วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เผยสูตรเด็ด “ทองม้วนจมูกข้าวสาลี” ขนมไทยสไตล์สุขภาพ


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

นับเป็นเรื่องน่า ยินดีที่ทุกวันนี้ประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพและอาหารการกินมากขึ้น ในการเลือกรับประทานอาหารแต่ละอย่างสิ่งหนึ่งที่ต้องมาคู่กับความอร่อยนั่น คือคุณค่าที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และด้วยตระหนักถึงความสำคัญนี้ ทำให้ นักศึกษาชาวมทร.ธัญบุรีเกิดไอเดียสุดแจ่มคิดค้นทำทองม้วนจมูกข้าวสาลี ขนมพื้นบ้านแบบไทยๆ แต่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางอาหาร

ซึ่งทีมงานผู้คิดค้นไอเดียจมูกข้าวสาลีสุดกิ๊บเก๋ ประกอบด้วย นางสาวสุภานันท์ คล้ายน้อย นางสาวทิวาวรรณ เดชใด และ นางสาวดวงรัตน์ เศรษฐภักดี สาขาวิชา อาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

ทั้งนี้ 3 นักศึกษาเจ้าของตำหรับ บอกว่า เหตุ ที่เลือกข้าวสาลีมาเสริมในขนมทองม้วนเพราะ จมูกข้าวสาลีมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น ลดคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ ป้องกันโรคหัวใจ บำรุงสมอง บำรุงประสาท ป้องกันโรคมะเร็งเป็นต้น

อีกทั้ง ผศ.อภิญญา พุกสุขสกุล และ อาจารย์อรวรรณ พึ่งคำ อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ ยังบอกด้วยว่า “ถือได้ว่าเป็นการส่งเสริม และอนุรักษ์ขนมไทยพื้นบ้านให้มีคุณค่าทางโภชนาการ โดยได้อธิบายถึงส่วนผสมไว้ดังนี้ “แป้งมัน 1 ¾ ถ้วย-แป้งสาลี ¼ ถ้วย-หัวกระทิ 1 ¾ ถ้วย-น้ำตาลปี๊บ ¾ ถ้วย-เกลือ ½ ถ้วย-ไข่แดง 1 ฟอง-จมูกข้าวสาลี ¼ ถ้วย”อาจารย์เผยสูตร

และจากนั้น 3 นักศึกษาก็ช่วยกันเผยกลเม็ดแบบไม่กั๊กต่อว่า“เริ่ม แรกให้ ผสมแป้งมันกับแป้งสาลีให้เข้ากันพักเอาไว้ แล้ว ผสมกะทิ น้ำตาลปี๊บ เกลือ ลงในหม้อ คนให้น้ำตาลละลาย แล้วตั้งไฟจนกะทิเดือด พักไว้ให้เย็น จากนั้นถึงใส่ไข่แดงลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นจึงค่อยๆเทลงในแป้ง(แป้งมัน+แป้งสาลีที่ผสมกันตั้งแต่แรก) คนให้เข้ากัน เติมจมูกข้าวสาลีลงไปผสมให้เข้ากันตักส่วนผสมประมาณ 1 ช้อนชาหยอดลงในเครื่องทำทองม้วนที่ร้อนได้ที่ แล้วปิดฝา รอประมาณ 30 วินาที เปิดฝาออก นำออกมาม้วน”

และขั้นตอนที่เป็นเคล็ดลับสำคัญคือ “การม้วน” ตรงนี้อาจารย์ย้ำเสริมว่า “ต้องม้วนเมื่อทองม้วนสุกออกจากเตาร้อนๆ เพียงเท่านี้ก็จะได้ทองม้วนที่ทั้งหอม หวานอร่อยและยังมีคุณค่าทางโภชนาการไว้รับประทาน”จบสูตรทองม้วนข้าวสาลี

เอาล่ะ !หากใครสนใจข้อมูลที่มากกว่านี้สามารถสอบถามเพิ่มเติมไปได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 083-4996241,084-7608385 และ087-3403296

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ