ซินเดอเรลล่า (อังกฤษ: Cinderella; ฝรั่งเศส: Cendrillon) เป็นเทพนิยายปรัมปราที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงทั่วทั้งโลก มีการดัดแปลงเป็นรูปแบบต่างๆ มากมายกว่าพันครั้ง เนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กสาวกำพร้าผู้หนึ่งที่อยู่ในอุปถัมภ์ของแม่เลี้ยง กับพี่สาวบุญธรรมสองคน แต่ถูกทารุณและใช้งานเยี่ยงทาส ต่อภายหลังจึงได้พบรักกับเจ้าเมืองหรือเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ ตำนานซินเดอเรลล่ามีปรากฏในเทพนิยายหรือนิทานพื้นบ้านประเทศต่างๆ ทั่วทั้งโลกโดยมีชื่อของตัวเอกแตกต่างกันออกไป ทว่าฉบับที่มีชื่อเสียงที่สุดเป็นของนักเขียนชาวฝรั่งเศสชื่อ ชาร์ลส แปร์โรลต์ (Charles Perrault) ในปี ค.ศ. 1697 ซึ่งอิงมาจากวรรณกรรมของ จิอัมบัตติสตา เบซิล เรื่อง La Gatta Cenerentola ในปี ค.ศ. 1634 ในเรื่องนี้ตัวเอกมีชื่อว่า เอลลา (Ella) แต่แม่เลี้ยงกับพี่สาวใจร้ายของเธอพากันเรียกเธอว่า ซินเดอเรลล่า (Cinderella) อันหมายถึง "เอลลาผู้มอมแมม" ซึ่งกลายเป็นชื่อเรียกเทพนิยายในโครงเรื่องนี้โดยทั่วไป
ซินเดอเรล ล่า ได้รับการโหวตจากเด็กๆ กว่า 1,200 คนจากการสำรวจโดย cinema chain UCI เป็นเทพนิยายยอดนิยมอันดับหนึ่งในดวงใจ เมื่อปี ค.ศ. 2004 ผลสำรวจจาก google trend เมื่อปี ค.ศ. 2008 ก็พบว่า ซินเดอเรลล่า เป็นเทพนิยายที่ได้รับความนิยมและกล่าวถึงมากที่สุดในโลกอินเทอร์เน็ต
ประวัติ
โครง เรื่องของซินเดอเรลล่าน่าจะมีกำเนิดมาแต่ยุคสมัยคลาสสิก นักประวัติศาสตร์กรีกชื่อ สตราโบ ได้บันทึกไว้ในหนังสือ จีโอกราฟิกา เล่ม 17 ตั้งแต่ราวหนึ่งร้อยปีก่อนคริสตกาล ถึงเรื่องราวของเด็กสาวลูกครึ่งกรีก-อียิปต์ผู้หนึ่งชื่อ โรโดพิส (Rhodopis) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเนื้อเรื่องที่เก่าแก่ที่สุดของซินเดอเรลล่า โรโดพิส (ชื่อมีความหมายว่า "แก้มกุหลาบ") ต้องอยู่ซักเสื้อผ้ามากมายขณะที่เหล่าเพื่อนหญิงรับใช้พากันไปเที่ยวงานเต้น รำซึ่งฟาโรห์อามาซิสทรงจัดขึ้น นกอินทรีย์นำรองเท้าของเธอที่ประดับกุหลาบไปทิ้งไว้ที่เบื้องบาทของฟาโรห์ใน นครเมมฟิส พระองค์ตรัสให้สตรีในราชอาณาจักรทดลองสวมรองเท้านี้ทุกคนเพื่อหาผู้สวมได้พอ เหมาะ โรโดพิสสวมได้พอดี ฟาโรห์ตกหลุมรักเธอและได้อภิเษกสมรสกับเธอ ต่อมาเนื้อเรื่องนี้ปรากฏอีกครั้งในงานเขียนของเคลาดิอุส ไอเลียนุส (Claudius Aelianus) แสดงให้เห็นว่าโครงเรื่องซินเดอเรลล่าเป็นที่นิยมมาตลอดยุคคลาสสิก บางทีจุดกำเนิดของตัวละครอาจสืบย้อนไปได้ถึงช่วง 600 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งมีสตรีในราชสำนักทราเซียน (Thracian) คนหนึ่งใช้ชื่อเดียวกันนี้ และเป็นผู้รู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดีกับ อีสป นักเล่านิทานยุคโบราณ
เนื้อเรื่องย่อ (จากฉบับของแปร์โรลต์)
ซิ นเดอเรลล่ากับนางฟ้าแม่ทูนหัว ภาพวาดของ โอลิเวอร์ เฮอร์ฟอร์ด อิงจากเทพนิยายของแปร์โรลต์ซินเดอเรลล่าเดิมมีชื่อว่า เอลล่า (Ella) เป็นบุตรสาวของเศรษฐีผู้มั่งมี มารดาของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเล็ก เป็นเหตุให้บิดาของเอลล่าจำใจแต่งงานใหม่กับมาดามผู้หนึ่งซึ่งเป็นหม้ายและ มีลูกสาวติดมาสองคนเพราะอยากให้เอลล่ามีแม่ ไม่นานนักหลังจากนั้น เศรษฐีผู้เป็นบิดาก็เสียชีวิต ทำให้ธาตุแท้ของแม่เลี้ยงปรากฏขึ้น นางกับลูกสาวใช้งานเอลล่าราวกับเป็นสาวใช้ และใช้จ่ายทรัพย์ที่เป็นของเอลล่าอย่างฟุ่มเฟือย ที่ร้ายกว่านั้น ทั้งสามยังเปลี่ยนชื่อของเอลล่า เป็น ซินเดอเรลล่า ที่แปลว่า สาวน้อยในเถ้าถ่าน เพราะพวกนางใช้งานเอลล่าจนเสื้อผ้าขาดปุปะมอมแมมไปทั้งตัวนั่นเอง
ซิ นเดอเรลล่ายอมทนลำบากทำงานเรื่อยมาจนกระทั่งวันหนึ่ง มีจดหมายเรียนเชิญหญิงสาวทั่วอาณาจักรให้มาที่พระราชวังเพื่อร่วมงานเต้นรำ แต่ความหมายที่แท้จริงก็คือ พระราชา ต้องการหาคู่ครองให้กับเจ้าชายซึ่งเป็นพระโอรสองค์เดียว จึงใช้งานเต้นรำบังหน้า เมื่อรู้ข่าว ลูกสาวทั้งสองต่างพากันดีใจที่บางทีตนอาจมีโอกาสได้เต้นรำและได้แต่งงานกับ เจ้าชายก็เป็นไปได้ เช่นกันกับซินเดอเรลล่า เพราะเธอใฝ่ฝันมาตลอดเวลาว่าจะได้เต้นรำในฟลอร์ที่งดงามและเป็นอิสระจากงาน บ้านอันล้นมือเหล่านี้ แต่แน่นอน เมื่อเด็กสาวขอไป แม่เลี้ยงใจร้ายจึงกลั่นแกล้งต่างๆ นานาจนซินเดอเรลล่าไม่มีชุดใส่ไปงานเต้นรำ
ซินเดอเรลล่าเสียใจมาก จึงหนีไปร้องไห้อยู่คนเดียว ทันใดนั้นนางฟ้าแม่ทูนหัวของซินเดอเรลล่าก็ปรากฏตัวขึ้นและบันดาลชุดที่สวย งามที่สุดให้ซินเดอเรลลา พร้อมกับบอกให้เด็กสาวไปงานเต้นรำ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องกลับมาก่อนเที่ยงคืน ไม่เช่นนั้นเวทมนตร์จะเสื่อม
ซิ นเดอเรลล่าได้ทำตามความฝัน แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือ คู่เต้นรำที่เธอก็ไม่ทราบว่าเป็นใครนั้นคือเจ้าชายนั่นเอง ทั้งสองตกหลุมรักกันทั้งที่ยังไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามของอีกฝ่าย แต่เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน ซินเดอเรลล่าก็รีบหนีไปโดยลืมรองเท้าแก้วเอาไว้ เจ้าชายเก็บรองเท้าไว้ได้จึงประกาศว่าจะทรงแต่งงานกับหญิงสาวที่สวมรองเท้า แก้วนี้ได้เท่านั้น
เสนาบดีได้นำรองเท้าแก้วไปตามบ้านต่างๆ เพื่อให้หญิงสาวทั่วอาณาจักรได้ลอง จนมาถึงบ้านแม่เลี้ยง เมื่อลูกสาวทั้งสองลองครบแล้ว นางก็โกหกว่าไม่มีหญิงสาวในบ้านอีก พร้อมทำลายรองเท้าแก้วจนแตกละเอียด ทุกคนต่างหมดหวังว่าจะไม่สามารถหาหญิงปริศนาของเจ้าชายพบ แต่สุดท้าย ซินเดอเรลล่าก็หยิบรองเท้าแก้วอีกข้างที่เก็บไว้ขึ้นมาและสวมให้กับเหล่า เสนาได้ดู ทำให้ซินเดอเรลล่าได้แต่งงานกับเจ้าชาย และมีความสุขตราบนานเท่านาน
ที่มา http://th.wikipedia.org
เจ้าหญิงนิทรา
เจ้าหญิงนิทรา (อังกฤษ: Sleeping Beauty, ฝรั่งเศส: La Belle au Bois dormant) คือเทพนิยายโบราณ ฉบับแรกซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส พิมพ์ใน พ.ศ. 2240 โดยท่านชาร์ลส แปร์โรลต์
เรื่องย่อ
ใน งานเฉลิมฉลองการประสูติของเจ้าหญิงองค์หนึ่ง มีนางฟ้าหลายตนเสก ความงาม ปัญญา และ ความสามารถในดนตรี มอบให้เป็นของขวัญวันประสูติของเจ้าหญิง แต่เมื่อนางฟ้าทั้งหลายเสกให้พรเจ้าหญิงเสร็จสรรพ นางฟ้าใจร้ายผู้ที่โกรธแค้นที่ตนไม่ได้การรับเชิญก็โผล่มาในงาน และด้วยความแค้นอาฆาต นางจึงเสกคำสาปให้เป็นของขวัญประสูติ คำสาปนั้นคือ เมื่อเจ้าหญิงเติบใหญ่เป็นสาว พระนางจะถูกเข็มปั่นด้ายทิ่มนิ้วและสิ้นชีพทันที เมื่อนางฟ้าใจร้ายจากไปจากงาน นางฟ้าผู้ที่ยังไม่ได้ให้พรพระนางก็ตัดสินใจแก้คำสาป แต่เธอมิสามารถแก้ได้ทั้งหมด ส่วนที่แก้ได้คือ แทนที่พระนางจะสิ้นชีพเมื่อโดนเข็มตำ ความตายจะกลายเป็นการหลับนอนแทน พระนางจะต้องบรรทมไปถึง 100 ปี จนกว่าจะมีเจ้าชายมาจุมพิต
พระบิดา (กษัตริย์) ของพระนาง ได้สั่งให้ราษฎรเลิกใช้และทำลายเข็มปั่นด้ายทั้งหมดในราชอาณาจักร และถ้ามีผู้ขัดขืน ผู้นั้นจะได้รับการลงทัณฑ์ด้วยความตาย แต่เมื่อเจ้าหญิงอายุ 15 หรือ 16 ปี พระนางก็ได้มาเจอสาวชราผู้หนึ่ง ผู้ที่ไม่ได้รับข่าวการทำลายเข็มปั่นด้าย ด้วยความประหลาดตาของพระนาง พระนางจึงสนใจอยากลองปั่นด้ายขึ้นมาทันที ในที่สุด เจ้าหญิงก็โดนเข็มปั่นด้ายทิ่มแทงนิ้วและกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ตามคำสาปของนางฟ้าใจร้าย นางฟ้าใจดีทั้งหลายก็ได้กลับมา พวกเธอเสกให้ทุกคนในวังหลับหมดไปพร้อมกับเจ้าหญิง (ถ้าเจ้าหญิงตื่นเมื่อไร คนในวังก็จะตื่นเมื่อนั้น) และพวกเธอก็เสกให้ป่าไม้ที่มีหนามมากมายขึ้นรอบๆ วัง เพื่อไม่ให้มีใครเข้ามาได้
หนึ่ง ร้อยปีผ่านมา มีเจ้าชายผู้ที่ได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับเจ้าหญิงนิทรานี้ ตัดสินใจฝ่าฟันป่าขวากหนามเข้าไปหาเจ้าหญิง ด้วยความอยากพิสูจน์ว่าเรื่องราวของเจ้าหญิงเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เมื่อเจ้าชายได้เข้าไปในวังของเจ้าหญิงนิทรา เจ้าชายก็รู้ทันทีเลยว่า เรื่องเล่านั้นเป็นเรื่องจริง เจ้าชายจูบเจ้าหญิง ซึ่งทำให้เธอฟื้นขึ้นมาทันที หลังจากนั้นทุกคนในวังก็ตื่นพร้อมๆ กันกับเจ้าหญิง
เมื่อสมรสอย่างลับๆโดยนักสังคมสงเคราะห์หลวงที่เพิ่ง ฟื้นตื่น เจ้าชายจอห์นก็ยังไปเยี่ยมเจ้าหญิงอยู่ ซึ่งพระนางได้มีบุตร 2 คนให้เจ้าชาย มีชื่อว่า โลรอร์ (ฝรั่งเศส: L'Aurore แปลว่า เช้ามืด) และ เล จูร์ (ฝรั่งเศส: Le Jour แปลว่า วัน) ซึ่งเจ้าชายเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจากมารดาของเขา ผู้ที่มีเชื้อสายยักษ์ เมื่อเจ้าชายได้ขึ้นครองบัลลังก์ พระองค์ก็พาบุตรและพระชายาไปที่นครหลวงของพระองค์ ซึ่งในไม่ช้าพระองค์ได้ออกจากนครหลวง โดยให้มารดาเป็นผู้สำเร็จราชการ ในขณะที่พระองค์ไปทำศึกกับกษัตริย์เพื่อนบ้าน ผู้มีนามว่า จักรพรรดิ์คองทาลาบุทท์
มารดาราชินี ยักษ์ส่งราชินีสาว และลูกของพระนางไปที่เรือนที่แยกตัวจากวัง ซึ่งอยู่ในป่า และได้สั่งให้พ่อครัวหลวงของเธอไปที่นั่น เพื่อที่จะเอาบุตรชายของพระนางสาวมาเป็นอาหารค่ำ โดยให้ปรุงด้วยซอสโรเบิร์ท(มัสตาร์ดสีน้ำตาลของฝรั่งเศส) พ่อครัวหลวงผู้นั้นสงสารเลยใช้เนื้อลูกแกะแทน ซึ่งทำให้ราชินียักษ์โปรดโดยไม่รู้ว่าเป็นเนื้อลูกแกะ จากมื้อนี้เธอก็ได้ให้คำสั่งอีกว่าอยากรับประทานลูกสาวของพระนางสาว แต่พ่อครัวหลวงก็แอบเอาลูกแกะมาแทนเหมือนเดิมด้วยซอสโรเบิร์ทรสเลิศ เมื่อนางยักษีได้สั่งให้พ่อครัวหลวงนำพระนางสาวมาเป็นอาหารมื้อต่อไป พระนางสาวจึงอาสาเสนอมอบคอพระนางให้พ่อครัวเชื่อด โดยที่คิดว่าพระนางจะได้ไปอยู่กับบุตรทั่ง 2 ที่พระนางคิดว่าตายไปแล้ว มีการกลับมารวมกันใหม่แบบลับที่เศร้าโศกในบ้านของพ่อครัวหลวง โดยขณะที่มารดาราชินียักษ์กำลังรับประทานเนื้อกวางตัวเมียกับซอสโรเบิร์ทอ ย่างเอร็ดอร่อย ในไม่ช้านางยักษีก็รู้ความลับ และเธอก็เตรียมอ่างที่เต็มไปด้วยงูพิษและสัตว์ร้ายอื่นๆ ในสนามหลวง กษัตริย์ได้กลับมาพอดีกับในขณะเวลาที่นางยักษีกำลังดำเนินการนี้ และเมื่อนางโดนจำได้ในการกระทำชั่ว เธอก็กระโดดลงอ่างเอง และตายอย่างสาหัส และทุกๆ คนก็อยู่กันอย่างมีความสุขตลอดนิรันดร
ที่มา http://th.wikipedia.org
โฉม งามกับเจ้าชายอสูร (ฝรั่งเศส: La Belle et la B?te) เป็นนิทานโบราณดั้งเดิม ฉบับแรกซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส ประพันธ์โดย มาดามGabrielle-Suzanne Barbot de Villeneuve ใน พ.ศ. 2283 ฉบับที่มีชื่อเสียงที่สุด คือฉบับที่ได้รับการย่อเรื่องของมาดาม Villeneuve ใน พ.ศ. 2299 โดย มาดาม Jeanne-Marie Leprince de Beaumont ฉบับภาษาอังกฤษฉบับแรกได้ออกมาใน พ.ศ. 2300
หลากหลายฉบับของนิทาน เรื่องโฉมงามกับเจ้าชายอสูร ได้เป็นที่รู้จักดีในยุโรป ยกตัวอย่าง ในประเทศฝรั่งเศส Z?mire et Azor เป็นฉบับโอเปราของนิทานเรื่องนี้ ประพันธ์โดย Marmontel และจัดการบรรเลงโดย Gr?try ใน พ.ศ. 2314 ฉบับโอเปรานี้ได้รับชื่อเสียงอย่างมากในศตวรรษที่ 19.[3] ฉบับนี้เป็นฉบับที่ใช้โครงร่างของฉบับมาดาม Jeanne-Marie Leprince de Beaumont
เรื่องย่อ
พ่อ ค้าผู้ร่ำรวยผู้หนึ่งอาศัยอยู่ในเมืองกับลูกสาวสามคน ลูกสาวคนสุดท้องได้รับการตั้งชื่อว่า เบลล์ (แปลว่าสวยงาม ในภาษาฝรั่งเศส: Belle) เพราะว่าเธอเป็นเด็กที่มีจิตใจดีและบริสุทธิ์ พ่อค้าผู้มั่งมีผู้นั้นในที่สุดก็ได้สูญเสียทรัพย์หลวงใหญ่ที่เขามี ความโชคร้ายของเขานั้น ทำให้เขากับลูกทั้งสาม ต้องย้ายที่พักอาศัยไปอยู่แถบชนบท หลังจากการอาศัยอยู่กับความลำบากผ่านมาเป็นปีๆ นี้แล้ว พ่อค้าเขาได้รับข่าวว่าเรือสรรพสินค้าที่เขาเคยส่งออกขายในอดีต ได้กลับเข้ามาสู่ท่าเรือ ซึ่งเป็นเรือที่หนีเจ้าหนี้มาได้ ดังนั้นพ่อค้าผู้นั้นได้ตัดสินใจว่า เขาจะไปดูในเมืองว่าเรือนี้ยังมีอะไรเหลือให้เขาและลูกอยู่ ก่อนที่เขาจะจากลูกๆ ในชนบทไปในเมือง เขาได้ถามลูกๆ ว่าอยากได้ของขวัญอะไร ลูกคนโตทั้งสองได้บอกพ่อของพวกเธอว่าพวกเธอประสงค์เครื่องเพชร และชุดสวยงาม โดยคิดว่าพ่อจะต้องกลับมาพร้อมกับความร่ำรวย เบลล์ลูกสาวสุดท้อง อยากได้แค่เพียงดอกกุหลาบเพียงดอกเดียว เพราะไม่มีกุหลาบโตแถวชนบท พอพ่อค้าได้ถึงท่าเรือ เขาก็ได้เจอกับความผิดหวัง เพราะเรือสรรพสินค้านั้น ได้ถูกเจ้าหนี้ยึดไปเสียแล้ว ซึ่งทำได้เขาไม่มีเงินที่จะซื้ออะไรให้ลูกของเขาเลย
ระหว่างการเดิน ทางกลับของเขา พ่อค้าได้หลงทางในป่า เขาเข้าไปในปราสาท โดยการที่ต้องการหาที่พักอาศัย พอเดินเข้าไปข้างใน เขาได้พบว่าในข้างใน ได้มีโต๊ะที่มีอาหารและเครื่องดืมมากมาย ซึ่งพ่อค้ารู้ทันทีเลยว่าเจ้าของปราสาทต้องจัดไว้ให้ พ่อค้าจึงรับของเหล่านี้โดยการรับประทาน ระหว่างที่เขากำลังจะเดินกลับจากปราสาท พ่อค้าก็ได้เจอ สวนดอกกุหลาบ และเขาจำได้ทันทีเลยว่า กุหลาบเป็นสิ่งที่เบลล์ต้องการ ในขณะที่เขากำลังเด็ดดอกกุหลาบ เขาก็ได้พบเจอกับอสูร ซึ่งทำให้พ่อค้ารู้เลยว่า ดอกกุหลาบคือสิ่งที่อสูรรักและหวงมาก อสูรตัดสินใจว่าจะลงโทษการกระทำของพ่อค้า ด้วยการขังพ่อค้าโดยไม่มีวันปล่อย พ่อค้าขอร้องอสูรอิสรภาพ โดยบอกอสูรว่าที่เขาทำลงไป ก็เพราะเขาต้องการทำให้ลูกสาวของเขา เขาอยากได้ดอกกุหลาบเป็นของขวัญให้ลูกคนเล็ก เมือฟังแล้ว อสูรก็ปล่อยพ่อค้า โดยมีข้อแม้ว่าพ่อค้าจะต้องนำตัวลูกสาวเขามาแทนที่ตน
พ่อ ค้าโศกเศร้ามาก แต่เขายอมทำสิ่งที่อสูรต้องการ เมือกลับมาถึงบ้าน พ่อค้าพยายามปรกปิดเรื่องที่เกิดขึ้นจากเบลล์ แต่เบลล์เธอก็จับได้ และยินยอมที่จะไปเป็นนักโทษในปราสาทของอสูร เพราะเธอรู้ผิดที่ว่าเธอเป็นผู้ที่ต้องการกุหลาบนั้นตั้งแต่ทีแรก ในปราสาท เบลล์ได้รับการเลี้ยงดูและการเอาใจใส่อย่างดีงามมาก โดยได้รับเป็นแขกชั้นสูง อสูรได้มอบชุดสวยงามและอาหารอย่างดีให้เธอ อสูรได้สนทนากับเบลล์ทุกๆคืน และทุกๆคืน อสูรได้ขอเบลล์สมรส แต่ถูกปฏิเสธทุกครั้ง และทุกครั้งที่เธอปฏิเสธการสมรส เธอก็ได้ฝันเห็นถึงเจ้าชายโฉมงาม ผู้ที่ต้องการอยากรู้ว่าด้วยเหตุใดเธอถึงทำเช่นนี้กับเขา เบลล์ไม่คิดว่าเจ้าชายโฉมงามจะมีการเกี่ยวคล้องกับอสูร(เธอไม่คิดว่าเป็นคน เดียวกัน) เธอกลับคิดว่าอสูรได้กักขังเจ้าชายโฉมงามไว้ในปราสาท เพราะฉะนั้น เบลล์จึงค้นหาทุกซอกทุกมุมในปราสาท แต่ไม่เคยเจอเจ้าชายโฉมงามในฝันของเธอเลย
ใน ที่สุด เบลล์ก็เกิดอาการคิดถึงบ้าน และอ้อนวอนให้อสูรปลดปล่อยเธอไปหาครอบครัวเธอ อสูรทำตามใจเบลล์ แต่ต้องสัญญาว่าจะกลับมาพายในหนึ่งสัปดาห์ เบลล์ให้คำสัญญา และกลับบ้านพร้อมกับกระจกวิเศษและแหวนวิเศษ กระจกวิเศษนี้สามารถทำให้เธอมองเห็นผ่านความเงา และเห็นความเป็นอยู่ของปราสาท ส่วนแหวนวิเศษมีเวทมนตร์ที่ทำให้เธอกลับมาปราสาทได้ โดยต้องหมุนแหวนในนิ้วนางสามรอบ พอถึงบ้านพี่สาวทั้งสองได้เห็นเบลล์อยู่สุขสะบายกว่าพวกเธอ และมีเสื้อผ้าที่หรูหราใส่ พวกเธอจึงริษยาน้องสาวขึ้นมาทันที ด้วยไฟริษยาและรู้ว่าเบลล์ต้องกลับพายในหนึ่งสัปดาห์ พี่สาวทั้งสองจึงเล่นละครแกล้งร้องไห้ร่ำไรไม่ให้เบลล์กลับไปปราสาท ด้วยสัญชาตญาณที่ดีของเบลล์ เธอจึงตัดสินใจไม่กลับ
เบลล์เกิดรู้สึก ไม่ดีที่ผิดสัญญากับอสูร และใช่กระจกวิเศษมองดูว่าอสูรเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อมองในกระจก เธอได้เห็นว่าอสูรกำลังนอนใกล้จะตายด้วยความอกหัก อยู่ที่สวนกุหลาบตรงที่พ่อเธอเคยแอบเด็ดไว้ เมื่อเห็นภาพที่อนาถตาแล้ว เธอจึงใช่แหวนวิเศษกลับไปหาอสูรที่ปราสาททันที
เมื่อเบลล์ถึงสวนดอก กุหลาบ อสูรก็ได้สิ้นชีวิตแล้ว เธอร้องไห้เศร้าโศกเสียใจ และพูดเสียงแผ่วเบาหลายๆ รอบ ว่าเธอรักอสูร แต่เมื่อน้ำตาเธอหยดลงบนอสูร อสูรก็ได้ฝืนคืนชีพกลับมา และร่างกายเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงกายเป็นเจ้าชายโฉมงาม(เจ้าชายผู้เดียวกันที่ เคยมาเยือนในฝันเบลล์) เจ้าชายผู้นี้เลยเล่าเรื่องให้เบลล์ฟังว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นางฟ้าสาปให้เขากลายเป็นอสูรที่อัปลัษณ์น่าเกลียดน่ากลัว หลังจากที่ปฏิเสธให้ความช่วยเหลือเธอ ซึ่งหนีฝนมา นางฟ้าบอกเจ้าชายว่า วิธีเดียวที่จะทำให้คำสาปหายคือการหารักแท่ โดยที่ไม่ใช่รูปโฉม
ที่มา http://th.wikipedia.org
-
ตอบลบ