วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

พูดจาแบบมีเสน่ห์

พูดจาแบบมีเสน่ห์

พูดจาแบบมีเสน่ห์

โบราณเคยบอก "พูดดีเป็นศรีแก่ตัว พูดชั่วอัปราชัย"
หลายคนมาแผลงเป็น "พูดดีเป็นศรีแก่ปาก พูดมากปากจะมีสี"
จะยึดคำกล่าวไหนก็ได้ค่ะ เพราะหัวใจสำคัญอยู่ที่การ "พูดให้ดี"

ทำไมต้องพูดให้ดี...
เพราะการพูดให้ดีนั้น ฟังแล้ว "เข้าหู" ชวนฟัง ชวนให้คล้อยตาม
ชวนให้รู้สึกประทับใจและก่อให้เกิดสิ่งดี ๆ ตามมาได้อีกมากมาย

การพูดเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตค่ะ เพราะตลอดทั้งชีวิต เราต้องอาศัยการพูดเป็นการสื่อสารที่สำคัญ

พูดไม่เป็น
พูดไม่เข้าหูคน
หรือพูดแล้วคนอยากพาไป"ผ่า...ออกจากปาก" อย่างที่เขาล้อ ๆ กันนั้น
ท่าทางชีวิตจะย่ำแย่ ดังนั้น มาเรียนรู้การพูดการจาให้เป็นสง่าราศีแก่ชีวิตดีกว่าค่ะ

1. คนจะพูดดีได้ ต้องเริ่มจากคิดดี
ไม่มีประโยชน์ ที่เราจะเริ่มต้นจากการคิดร้าย
แม้กับคนที่เราไม่ถูกชะตาด้วยที่สุด ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องพูดจาไม่ดีกับเขา

การคิดดี ถือเป็นเรื่องพื้นฐานของมนุษย์ เป็นพื้นฐานของจิตใจที่ดีงาม
ใครก็ตามที่รู้จักคิดดี เขาก็จะเห็นแง่งามของโลกของชีวิต ของตนเอง และของผู้อื่น
เมื่อเห็นแง่งาม หรือแง่ดีของสิ่งต่าง ๆ เขาก็ย่อมมีทัศนคติที่ดี
มีท่าทีที่ดี และเมื่อต้องพูดจากเสวนากัน เขาก็ย่อมพูดจาดี

การพูดจาดี
ไม่เพียงแต่สะท้อนการให้เกียรติ และเคารพในตัวคนอื่น
แต่ยังสะท้อนการให้เกียรติและเคารพตนเองอีกด้วย
คนจะพูดจาดีได้ต้องรับการอบรมมาดี อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี

ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า บุคลิกภาพดี ๆ เริ่มต้นที่ครอบครัว การพูดจาดีก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องเริ่มจากในบ้าน
พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างของคนที่พูดจาดี ๆ ต่อกัน ต้องเป็นผู้ชี้แนะคุณค่าของการพูดดี

พูดดี ในที่นี้หมายความว่า อะไร

หมายความว่า
พูดเพราะ
พูดคำสุภาพ
มีน้ำเสียงที่สุภาพ
มีหางเสียงครับ ค่ะ จ๊ะ จ้ะ
เพื่อแสดงความมีมารยาท
มีไมตรีจิต
ไม่พูดคำหยาบ
ไม่ใส่ร้าย
ไม่ตะคอกตะเบ็งใส่กัน
ไม่ประชดประชัน
ไม่โกหกพกลม

คนจะพูดดีเช่นนี้ได้ จะคิดร้ายอยู่ในใจไม่ได้แน่นอน
เพราะความร้ายกาจในใจจะเผยมาทางคำพูด น้ำเสียง แววตา หรือท่าทีขณะที่พูดได้
จึงจำเป็นต้องฝึกตนให้เป็นคน คิดดี


2. พูดถูกกาลเทศะ
ไม่ใช่ตลอดเวลาหรอกค่ะ ที่คนเราจะพูดได้ ต้องมีบ้างบางขณะที่เราหยุดพูด เพื่อเป็นผู้ฟังคนอื่นพูดบ้าง

คนบางคน ถูกตั้งข้อสังเกตว่า "ผีเจาะปากมาพูด" คือ พูด ๆๆๆๆ ฟังไม่เป็น ไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นพูด
ทำตัวเป็นผู้รู้ไปหมดทุกเรื่อง จึงพูดอยู่ตลอดเวลาคนแบบนี้น่ารำคาญ จริงไหมคะ

อย่าทำตัวน่ารำคาญ ด้วยการพูดจาไม่หยุดไม่หย่อน ไม่ดูวาระ และโอกาส
คนพูดเป็นจะรู้ว่าโอกาสไหน ควรพูด โอกาสไหนควรฟัง
และโอกาสไหน ควรวางเฉย
คนที่รู้จักพูดเขาจะดูสถานที่ และเลือกวิธีพูดจาให้เหมาะสมกับผู้ฟัง และสถานที่

ผู้ฟังที่อาวุโสกว่าเรา เราต้องพูดด้วยท่าที และน้ำเสียงอย่างหนึ่ง
เป็นเพื่อนกัน ก็พูดอย่างหนึ่ง
เป็นน้องเป็นนุ่งเรา ก็ต้องพูดอีกแบบหนึ่ง
พูดในที่ประชุม จะเหมือนพูดในกลุ่มเพื่อนไม่ได้
พูดคุยกับเพื่อน ก็อย่าทำตัวน่าเบื่อ เหมือนบรรยายวิชาการ
การปรับตัว หรือพลิกแพลงตามสถานการณ์ที่ต่างกันไปเหล่านี้ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเรียนรู้


หลักการพูดให้ถูกกาลเทศะทำได้ง่าย ๆ คือ
ดูว่าเราต้องพูดในหัวข้อไหน
เรื่องอะไร
พูดที่ไหน
ใครฟัง
ผู้ฟังกี่คน
ฟังกันในที่เปิดเผยหรือในห้องจำกัด
พูดสั้น หรือพูดยาว
จริงจัง หรือกันเอง
ใครอ่านสถานการณ์ออก เตรียมตัวพร้อม ก็สามารถพูดจาได้น่าจดจำตามวาระ และโอกาสนั้น ๆ ได้เสมอ


3. พูดมีเนื้อหาสาระ
ห้ามพูดเรื่อยเปื่อย ไม่ว่าจะคุยกันกับเพื่อน ผู้ร่วมงานพ่อแม่ หรือพูดในที่ประชุม หรือที่สาธารณะ
ก็ต้องมีเป้าหมายในการพูด พูดอย่างมีสาระ
มีขอบเขตชัดเจนว่า ต้องการสื่อสารเรื่องอะไร หรือต้องการจะบอกกับผู้ฟังว่าอะไร


4. พูดจาให้น่าฟัง
น้ำเสียงที่กังวานแจ่มใส ดังพอประมาณ พูดจาฉะฉานชัดเจน จะดึงดูดความสนใจจากผู้ฟังได้มาก
การพูด ในบางครั้งต้องพูดปากเปล่า แต่บ่อยครั้งก็ต้องพูดผ่านไมโครโฟน

หากมีโอกาส ให้ฝึกฝนเรื่องการใช้เสียงอย่างเหมาะสม ทั้งแบบปากเปล่า และผ่านไมโครโฟนได้
ก็ควรทำ เพราะการพูดผ่านไมโครโฟนนั้น ต้องมีระยะใกล้ไกลระหว่างปากกับไมโครโฟนที่พอเหมาะ
เสียงจึงจะชัดเจน ไม่มีเสียงเสียดแทรก จนผู้ฟังรู้สึกไม่สบายหู หรือรำคาญ


5. พูดให้เกิดความรู้สึกร่วม

วิธีการง่าย ๆ คือ
สบตากับผู้ฟังอย่างทั่วถึง ตั้งคำถามในขณะพูด แล้วค่อย ๆ อธิบายเพื่อนำไปสู่คำตอบ
สอบถามผู้ฟังบ้าง ในบางหัวข้อที่ง่าย ๆ หรือเป็นเรื่องของประสบการณ์
เป็นเรื่องของความคิดเห็น ที่ไม่ใช่เรื่องซึ่งเมื่อตอบแล้ว อาจถูก หรือผิด

ผู้พูด จำเป็นต้องรู้พื้นภูมิของผู้ฟังบ้าง
เพื่อพูดในภาษาที่เขาเข้าใจง่าย บางครั้งการพูดด้วยสำเนียงท้องถิ่นก็ทำให้ผู้ฟังรู้สึกดี รู้สึกเป็นกันเอง
อย่าพูดไทยผสมกับภาษาต่างประเทศ โดยไม่อธิบาย เลือกใช้ภาษาต่างประเทศเท่าที่จำเป็น เท่านั้น

และยกตัวอย่างที่คาดว่าผู้ฟังน่าจะมีประสบการณ์ร่วม อย่ายกตัวอย่างไกลตัว

การพูดเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของคนเรา
เป็นภาพฟ้องอุปนิสัยใจคอ จึงไม่อาจพูดจาเรื่อยเปื่อย ไร้จุดหมาย ไร้การระมัดระวังได้

การพูด นำมาซึ่งมิตรและศัตรู
แต่ก็นั่นแหละ เราเลือกได้นี่คะว่าจะพูดให้ได้เพื่อน หรือพูดให้ได้ศัตรู

การพูดทำให้คนเราดูดี หรือดูแย่ได้ทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเราเลือกอะไร

ที่มา เครือข่ายสุขภาพเพื่อประชาชน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ