร่อยๆกินกัน ตลาดน้ำสี่ภาคยามเย็นไม่ร้อนเลยวันนี้นักท่องเที่ยวบางตาแต่ก็มีทัวร์ลงอยู่ บ้าง เราเดินเล่นสักพักและเริ่มที่จะเลือกหาของอร่อยๆกินและก็สะดุดตากับร้านขนม จีน ที่มีน้ำยาหลายแบบให้กินกันกินจนอิ่มแล้วต่อด้วยของหวานเฉาก๋วยเย็นๆนิด หน่อยแล้วก็กลับมหาวิทยาลัย–ทีมข่าวท่องเที่ยว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ