วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

4 หญิงงาม ในแผ่นดินจีน



ขอพูดถึง 4 หญิงงาม ในแผ่นดินจีนที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปแล้วว่ามีหญิงงามคนไหนบ้าง




ไซซี / ซีซือ - (งามจน) มัจฉาจมวารี

หวังเจาจวิน - (งามจน) ปักษีตกนภา

เตียวเสี้ยน/ เตียวฉาน - (งามจน) จันทร์หลบโฉมสุดา

หยางกุ้ยเฟย – (งามจน) มวลผกาละอายนาง



ดูคนจีนเขาเปรียบเทียบสิ มาดู แต่ละคนว่าเป็นใครกันบ้าง


1. ไซซี เมื่อไซซีทำกลศึก ให้อ๋องที่เป็นศัตรูคู่แค้นของแผ่นดินบ้านเกิดเธอหลงเสน่ห์นั้น เธอไปทำเป็นนั่งซักผ้าอยู่ริมธารตรงที่อ๋ององค์นั้นจะผ่านมา และเมื่อท่านอ๋องเสด็จขี่ม้าผ่านมาเห็นความงามของเธอ ก็หลงใหลในเสน่ห์ของเธอสมคังอุบาย พอเข้าวังไปได้แล้วเธอก็ไปดำเนินกลต่อจนอ๋ององค์นั้นเสียบ้านเสียเมืองไปเลย เล่ากันว่าเมื่อไซซีนั่งซักผ้าริมธารนั้น ปลาที่ว่ายน้ำมาเห็นเธอก็ตะลึง ลืมว่ายน้ำจมหายไปเลย จึงเปรียบเธอว่า งามจนมัจฉาจมวารี.... รูปไซซี ศิลปินจีนจึงมักวาดให้เป็นรูปหญิงงามกำลังซักผ้าริมลำธาร




2. หวังเจาจวิน เกิดเมื่อประมาณ 33 ปีก่อนคริสตกาล ในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (พ.ศ. ๓๔๑-๕๕๑) (ในรัชสมัยฮั่นหยวนตี้ ทางเหนือและใต้ทำสงครามกันไม่หยุดหย่อน ชายแดนไม่มีความสงบสุข เพื่อที่จะทำให้เผ่าซงหนูทางชายแดนด้านเหนือสงบลง ฮั่นหยวนตี้จึงได้พระราชทานนางสนมให้ สมรสกับข่านฮูหานเสีย เพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองเมือง) นางสนมคนหนึ่งนามว่าหวังเฉียง ฉายาเจาจวิน มีรูปโฉมที่งดงามและกอปรด้วยความรู้ ยินดีเสียสละเพื่อชาติที่จะไปแต่งงานยังเผ่าซงหนู



ฮ่องเต้ ฮั่นหยวนตี้

ใน ขณะที่ หวังเจาจวินกำลังแสดงความเคารพต่อฮั่นหยวนตี้อยู่นั้น พระองค์ก็ได้ทรงเห็นใบหน้าอันงดงามของหวังเจาจวิน รวมทั้งกิริยามารยาทก็สุภาพเรียบร้อย นับว่าเป็นสาวงามในราชสำนักฮั่นคนหนึ่งเลยทีเดียว

เมื่อฮั่นหยวนตี้เสด็จกลับวังแล้ว ทรงพระพิโรธเป็นอย่างยิ่ง มีบัญชาให้หัวหน้าขันทีไปนำเอารูปภาพของหวังเจาจวินมาให้ทอดพระเนตร ในรูปภาพนั้นแม้จะมีส่วนที่คล้ายคลึงอยู่บ้าง แต่ไม่มีความงดงามเหมือนหวังเจาจวินตัวจริงโดยสิ้นเชิง



หวังเจาจิน จากซีรีส์


ตามประเพณีของจีนแล้ว บรรดานางสนมที่ถูกคัดเลือกส่งเข้ามาในวัง โดยปรกติจะไม่ได้พบกับองค์ฮ่องเต้โดยตรง แต่ทางราชสำนักจะจัดให้นางสนมเหล่านั้นเป็นแบบให้จิตรกรวาดภาพ และส่งภาพเหล่านั้นไปให้ฮ่องเต้เลือก หากเป็นที่ต้องพระราชหฤทัย ก็จะได้มีโอกาสรับใช้องค์ฮ่องเต้

หนึ่งในจิตรกรที่วาดภาพเหล่านางสนมนั้น มีอยู่คนนามว่า "เหมาเหยียนโซ่ว เวลาที่วาดภาพนางสนมทั้งหลายนั้น หากนางสนมคนใดให้สินบน ก็จะวาดให้สวยงาม หวังเจาจวิน มิคิดที่จะติดสินบน ดังนั้นเหมาเหยียนโซ่ว จึงวาดภาพให้นาง "งดงามต่ำกว่าความเป็นจริง" เมื่อฮั่นหยวนตี้ทรงประจักษ์ในความจริงเช่นนี้ จึงทรงพิโรธอย่างมาก รับสั่งให้ประหารชีวิตเหมาเหยียนโซ่วทันที



หวังเจาจิน ในหนังของ ชอร์บาเดอร์


หวัง เจาจวิน เดินทางออกไปนอกด่าน ในวันที่ท้องฟ้าสดใส ระหว่างทาง เสียงม้าและเสียงนกร้องทำให้นางเศร้าโศก ยากที่จะทำใจได้ นางจึงได้ดีดพิณขึ้นเป็นทำนองที่แสดงความโศกเศร้าจากการพลัดพราก บรรดานกที่กำลังจะบินไปทางใต้ ได้ยินเสียงพิณอันไพเราะเช่นนี้ จึงมองลงไป เห็นหญิงงามอยู่บนหลังม้า ก็ตะลึงในความงาม ลืมที่จะขยับปีก จึงร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน นับแต่นั้นเป็นต้นมา

หวังเจาจวินจึงได้รับขนานนามว่า “ความงามที่ทำให้ฝูงนก ต้องร่วงหล่นจากท้องฟ้า

( ปักษีตกนภา ) นั่นเอง

หวัง เจาจวินต้องจากบ้านเกิดไปไกล อาศัยอยู่ในดินแดนของเผ่าซงหนูเป็นเวลานาน นางได้ "เกลี้ยกล่อม" ฮูหานเสียอย่าให้ทำสงคราม ทั้งยังเผยแพร่วัฒนธรรมของชาวฮั่นให้แก่ชาวซงหนูอีกด้วย นับจากนั้นเป็นต้นมา เผ่าซงหนูและราชวงศ์ฮั่นต่างก็อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และไม่มีสงครามเป็นเวลายาวนานถึงหกสิบกว่าปี




3.เตียวเสี้ยน ใน เรื่อง สามก๊ก ในกลอุบายสาวงาม ศิลปินมักวาดเป็นรูปกำลังจุดธูปเทียนบูชาพระจันทร์ เชื่อว่าเกิดใน ค.ศ. 169 ซึ่งเป็นยุคสามก๊ก และปรากฏตัวในนิยายเรื่องสามก๊กด้วย
เตียวเสี้ยน เป็นเด็กที่อ้องอุ้นขุนนางผู้ใหญ่ในพระเจ้าเหี้ยนเต้ เก็บมาเลี้ยงไว้ มีรูปโฉมที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง และมีความสามารถในการฟ้อนรำเป็นเลิศ
เมื่อ อองอุ้นมหาอำมาตย์ตงฉินผู้ซื่อต่อแผ่นดิน ซึ่งเป็นพ่อบุญธรรมของเตียวเสี้ยน วางแผนจะกำจัดกังฉินเสี้ยนหนามแผ่นดินคือตั๋งโต๊ะผู้กำเริบตั้งตนเองเป็นมหา อุปราช โดยจะใช้เสน่ห์เตียวเสี้ยนยั่วให้ตั๋งโต๊ะผิดใจกับลิโป้ อัศวินคู่ใจตั๋งโต๊ะนั้น


เตียวเสี้ยน ร่ายรำ ต่อหน้า ตั๋งโต๊ะ

ออ งอุ้นแกล้งเชิญตั๋งโต๊ะกับลิโป้มากินเลี้ยงแล้วก็บอกว่าตนมีลูกสาวบุญธรรมคน หนึ่งที่หน้าตาสวยงามมาก ลือกันว่าสวยกว่าจันทรเทวีฉางเอ๋อ จนจันทร์เจ้าอาย ทั้ง 2 กังฉินนั่นไม่รู้กลก็ตื่นเต้นอยากเห็น อองอุ้นก็แกล้งถ่วงเวลาไว้ ที่จริงอองอุ้นรู้ว่าคืนนั้นจะมีจันทรุปราคา พอใกล้เวลาจันทรคราสก็ให้เชิญเตียวเสี้ยนออกมา ทันใดนั้นพระจันทร์ก็สิ้นแสงหมดรัศมี ตั๋งโต๊และลิโป้จึงตื่นเต้นมากว่าเตียวเสี้ยนเป็นหญิงงามเย้ยจันทร์จริงๆ เตียวเสียนก็จุดธูปกระทำคารวะต่อเทพธิดาแห่งดวงจันทร์เชิญให้ออกมา จันทร์ก็สว่างดังเดิม ต่อจากนั้นทั้งสองคนก็หลงใหลเสน่ห์เตียวเสี้ยนจนโงหัวไม่ขึ้นจนถึงกับฆ่าฟัน กันเองตามกลของอองอุ้นที่วางไว้


เตียว เสี้ยนแตกต่างจากหญิงงามอีกสามคน เนื่องจากไม่ได้รับการยืนยันว่ามีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ อาจเป็นเพียงหญิงรับใช้ของตั๋งโต๊ะที่มีความสัมพันธ์กับลิโป้ ซึ่งเป็นขุนศึกของตั๋งโต๊ะเท่านั้น


4. หยางกุ้ยเฟย เป็น ชายาของฮ่องเต้ถังเสวียนจง ในราชวงศ์ถัง ศิลปินมักวาดเป็นสองรูป คือตอนกำลังเมาเหล้าเริงระบำ หรือตอนกำลังออาบน้ำร้อน เธอได้ชื่อว่ามีรูปโฉมงามมากจนกระทั่ง เมื่อตามเสด็จพระเจ้าถังเสวียนจงฮ่องเต้ประพาสสวนหลวง ดอกไม้ต่างๆ ก็หุบกลีบ ไม่กล้าแย้มบานประชันความงามกับเธอเลย จึงได้สมญาว่า งามจน มวลผกาละอายนาง

จักรพรรดิ ซวนจ่งลุ่มหลงในความงามของหยางกุ้ยเฟย จนไม่สนใจในการปกครองอาณาประชาราษฎร์ บริหารราชการแผ่นดิน จนประเทศจีนได้รับการคุกคามจากศัตรูภายนอก และบรรดาขุนนางต่างคุกคามฮ่องเต้ ให้ประหารหยางกุ้ยเฟย โดยโทษไปที่หยางกุ้ยเฟย ที่เป็นเหตุให้ฮ่องเต้บริหารราชการผิดพลาด ไม่เอาใจใส่ ด้วยเหตุนี้ หยางกุ้ยเฟยจึงแขวนคอตายเพื่อประเทศและฮ่องเต้ชายอันเป็นที่รัก



สถานที่ท่องเที่ยวเมือง ซีอาน เรียกว่า xianhuaqing มีรูปปั้นของ หยางกุ้ยเฟยอยู่

รูปปั้น หยางกุ้ยเฟย

แต่ เรื่องของสนมหยางจบเศร้ากว่าคนอื่นๆ ที่จริงนางงามคนอื่นอีก 3 คนก็ไม่ใช่ว่าจะมีความสุข ทุกคนต้องสละความงามของตนเพื่อแลกกับผลทางการเมืองทั้งนั้น แต่ก็ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรสตรี สละตนเพื่อแผ่นดิน แต่หยางกุ้ยเฟยได้รับคำประณามว่า ความงามของเธอก่อผลสะเทือนทางการเมืองจนพระเจ้าถังเสวียนจงต้องสูญราช บัลลังก์ แพ้ข้าศึก และมติมหาชนประณามเธอ จนขุนทหารราชวงศ์ถังบีบบังคับให้เธอต้องผูกคอตาย เพราะหาว่าเธอเป็นต้นเหตุความพินาศของบ้านเมือง



-------------------------------------------------------------------------------------


ในวรรณคดีไทยเรา ก็มีเรื่องราวที่เกิดเพราะ ความงาม

ของชายหญิง มาเป็นปัญหาให้เกิดเรื่อง


นางกากี มเหสีของท้าวพรหมทัต ที่นอกจากจะรูปงามแล้ว ยังมีกลิ่นกายหอม




เธอมีองค์อัคเรศวิไลลักษณ์.....................ประไพพักตร์งามเพียงอัปสรสวรรค์
ชื่อกากีศรีวิลาสดั่งดวงจันทร์....................เนื้อนั้นหอมฟุ้งจรุงใจ
เสมอเหมือนกลิ่นทิพมณฑาทอง..............ผู้ใดต้องสัมผัสพิสมัย
กลิ่นกายติดชายผู้นั้นไป..........................ก็นับได้ถึงเจ็ดทิวาวาร
ดังหทัยนัยเนตรกรุงกษัตรย์.....................พูนสวัสดิ์สังวาสเกษมศานต์
เป็นเอกองค์ในอนงค์บริพาร.....................ประมาณหมื่นหกพันกัลยา


เรื่องจึงเกิดเพราะความงามของกากีนี่ล่ะครับ เมื่อครุฑปลอมตัวมาเป็น เพื่อเล่นสกากับท้าว พรหมทัต และเมื่อเห็นนางกากีก็ชอบ จึงมาลอบลักเอานางไปเก็บไว้ในวิมานฉิมพลี ของตน



คนธรรพ์ (ผู้มีความสามารถทางดนตรีขับกล่อม ) อาสาไปตามนางกลับ แอบแปลงเป็นไรติดปีกพระยาครุตไป เมื่อพระยาครุตเผลอ กลับแอบไปลักลอบได้เสียกับนางกากีอีกคน




เมื่อถึงกำหนด 7 วัน พระยาครุฑก็จำต้องมาเล่นสกากับพระเจ้าพรหมทัต คนธรรพ์ก็แปลงเป็นไร
เกาะปีกพระยาครุฑ กลับมาด้วย และวางแผนจับผิดพระยาครุฑระหว่างการเล่นสกา ระหว่างบรรเลง
ดนตรีกล่อม โดยคนธรรพ์แต่งเพลงยั่วยุให้พระยาครุฑโกรธ

โดยพรรณาถึงเรื่องราวระหว่างตน
กับนางกากี




พระยาครุฑโกรธมากที่นางกากีทรยศต่อตัวเอง เมื่อกลับไปก็คาดคั้นเอาความจริง
กับนางกากี แต่นางกากียอมรับตอนหลังอ้างว่าถูกบังคับ ซึ่งพระยาครุฑไม่เชื่อและส่งนางกากี
กลับคืน




พระเจ้าพรหมทัตทั้งรักทั้งแค้นทั้งอับอาย ทรงตัดเยื่อใยนางกากีและสั่งให้มหาดเล็ก
นำไปลอยแพในมหาสมุทร





-----------------------------------------------------------------------------



ด้านฝ่ายชาย ก็มี ในวรรณคดี เรื่อง ลิลิตพระลอ

เรื่องราวที่เกิดขี้น เพราะความรูปงาม ของพระลอ แท้ๆ


จากหนังไทย เรื่อง พระลอ แสดงโดย มิตร , เพชรา , เยาวเรศ



พระ ลอเป็น พระยุพราชของเมืองสรวง ซึ่งเป็นอริกับเมืองสรอง อันเป็นเมืองของคู่แฝด พระเพื่อน พระแพง เมื่อพระเพื่อน พระแพง ได้ยินถึงรูปงามของพระลอก้เกิดหลงใหล ลองมาอ่าน เพลงชมโฉม พระลอ ดู สิครับ

ยอยศพระลอ

ร่าย รอย รูปอินทร์
หยาด ฟ้า เออ
มา อ่า องค์ ในหล้า
แหล่งให้ คน ชม

ร่าย งาม สม เออ
ขุนลอท้าว น้ำพระทัย ณ หัวเจ้า
ยิ่งแม่ กาหลง

ร่าย ยาม พระทรง คชสาร
เออ
พระยิ่งหาญ ยิ่งกล้า
เกินพระยา สีหราช ท้าว
กลาง ศึก
พระบาทเจ้า ล้าน
โลกใครบ่เท่า
พ่อขุน แมน-สรวง

หลายท่านคงคุ้นเคย กับโคลงบทนี้

.เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย
เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า
สองเขือพี่หลับใหล ลืมตื่น ฤๅพี่
สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ถามเผือฯ


ดังนั้น 2 ศรี จึงได้ไปหา ปู่เจ้า สมิงพราย เพื่อทำเสน่ห์

พระ ลอเมื่อได้รับมนต์ ก็อยู่ไม่ติด ต้องออกมาจากวัง . ปู่เจ้าสมิงพราย ก็ให้ไก่เสก ไปล่อพระลอให้ตาม ดังที่มาของเพลง พระลอตามไก่ มาหลงอยู่ในสวนของพระเพื่อน-พระแพง เพื่อให้ทั้งสองมาพบ

แต่ในตอนจบกลับเกิดโศกนาฏกรรมความรัก ที่ทำให้ทั้งสาม ต้องมาตายด้วยคันศรธนู

โชคดีนะที่เราๆ ท่านๆ ไม่ สวย หรือ หล่อ มากเกินไป จนทำให้เกิดเรื่องราวยุ่งเหยิงอย่างนี้

oknation




1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ5 สิงหาคม 2553 เวลา 00:11

    เรื่องลิลิตพระลอ ผู้หญิงสมัยนั้นก็คิดชั่วเหมือนกันเนาะ อยากได้ผู้ชายก็เล่นเสน่ห์ยาแฝดกันเลย เพราะกามโลกีย์ไม่รักนวลสงวนตัวเลยยอมผู้ชายทั้งพี่ทั้งน้อง

    ตอบลบ

อารายเหรอ