ในหลวงเราก็เสียภาษีด้วยนะ
ทรัพย์สินของพระองค์ แบ่งเป็น สองประเภทคือ
ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กับ ทรัพย์สินส่วนพระองค์
ส่วนแรกจะได้รับการยกเว้นการเสียภาษี
ส่วนที่สองซึ่งเป็นส่วนของพระองค์เองยังต้องเสียภาษีอยู่
ดังรายละเอียดดังนี้...
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (Crown Property Bureau หรือย่อว่า CPB)
เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตามความใน พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์
พุทธศักราช 2479 เดิมมีฐานะเป็นหน่วยงานราชการ สังกัดกระทรวงการคลัง และได้ยกฐานะขึ้น
เป็นนิติบุคคลเมื่อปี พ.ศ. 2491 มีหน้าที่ดูแลรักษาและบริหารทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
ที่กำหนดให้แยกต่างหากจากทรัพย์สินส่วนพระองค์
(เช่น วังสระปทุม ที่ทรงได้รับสืบทอดมาจากพระราชบิดา)
ซึ่งดูแลโดยสำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์
และทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน (เช่น
พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน) ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง
ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในความดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
กล่าวโดยสรุปแล้วก็คือพระราชทรัพย์ของราชวงศ์จักรีที่ แยกต่างหากจากทรัพย์สินของราชการ
เช่น
เงินจากการแต่งสำเภาค้าขายต่างประเทศของรัชกาลที่ 3 หรือที่เรียกว่า "เงินถุงแดง"
ซึ่งตกทอดมาถึงรัชกาลที่ 5 และใช้จ่ายค่าปฏิกรรมสงครามแก่ประเทศฝรั่งเศส หลังเหตุการณ์
สงคราม ร.ศ. 112 ซึ่งมีส่วนช่วยให้ประเทศสยามรักษาเอกราชไว้ได้ หรือ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย
ที่ก่อตั้งโดยรัชกาลที่ 6
ต่อมาภายหลังการปฏิวัติปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ. 2475
เนื่องจากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นพระราชทรัพย์ของราชวงศ์จักรีที่
แยกต่างหากจากทรัพย์สินของราชการ เพื่อความเหมาะสมจึงมีการออกกฎหมายกำหนดให้มีผู้
รับผิดชอบบริหารจัดการ ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์โดยเฉพาะ คือ พระราชบัญญัติจัดระเบียบ
ทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช 2479 และมีการแก้ไขปรับปรุงมาจนถึงปัจจุบัน
ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในความดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหา กษัตริย์ ได้รับ
การยกเว้นภาษีอากรเช่น เดียวกับทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามความในมาตรา
8 แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช 2479
ในขณะที่ทรัพย์สินส่วนพระองค์ในความดูแลของสำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ไม่ได้
รับการยกเว้นภาษีอากร
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีทรัพย์สินในความดูแลเป็นที่ดินกว่า 54 ตร.กม.ใน
กรุงเทพมหานคร และ 160 ตร.กม.ในจังหวัดอื่น โดยทำสัญญาให้เช่าแก่หน่วยงานราชการ
องค์กรธุรกิจและบุคคลทั่วไปรวมประมาณ 36,000 สัญญา
นอกจากนี้ยังมีหลักทรัพย์ลงทุนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยส่วนใหญ่เป็นหุ้นใน 3 บริษัทหลักคือ
ปูนซิเมนต์ไทย
ธนาคารไทยพาณิชย์
และเทเวศประกัน
ข้อมูลจาก baanjomyut
ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กับ ทรัพย์สินส่วนพระองค์
ส่วนแรกจะได้รับการยกเว้นการเสียภาษี
ส่วนที่สองซึ่งเป็นส่วนของพระองค์เองยังต้องเสียภาษีอยู่
ดังรายละเอียดดังนี้...
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (Crown Property Bureau หรือย่อว่า CPB)
เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตามความใน พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์
พุทธศักราช 2479 เดิมมีฐานะเป็นหน่วยงานราชการ สังกัดกระทรวงการคลัง และได้ยกฐานะขึ้น
เป็นนิติบุคคลเมื่อปี พ.ศ. 2491 มีหน้าที่ดูแลรักษาและบริหารทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
ที่กำหนดให้แยกต่างหากจากทรัพย์สินส่วนพระองค์
(เช่น วังสระปทุม ที่ทรงได้รับสืบทอดมาจากพระราชบิดา)
ซึ่งดูแลโดยสำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์
และทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน (เช่น
พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน) ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง
ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในความดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
กล่าวโดยสรุปแล้วก็คือพระราชทรัพย์ของราชวงศ์จักรีที่ แยกต่างหากจากทรัพย์สินของราชการ
เช่น
เงินจากการแต่งสำเภาค้าขายต่างประเทศของรัชกาลที่ 3 หรือที่เรียกว่า "เงินถุงแดง"
ซึ่งตกทอดมาถึงรัชกาลที่ 5 และใช้จ่ายค่าปฏิกรรมสงครามแก่ประเทศฝรั่งเศส หลังเหตุการณ์
สงคราม ร.ศ. 112 ซึ่งมีส่วนช่วยให้ประเทศสยามรักษาเอกราชไว้ได้ หรือ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย
ที่ก่อตั้งโดยรัชกาลที่ 6
ต่อมาภายหลังการปฏิวัติปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ. 2475
เนื่องจากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นพระราชทรัพย์ของราชวงศ์จักรีที่
แยกต่างหากจากทรัพย์สินของราชการ เพื่อความเหมาะสมจึงมีการออกกฎหมายกำหนดให้มีผู้
รับผิดชอบบริหารจัดการ ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์โดยเฉพาะ คือ พระราชบัญญัติจัดระเบียบ
ทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช 2479 และมีการแก้ไขปรับปรุงมาจนถึงปัจจุบัน
ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในความดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหา กษัตริย์ ได้รับ
การยกเว้นภาษีอากรเช่น เดียวกับทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามความในมาตรา
8 แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช 2479
ในขณะที่ทรัพย์สินส่วนพระองค์ในความดูแลของสำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ไม่ได้
รับการยกเว้นภาษีอากร
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีทรัพย์สินในความดูแลเป็นที่ดินกว่า 54 ตร.กม.ใน
กรุงเทพมหานคร และ 160 ตร.กม.ในจังหวัดอื่น โดยทำสัญญาให้เช่าแก่หน่วยงานราชการ
องค์กรธุรกิจและบุคคลทั่วไปรวมประมาณ 36,000 สัญญา
นอกจากนี้ยังมีหลักทรัพย์ลงทุนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยส่วนใหญ่เป็นหุ้นใน 3 บริษัทหลักคือ
ปูนซิเมนต์ไทย
ธนาคารไทยพาณิชย์
และเทเวศประกัน
ข้อมูลจาก baanjomyut
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
อารายเหรอ