วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

หึงโหด เทรนด์มรณะ แฟชั่นสยอง รักต้องฆ่า ฟีเวอร์!



หึงโหด เทรนด์มรณะ แฟชั่นสยอง รักต้องฆ่า ฟีเวอร์!





เป็นทั้งเรื่อง น่าสลดใจ และ น่าตกใจ

กับ กรณีที่หนุ่มใหญ่วัย 45 ปีรายหนึ่งซึ่งมีอาชีพขับแท็กซี่ ก่อเหตุสยอง ฆ่า 4 ศพ... แล้วผูกคอตาย !! อันเนื่องมาจากกรณี ชู้สาว ซึ่งเหยื่อเป็นหญิงที่ผู้ก่อเหตุติดพันอยู่จำนวน 2 คน ลูกสาวลูกติดของ 1 ใน 2 นี้ถูกฆ่าด้วย และยิ่งไปกว่านั้นลูกชายของผู้ก่อเหตุเองก็ยังถูกผู้เป็นพ่อฆ่า






นับวันยิ่งรุนแรงมากขึ้น...เกิดถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จนน่ากลัว !!

ปรากฏการณ์ สยองทำนองนี้ สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์ เคยสะท้อน ไว้ตั้งแต่เมื่อ 2-3 ปีก่อนแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นก็เกิดขึ้นมาตลอด หนุ่มฆ่าสาว, สาวฆ่าหนุ่ม, หนุ่มฆ่าสาวและแฟนของสาวที่ตนเองชอบ, สาวฆ่าหนุ่มและแฟนของหนุ่มที่ตนเองหลงรัก, ผัวฆ่าเมีย, เมียฆ่าผัว, ผัวฆ่าเมียและชายอื่นที่เมียตนเองไปพัวพัน, เมียฆ่าผัวและหญิงอื่นที่ผัวตนเองไปพัวพัน ฯลฯ คดีทำนองนี้ในระยะหลัง ๆ ปรากฏเป็นข่าวแทบจะรายวัน




คดีที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1 ศพ

และ บางกรณีมีเด็กที่ไม่รู้อีโหน่ อีเหน่ตกเป็นเหยื่อด้วย ก็มิใช่เพิ่งจะมาเกิดกับรายแท็กซี่ที่เป็นข่าวสยอง ล่าสุด ก่อนหน้านี้ก็มี อย่างเมื่อเดือน ก.ค. ปี 2548 ก็หลายคดีซ้อน ๆ ทั้งที่เป็นข่าวเล็ก-ข่าวใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น...หึงโหดระแวงรัก เมียจ่อยิง ตาย ยกครัว 3 ศพ เหตุเกิดในกรุงเทพฯ แถวสาธุประดิษฐ์ เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2548 ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า...เมียขี้หึงใช้อาวุธปืนยิงผัว ที่จับได้ว่าแอบไปติดพันสาวอื่น เท่านั้นยังไม่พอ...ยังยิงลูกชายวัย 10 ขวบดับไปด้วย จากนั้นก็ยิงตัวตายตามเป็นศพที่ 3




หรืออีกคดีที่เกิดเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2548 ที่สระบุรี

ยิง แฟน-จ่อขมับตาม รักเป็นพิษ หนุ่มซัลโวสยอง 2 ศพ โดยรายนี้เหตุเกิดเพราะสาวเจ้าตีจากหนุ่มไปมีแฟนใหม่ ฝ่ายหนุ่มที่รักจริงหวังจะแต่งอยู่รอมร่อพยายามงอนง้ออย่างไรก็ไม่ได้รับ ความสนใจ แถมยังได้ฟังคำแสลงใจว่าแฟนใหม่สาวเจ้าดีกว่าตน ความเสียใจบวกความโมโหจึง สติแตก-ขาดความ ยั้งคิด ใช้ปืนยิงสาวดับ แล้วจ่อขมับสับไกระเบิดกระสุนใส่หัวตัวเองตายตาม

รักเป็นพิษ-รักอำมหิต นำไปสู่การ ฆ่าคนที่ตนรัก






ลามถึงคนอื่น-ลามถึง "ฆ่าเด็ก-ฆ่าลูก" เกิดไม่หยุด !!

ทั้ง นี้ กับปรากฏการณ์นี้ พรชัย ตระกูลวรานนท์ อาจารย์ภาควิชา สังคมวิทยาและมนุษยวิทยา เคยให้คำอธิบายไว้ว่า...สัดส่วนของปัญหาหึงหวง จนฆ่ากันตายนั้น ต้นเหตุเป็นเรื่องทางด้านจิตวิทยาประมาณ 70% อีก 30% เป็นเรื่องทางสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งทั้ง 2 ส่วนจะมีความสัมพันธ์กันอยู่


ปัญหาทางด้านจิตวิทยา

ก็ เกิดจากปัญหาบุคลิกภาพของผู้ก่อเหตุ ที่อาจจะเป็นเรื่องการถูกเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ๆ หรืออื่น ๆ ส่วนด้านสังคม-เศรษฐกิจ ก็อาจเป็นเรื่องของงาน เรื่องที่ทำงาน การเงิน ที่เข้ามาร่วมกดดัน เป็นต้น

ขยายความกันอีกครั้ง ในช่วงที่ปัญหานี้ชักจะลุกลามมากขึ้นเรื่อย ๆ อ.พรชัยแจงไว้ว่า...สาเหตุหรือต้นเหตุที่แฝงอยู่ลึก ๆ ทางด้าน จิตวิทยา

ขณะที่ด้าน

<> สังคม-เศรษฐกิจ ที่อาจเข้ามามีส่วนทำให้เกิดการฆ่าคนที่รักได้ด้วยนั้น แม้จะมีสัดส่วนน้อย แต่จะมองว่ามีสัดส่วนน้อยแล้วไม่ให้ความสำคัญ ก็คงจะไม่ได้...

เพราะด้านนี้อาจจะ เป็นตัวกระตุ้นด้านจิตวิทยา อีกที








"เป็นตัวจุดระเบิด" ให้เกิดโศกนาฏกรรมรัก-หึงสยอง !!


นัก วิชาการด้านสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา ชี้ไว้อีกว่า...ผู้ชายหรือผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างขาดความอบอุ่น อยู่ตัวคนเดียวมาตลอด พอแต่งงานมีครอบครัว พอมีแฟน ก็จะทุ่มเทความรักให้กับแฟน ให้กับครอบครัวทุกอย่าง เมื่อเกิดปัญหาอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องเงิน ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง บวกกับเกิดความ ระแวง-หึงหวง ภาพทุกอย่างที่เก็บไว้ในอดีตก็จะระเบิดขึ้น เหมือนโลกแตก



ทำให้มืดบอดจนหาทางออกอื่นไม่ได้-ทำให้เกิดการฆ่ากัน !!

จะ เรียนสูงหรือเรียนไม่สูง...ก็ไม่เกี่ยว มีโอกาสเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ได้ทั้งนั้น !!...อ.พรชัยกล่าวไว้ และยังทิ้งท้ายด้วยว่า...แต่กลุ่มที่มีแนวโน้มสูงที่จะแสดงอาการอย่างนี้ออก มาก็คือคนที่มีปัญหาเรื่องงาน-เรื่องเงิน


กับเรื่องเดียวกัน นี้...ผู้เชี่ยวชาญกรมสุขภาพจิต ก็เคยฉายภาพผ่าน สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์ ไว้เช่นกันว่า...ปัญหาเรื่องราวของคู่รัก คู่สามี ภรรยา ที่ หึงหวงจนฆ่ากันตาย-ฆ่ากันตายเรื่องชู้สาว นั้น เป็นเรื่องของ อีคิว หรือ ความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งในช่วงที่มีปัญหาหากใครมีอีคิวมากพอก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้ามีน้อยก็น่าห่วง ก็อาจจะเกิดปัญหา อาจควบ คุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ อาจจะทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด จนตนเองต้องกลายเป็น ฆาตกร







และเมื่อลงมือทำไปแล้ว...ก็อาจ "ฆ่าตัวตาย" ตาม



ต้องรู้จักฝึกเก็บกันความรู้สึก ต้องเอาชนะใจตัวเราเองให้ได้ ต้องชนะใจผู้ที่ทำร้ายจิตใจเรา ต้องรู้จักการให้อภัย จะเป็นสุดยอดของความสุข...เป็นคำแนะนำเพื่อป้องกันเหตุ หึงโหด-พิศวาสฆาตกรรม

สะท้อนเรื่องนี้ขึ้นมาอีก...มิใช่เพื่อซ้ำเติมรายที่เกิดขึ้นแล้ว

แต่เพราะ รักสยองต้องฆ่า กลายเป็น แฟชั่นมรณะ

ใครตั้งสติไม่มั่น...อาจตามแห่แฟชั่นสยองนี้ก็ได้ ?!?!?.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์





พิษณุโลก หึงโหด ตกตึก กระทืบซ้ำ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อารายเหรอ